วันศุกร์, 3 พฤษภาคม 2567

วาติกัน แสดงจุดยืนต่อต้านการแปลงเพศ-อุ้มบุญ

สำนักวาติกัน แสดงจุดยืนการต่อต้านการแปลงเพศ เพศวิภาษ และการอุ้มบุญ เช่นเดียวกับการทำแท้ง และการการุณยฆาต แม้โป๊ปฟรานซิสจะประกาศอนุญาตให้นักบวชคาทอลิกให้พรแก่คู่สมรสเพศเดียวกันได้ก็ตามเมื่อวันจันทร์ (๘ เม.ย. ๖๗) สำนักวาติกัน แสดงจุดยืนการต่อต้านการแปลงเพศ เพศวิภาษ และการอุ้มบุญ เช่นเดียวกับการทำแท้ง และการการุณยฆาต แม้สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสจะประกาศอนุญาตให้นักบวชคาทอลิกให้พรแก่คู่สมรสเพศเดียวกันได้ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาก็ตามในขณะเดียวกัน พระคาร์ดินัลวิกเตอร์ มานูเอล เฟอร์นันเดซ ผู้อำนวยการสำนักงานหลักคำสอน (DDF) กล่าวว่า วาติกันไม่เห็นด้วยกับการที่หลายประเทศทำให้การรักร่วมเพศเป็นอาชญากรรม โดยได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มคาทอลิกในท้องถิ่นการเปิดเผย “ดิกนิตัส อินฟินิตา” (Dignitas infinita) ซึ่งเป็นเอกสารความยาว ๒๐ หน้าของสำนักวาติกัน เกิดขึ้นภายหลังการตอบโต้อย่างดุเดือดของฝ่ายอนุรักษนิยม โดยเฉพาะในแอฟริกา เพื่อต่อต้านคำประกาศก่อนหน้าของ DDF ในประเด็น LGBTQไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าเอกสารดังกล่าว ซึ่งอธิบายสิ่งที่ศาสนจักรมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อศักดิ์ศรีของมนุษย์นั้น จัดทำขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความขัดแย้งเรื่องการอนุญาตให้นักบวชคาทอลิกให้พรแก่คู่สมรสเพศเดียวกันได้ เนื่องจากใช้เวลาในการจัดทำมาถึง ๕ ปี แต่ก็มีการแก้ไขหลายครั้งในช่วงเวลาดังกล่าวเฟอร์นันเดซ ระบุในแถลงการณ์ว่า เมื่อเดือนที่แล้วสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงอนุมัติเอกสารดังกล่าว หลังจากทรงขอให้กล่าวถึง “ความยากจน สถานการณ์ของผู้อพยพ ความรุนแรงต่อสตรี การค้ามนุษย์ สงคราม และประเด็นอื่นๆ” คำประกาศดังกล่าวยังระบุว่า การอุ้มบุญเป็นการละเมิดศักดิ์ศรีของทั้งแม่อุ้มบุญและเด็ก และระบุว่าเมื่อเดือนมกราคม สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงเรียกการกระทำนี้ว่า “น่ารังเกียจ” และทรงเรียกร้องให้มีการห้ามการอุ้มบุญทั่วโลกสำหรับประเด็นเพศวิภาษนั้น เอกสารระบุว่า “ความปรารถนาในสิทธิในการกำหนดใจตนเอง เท่ากับเป็นการยินยอมให้สิ่งล่อใจที่มีมาช้านานให้ตั้งตนเป็นพระเจ้า ที่เท่ากับเป็นการแข่งขันกับพระเจ้าแห่งความรักที่แท้จริงที่เปิดเผยต่อเราในพระวรสาร”เพศวิภาษ เสนอว่า เพศมีความซับซ้อนและลื่นไหลมากกว่ากลุ่มไบนารี่ของชายและหญิง และขึ้นอยู่กับลักษณะทางเพศมากกว่าสิ่งที่มองเห็นได้คำประกาศดังกล่าวระบุว่า “ตามกฎแล้ว การแทรกแซงการเปลี่ยนแปลงเพศใดๆ ก็ตาม มีความเสี่ยงที่จะคุกคามศักดิ์ศรีอันเป็นเอกลักษณ์ที่บุคคลนั้นได้รับตั้งแต่ตอนที่ปฏิสนธิ” และแสดงการรับทราบถึงความเป็นไปได้ของการผ่าตัดเพื่อแก้ไข “ความผิดปกติเกี่ยวกับอวัยวะเพศ” แต่เน้นว่า “ขั้นตอนทางการแพทย์ดังกล่าวจะไม่ถือเป็นการเปลี่ยนเพศในแง่ที่ตั้งใจไว้ ณ ที่นี้”อย่างไรก็ตาม วาติกันพยายามติดต่อกับบุคคลข้ามเพศที่ได้รับอนุมัติจาก DDF ให้รับบัพติศมาและทำหน้าที่เป็นพ่อแม่อุปถัมภ์ และเคยอยู่ในกลุ่มผู้ได้รับเชิญให้มายังวาติกันเฟอร์นันเดซ นักเทววิทยาเสรีนิยมและเป็นเพื่อนของสมเด็จพระสันตะปาปา แสดงการปกป้องสิทธิ์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ในการแก้ไขจุดยืนของคริสตจักรให้สอดคล้องกับยุคสมัย โดยระบุว่าคริสตจักรได้เปลี่ยนจุดยืนจากการสนับสนุนไปสู่การประณามการเป็นทาสคำแถลงดังกล่าวยิ่งเป็นการตอกย้ำจุดยืนการประณามการทำแท้ง การการุณยฆาต และโทษประหารชีวิต ของวาติกัน นอกจากนี้ รายงานยังกล่าวถึงการล่วงละเมิดทางเพศว่าเป็นภัยคุกคามต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ โดยเรียกสิ่งนี้ว่า “แพร่หลายในสังคม” รวมถึงภายในคริสตจักรคาทอลิก รวมถึงการกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ต และการละเมิดในรูปแบบอื่นๆ ทางออนไลน์.ที่มา Reutersติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign