วันอาทิตย์, 12 พฤษภาคม 2567

“อุ๊งอิ๊งค์” ต้องพิสูจน์ตัวเอง

09 เม.ย. 2024
21

สมรภูมิการเมืองนั้นมีสิ่งจูงใจหลายด้านที่ทำให้หลายคนอยากเข้าไปทดลองอยากเข้าไปแสวงหา เพราะความเย้ายวนของมัน “อำนาจ” และ “ผลประโยชน์” นั้นหอมหวนชวนลิ้มลองนักเช่นกันอีกด้านหนึ่งก็มีความโหดร้ายหากหลงติดหรือคิดถึงผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องอีกด้านหนึ่งก็สามารถตอบสนองพวกมี “อุดมคติ” พวกมี “อุดมการณ์” ที่จะนำทางไปสู่ความสำเร็จหรือล้มเหลวก็ได้ที่สุดแล้วอยู่ที่ความต้องการของผู้เล่นเข้ามาสู่วงจรนี้อย่างที่ถกเถียงกันว่าดีเอ็นเอนั้น มาจากนามสกุลหรือผลงานคำตอบที่น่าจะเป็นจริงที่สุดก็คือนามสกุลมากกว่าผลงานเพราะนามสกุลนั้น มาก่อนผลงานเป็นแน่แท้“เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ที่ผ่านเข้ามาในวงจรนี้ก็เพราะเจ้าตัวเลือกที่จะเดินเส้นทางนี้เอง ไม่มีใครบังคับหรือชี้นิ้วสั่งได้ดังนั้นผลจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็ต้องยอมรับโดยดุษณี จะไปโทษคนอื่นไม่ได้“แพทองธาร ชินวัตร” (อุ๊งอิ๊งค์) ก็เช่นกัน หากตัวเองไม่ปรารถนาก็ไม่มีใครจะไปบังคับได้อย่างที่ “ทักษิณ” บอกว่าเขาไม่บังคับลูกอยู่ที่การตัดสินใจของเขาเองที่สนับสนุนก็เพราะมีแววในเรื่องนี้ตั้งแต่เด็กและมั่นใจดีเอ็นเอของเขาและคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ (ภรรยา) คงทำให้เขามีความสามารถและทำหน้าที่ได้อย่างดี“สำหรับอุ๊งอิ๊งค์นั้น มั่นใจว่าสามารถนำทีมพลิกเกมได้ไม่ยาก เพราะมีดีเอ็นเอระหว่างคุณหญิงพจมานและตนผสมกันคือ เอาส่วนที่เข้มแข็งอดทนเด็ดขาดจากคุณหญิง และเอาส่วนที่พบปะผู้คนเข้าใจการเมืองมาจากตน เชื่อว่าเขาเป็นผู้นำที่ดีได้ ไม่ใช่เชียร์ลูกแต่ในเมื่อทำได้ ดีเอ็นเอก็ต้องทำได้และทำได้ดีกว่าด้วย”ก็น่าจะอธิบายความได้อย่างชัดเจนว่า อะไรเป็นอะไรอย่างหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ “อุ๊งอิ๊งค์” นั้น มีความได้เปรียบมากกว่านักการเมืองคนอื่นๆตรงที่ทุกอย่างครอบครัวสร้างเอาไว้ให้แล้วเพียงแต่ต่อยอดให้ไปสู่ความสำเร็จเท่านั้นอีกทั้ง นอกจากจะสร้างเอาไว้ให้แล้วยังทำหน้าที่ปรึกษาได้ตลอดเวลาเพราะความเป็นพ่อ-ลูกกัน ซึ่งไม่ผิดกติกาแต่อย่างใดในตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญที่พรรคนี้สงวนไว้สำหรับคนในครอบครัวเท่านั้นที่หลงเข้ามาได้บางคนก็เพราะความจำเป็นแต่เมื่อมีปัญหาด้วยความไว้วางใจก็คงเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นจึงเป็นการเมืองแบบ “ครอบครัว” คนอื่นเป็นได้แค่ผู้ร่วมงานเท่านั้นเคยมีปัญหาเรื่องนี้เมื่อถูกทวงถามว่า ทำไมไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นบ้าง คำตอบที่ได้รับคือ เขาลงทุนทุกอย่างก็ต้องกำหนดทุกอย่างเองทั้งหมดพูดง่ายๆก็คือ เขาเป็นเจ้าของบริษัทใคร ไม่พอใจก็ออกไปก็ไม่รู้ว่าเมื่อสภาพเป็นอย่างนี้แต่ก็ยังมีคนที่ยึดโยงยอมรับสภาพได้ ซึ่งแน่นอนว่าแบรนด์นี้มีจุดเด่นที่ยังขายในตลาดการเมืองไทยได้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ “อุ๊งอิ๊งค์” ในฐานะผู้สืบทอดมรดกก็ต้องพิสูจน์ตนเองให้ได้ จะสามารถนำพาพรรคไปสู่จุดหมายปลายทางสำเร็จหรือไม่นี่เป็นความสามารถเฉพาะตัวที่ไม่มีใครสามารถช่วยได้!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม