วันเสาร์, 4 พฤษภาคม 2567

"ราเมศ" ติง รัฐบาลไม่จริงใจ แก้รัฐธรรมนูญ ย้ำจุดยืน ปชป.ไม่แตะหมวด ๑-๒

20 เม.ย. 2024
15

“ราเมศ รัตนะเชวง” โฆษก ปชป.ติง รัฐบาลไม่จริงใจ แก้รัฐธรรมนูญ ชี้ พยายามถ่วงเวลามานานแล้ว ย้ำ จุดยืน ปชป.ต้องไม่แตะหมวด ๑-๒วันที่ ๒๐ เม.ย. ๒๕๖๗ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีการทำประชามติเพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่า หลักการของพรรคชัดเจนว่า รัฐธรรมนูญต้องแก้ไขเพิ่มเติมให้มีความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์มากกว่าฉบับปัจจุบัน ขณะนี้มีการถกเถียงเรื่องการทำประชามติว่า ต้องดำเนินการกี่ครั้ง รัฐบาลก็ต้องตัดสินใจเพราะเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลได้ประกาศต่อประชาชนว่า จะทำอย่างเร่งด่วน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า รัฐบาลพยายามถ่วงเวลามานานแล้ว หากพิจารณารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันระบุไว้ชัดว่า คือให้มีการทำประชามติ หลังจากพิจารณาครบสามวาระแล้ว ให้ไปทำประชามติก่อน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๕๖ (๘) มีบทบัญญัติเป็นกรณี เฉพาะที่ไม่ปรากฏในรัฐธรรมนูญฉบับใดที่ได้บัญญัติไว้ว่า หากมีการแก้ไขเพิ่มเติมในหมวด ๑๕ อันว่าด้วยการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจะต้องจัดให้มีการออกเสียงประชามติ ตามกฎหมายว่าด้วยการออกเสียงประชามติ และผลการออกเสียงประชามติ เห็นชอบด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม จึงจะแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามที่เสนอได้ คือ การจัดตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร. เมื่อ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร. ร่างเสร็จแล้วก็ต้องไปถามประชาชนโดยการออกเสียงประชามติอีกครั้ง ก็ถือว่าสมบูรณ์ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งหากเพิ่มการถามประชามติก่อนดำเนินการในสภา ก็จะไม่สอดคล้องกับหลักการของรัฐธรรมนูญนายราเมศ กล่าวตอนท้ายว่า ขณะนี้บางฝ่ายพยายามดึงศาลรัฐธรรมนูญมาเป็นคู่กรณีด้วยในทางการเมือง ว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ แต่หากไปศึกษาคำวินิจฉัยโดยละเอียดจะเห็นว่า คำวินิจฉัยไม่ได้เป็นอุปสรรค แต่อุปสรรคอยู่ที่ฝ่ายปฏิบัติที่ไม่กล้าในการตัดสินใจ”ในส่วนของพรรคยืนยันหลักการเดิมคือรัฐธรรมนูญต้องมีความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ การแก้ไขเพิ่มเติมมีความจำเป็นต้องทำ และการแก้ไขจะต้องไม่ไปกระทบกับหมวดหนึ่งและหมวดสอง จึงต้องเรียกร้องให้รัฐบาลรีบตัดสินใจอย่ายื้อเวลา แต่ถ้าคิดว่าระบบประชาธิปไตยคือเครื่องมือในการเข้าสู่อำนาจ รัฐบาลก็ยื้อเวลาต่อไป” นายราเมศ กล่าว