วันจันทร์, 6 พฤษภาคม 2567

ตำรวจมาเลเซียรวบหญิงก่อเหตุสาดน้ำร้อนใส่ชายดาวน์ซินโดรมในลิฟต์ (ชมคลิป)

21 เม.ย. 2024
21

ตำรวจมาเลเซียจับกุมตัวหญิงรายหนึ่งที่ก่อเหตุสาดน้ำร้อนใส่ชายดาวน์ซินโดรม ในลิฟต์ของอพาร์ตเมนต์ในรัฐปีนัง โดยแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายตำรวจมาเลเซียได้จับกุมหญิงคนหนึ่ง หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ชายที่เป็นดาวน์ซินโดรมมีแผลพุพองบนร่างกาย ซึ่งสงสัยว่าเกิดจากการถูกน้ำร้อนสาดขณะอยู่ในลิฟต์ของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองบายัน เลอปาส รัฐปีนังตำรวจรัฐปีนังกล่าวว่าหญิงวัย ๓๙ ปี ถูกจับกุมเมื่อเวลา ๐๙.๒๑ น. เมื่อคืนวันศุกร์ (๑๙ เม.ย.) ที่ผ่านมา โดยผู้หญิงคนดังกล่าวอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ และถูกควบคุมตัวเพื่อนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุของเหตุการณ์นี้ก่อนหน้านี้สื่อมาเลเซียรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ผู้เสียหายวัย ๓๓ ปี กำลังกลับไปที่ห้องพักของเขาบนชั้น ๑๖ จากนั้นเขาได้แจ้งให้น้องสาวทราบเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อเวลาประมาณ ๐๙.๒๐ น. ของวันศุกร์จากรายงานของ น.ส.กฤษณา อามี วัย ๒๓ ปี น้องสาวของเหยื่อ พี่ชายของเธอที่เป็นดาวน์ซินโดรม กล่าวอ้างในตอนแรกว่าถูกผู้หญิงคนหนึ่งสาดน้ำกรดขณะอยู่ในลิฟต์ ทำให้เกิดแผลไหม้ตามร่างกาย เหยื่อถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลปีนังเพื่อรับการรักษา และต่อมาเจ้าหน้าที่การแพทย์ยืนยันว่า ผู้เสียหายมีแผลพุพองที่ด้านหน้าและด้านหลังของร่างกายเนื่องจากการสัมผัสกับน้ำร้อน ไม่ได้เกิดจากน้ำกรด และขณะนี้อาการของเขาทรงตัวแล้วภาพจากวิดีโอความยาว ๒๐ วินาทีของเหตุการณ์ในลิฟต์ได้แพร่สะพัดไปในโซเชียลมีเดีย และชาวเน็ตต่างประณามการกระทำของหญิงรายนี้ ซึ่งมีชื่อว่า “เชีย ฮวย ติง” วัย ๓๙ ปี ซึ่งทำงานเป็นผู้ช่วยฝ่ายขายของบริษัทแห่งหนึ่ง เธอถูกควบคุมตัวเป็นเวลา ๔ วันตั้งแต่วันเสาร์ถึงวันพุธ เพื่อสอบสวนคดีดังกล่าวตามมาตรา ๓๒๔ แห่งประมวลกฎหมายอาญาน.ส.กฤษณา อามี กล่าวว่า เธอและพี่ชายไม่รู้จักผู้หญิงคนดังกล่าว ไม่เคยคุย และไม่รู้ว่าปัญหาคืออะไร เธอกล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุ เธอเพิ่งเข้านอนหลังจากกลับจากทำงานกะกลางคืน และถูกแม่ปลุกเมื่อเวลาประมาณ ๑๐.๐๐ น. โดยเล่าว่าพี่ชายของเธอ ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด เนื่องผิวหนังที่ถูกน้ำร้อนลวกและมีแผลพุพอง ก่อนที่จะเดินทางไปที่คลินิกแห่งหนึ่ง และส่งต่อไปที่โรงพยาบาลปีนัง หลังจากนั้นเธอได้ติดต่อไปที่เจ้าหน้าที่อพาร์ตเมนต์เพื่อขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด.ที่มา Bernamaติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign