Monday, 20 May 2024

นายทุนเช่าพื้นที่ คทช. ป่าแม่ยวมฝั่งซ้าย ให้ชาวบ้านปลูกข้าวโพด ส่อรุกเพิ่ม

21 Apr 2024
21

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่มีการร้องเรียน มีบุคคลภายนอกมาขอเช่าพื้นที่ เขตป่าสงวนแห่งชาติแม่ยวมฝั่งซ้าย ต.แม่เหาะ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นพื้นที่ชั้นลุ่มน้ำระดับ A๑ หวั่นมีการบุกรุกแผ้วถางเพิ่มเติมวันนี้ ๒๐ เมษายน ๒๕๖๗ เวลา ๐๙.๓๐ น. นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง มอบหมายให้ นายวีกิจ เจ้าดูรี ปลัดอำเภอผู้รับผิดชอบงานศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่สะเรียง นายศตวรรษ สารถี ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอแม่สะเรียง นางแสงอรุณ นาคยิ้ม พนักงานราชการฝ่ายปกครอง และสมาชิก อาสาสมัครกองร้อย อส. อ.แม่สะเรียงที่ ๓ พร้อมกับเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าไม้ที่ ๕ แม่สะเรียง และผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่มีการร้องเรียนว่า มีบุคคลภายนอกมาขอเช่าพื้นที่ในหมู่ บ้านดงหลวง ม.๗ และบ้านห้วยปลากั้ง ม.๘ ตำบลแม่เหาะ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ชั้นลุ่มน้ำ A๑ เพื่อปลูกขิง และข้าวโพด หากปล่อยให้มีการกระทำดังกล่าวจะทำให้มีการบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้น จึงได้แจ้งข้อสั่งการของนายอำเภอแม่สะเรียง ให้ราษฎรในหมู่บ้านทราบ ดังนี้ ๑. พื้นที่หมู่บ้านดงหลวง บ้านห้วยปลากั้ง และอีกหลายหมู่บ้านในตำบลแม่เหาะ เป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่ยวมฝั่งซ้าย ซึ่งเป็นพื้นที่ชั้นลุ่มน้ำระดับ A๑ โดยมีความสำคัญคือเป็นป่าต้นน้ำที่สำคัญของจังหวัดแม่ฮ่องสอนและประเทศไทย ๒. สำหรับเจ้าของพื้นที่ทำกินในพื้นที่ป่า (เดิม) ได้รับการจัดทำรูปแปลงตามโครงการ คทช.จังหวัดแม่ฮ่องสอน และบางพื้นที่ได้คุ้มครองผ่อนผันให้เป็นพื้นที่ทำกินตามคำสั่ง คสช.ที่ ๖๖/๒๕๕๗ ในลักษณะไร่หมุนเวียน ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากระบบภูมิสารสนเทศของกรมป่าไม้ แต่ต้องไม่ใช่การแผ้วถางเพิ่มเติมในจุดใหม่ ๓. การนำพื้นที่ทำการเกษตรที่อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนออกให้บุคคลอื่นเช่านั้น ถือเป็นการกระทำที่ผิดเงื่อนไข (คทช.) ที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้สามารถทำการเพิกถอนสิทธิ การใช้พื้นที่ คทช.ได้๔. แม้ว่าการปลูกขิง ข้าวโพด และการทำเกษตรเชิงเดี่ยวไม่มีกฏหมายห้ามให้เกษตรกรปลูก แต่การปลูกพืชเหล่านี้ทำให้คุณภาพดินในพื้นที่ดังกล่าวฯเสื่อมโทรมอย่างรวดเร็ว และเมื่อดินเสื่อมโทรมก็ทำให้ผลผลิตลดลง นายทุนจะส่งเสริมให้เกษตรกร ทำการบุกรุกเปิดพื้นที่ป่า (นอกเขต คทช.) ใหม่ ซึ่งจะนำมาสู่ซึ่งปัญหาการบุกรุกป่าเพิ่ม รวมถึงปัญหาไฟป่าและหมอกควันอย่างมีนัยสำคัญ๕. หลังจากที่ จนท.ป่าไม้ได้ตรวจพบว่า มีบุคคลใด เข้าประโยชน์ในพื้นที่ตรวจยึดพื้นที่เดิมอยู่ ก็จะดำเนินคดีตาม พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติต่อไป