Tuesday, 14 May 2024

"ศิริกัญญา" ลั่น ดิจิทัลวอลเล็ต หมุนคืนนายทุนใหญ่-เปิดจำนวนร้านลงทะเบียน

21 Apr 2024
22

“ก้าวไกล” จัดเสวนา “ศิริกัญญา” ลั่น เงินดิจิทัลวอลเล็ต หมุนคืนนายทุนใหญ่ เหตุข้อจำกัดจากรัฐบาล เอาร้านสะดวกซื้อเข้าร่วม ด้าน สส.ณัฐพงษ์ จี้ เปิดจำนวนร้านลงทะเบียนรายอำเภอ ชี้ชัด เงินกระจุกที่ไหนวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๖๗ ที่ทำการพรรคก้าวไกล เวลา ๑๕:๐๐ น. พรรคก้าวไกลจัดเสวนา “ดิจิทัลวอลเล็ต…เงินกำลังจะหมุนไปไหน?!”โดย นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โดยมีประชาชนที่สนใจ เข้าร่วมฟังเสวนาจำนวนหนึ่ง นางสาวศิริกัญญา กล่าวถึงประเด็นดิจิทัลวอลเล็ต ผ่านเวทีกิจกรรมว่า อาจจะเป็นโครงการที่ทำให้เศรษฐกิจโต เพราะมีการใช้งบประมาณจำนวนมาก แต่ก็ต้องยอมรับด้วยว่า เป็นการโตเฉพาะบางกลุ่ม พร้อมทั้งมีข้อกังวลเกี่ยวกับซุปเปอร์แอปฯ ว่า ตัวระบบจะเสร็จทันหรือไม่ เพราะหากระบบล่มจะส่งปัญหากับผู้ใช้งานกรณีของแอปพลิเคชันไม่เสถียร เหมือนกรณีแอปพลิเคชันเป๋าตัง พร้อมย้ำว่า พรรคก้าวไกล จะติดตามโครงการดิจิทัลวอลเล็ตอย่างใกล้ชิดต่อไป ว่า รัฐบาลจะสามารถดำเนินการได้ทันในไตรมาส ๔ ตามที่ประกาศออกมาหรือไม่ และขอให้รัฐบาลออกมาสร้างความเชื่อมั่นใจให้ประชาชน หากจะมีการใช้เงินจาก ธ.ก.ส.ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นอกจากนี้ ยังมีข้อสังเกตถึงการอ้างอิงข้อกฎหมายตามมาตรา ๒๘ ว่า สามารถทำได้ตรงตามวัตถุประสงค์หรือไม่ ซึ่งคงจะมีการส่งกฤษฎีกาตีความต่อไป ขณะที่ นายณัฐพงษ์ ยังตั้งคำถามว่า หากรัฐบาลยืนยันว่าเป็นบล็อกเชน ก็ยิ่งจะต้องตอบให้ได้ว่า เงินทั้งหมด หมุนไปกระจุกอยู่ที่ใคร และหากเป็นโครงการทดลอง จึงอยากทราบว่า เงินกว่าห้าแสนล้านบาท ทดลองกี่ชั่วลูกชั่วหลาน จึงจะสำเร็จ ในช่วงถามตอบ ประชาชนถามว่า วัตถุประสงค์ที่จะช่วยคนรากหญ้าแต่กลับมีร้านสะดวกซื้อเข้ามาร่วม มีความหมายว่าอย่างไร นางสาวศิริกัญญา ระบุว่า นี่เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำงานหนัก เพื่อให้ร้านค้าขนาดเล็ก เข้าร่วม แต่ไม่มั่นใจว่า รัฐบาลจะทำหรือไม่ ซึ่งมองว่าสิ่งเหล่านี้ การมีร้านสะดวกซื้อเข้ามา เหมือนเป็นจุดเสริมของโครงการ ที่ทำให้โครงการประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น นางสาวศิริกัญญา จะสรุปการเสวนา ว่าด้วยเงื่อนไขทั้งหมดที่มีอยู่ ณ ทุกวันนี้ทำให้เห็นได้ชัดว่า เงินจะหมุนกระจุกอยู่ที่ทุนขนาดใหญ่ โดยวิธีการต่างๆ และเงื่อนไขต่างๆ ที่สร้างข้อจำกัดให้กับร้านค้าขนาดเล็ก ที่บอกให้เงื่อนไขแลกเป็นเงินสดก็ทำได้เฉพาะที่อยู่ในฐานภาษีเท่านั้น ยิ่งร้านขนาดเล็กที่สายป่านสั้น ยิ่งจะไม่อยากเข้าร่วมโครงการ ดังนั้นคนที่ได้รับประโยชน์เต็มๆ คือพวกร้านค้าขายปลีกที่เป็นเชนขนาดใหญ่ ร้านค้าสะดวกซื้อต่างๆ ที่ได้อานิสงส์จากเรื่องนี้ไปเต็มๆ ถ้ารัฐบาลไม่เปลี่ยนเงื่อนไข เพื่อจูงใจให้ร้านขนาดเล็กเข้ามาร่วมได้เงินก็จะหมุนไปอยู่กับที่ทุนใหญ่เท่านั้น อีกทั้งเรื่องนี้สามารถพิสูจน์ได้ถ้าบล็อกเชนโปร่งใส ทำให้โปร่งใส ก็เข้าไปเช็กได้ เห็นว่ามีกระเป๋าเงินไหน ได้เงินเป็นพิเศษ ซึ่งเรื่องนี้ยังแก้ไขทัน ถ้าใส่ใจเรื่องนี้ว่าอยากจะให้เงินกระจายไปทั่วจริงๆขณะที่ นายณัฐพล กล่าวเสริมว่า นอกจากจะเปิดเผยข้อมูลว่า กระเป๋าใครใหญ่ ใครเล็ก แต่ปัจจัยความสำเร็จ จะต้องมีร้านเล็กๆ เข้าระบบมากขึ้น ดังนั้นอีกอย่างที่จะช่วยให้สามารถตรวจสอบได้ คือช่วงลงทะเบียนไตรมาสสาม รัฐบาลจะต้องเปิดเผยรายชื่อผู้ลงทะเบียนร้านค้า ยิ่งเป็นรายอำเภอ ก็จะยิ่งได้เห็นว่าเงินจะไปอยู่ที่ไหน และมีร้านค้าประเภทใดลงทะเบียนมากที่สุด