วันจันทร์, 6 พฤษภาคม 2567

“จุลพันธ์” ยันรัฐบาลไม่ได้กู้ ธ.ก.ส. แจกเงินดิจิทัล มั่นใจธนาคารไม่ขาดสภาพคล่อง

23 เม.ย. 2024
47

“จุลพันธ์” ยืนยัน รัฐบาลไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. มาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่เป็นการใช้กลไกงบประมาณ มั่นใจไม่ทำธนาคารขาดสภาพคล่อง เผย พัฒนาซุปเปอร์แอปฯ ใช้งบไม่ถึงพันล้าน ส่วนเป๋าตัง ยังคงเป็นตัวเลือกอยู่ วันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๖๗ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีสหภาพแรงงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เข้าพบที่กระทรวงการคลัง เมื่อวานนี้ (๒๒ เมษายน ๒๕๖๗) เพื่อขอให้ชี้แจงกรณีที่จะนำเงินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไปใช้ในโครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital Wallet ใน ๕ ประเด็น ว่า เมื่อวานได้นั่งพูดคุยกันและชี้แจงเรียบร้อยดี ก็เข้าใจตรงกัน ยืนยันว่าไม่มีปัญหา พวกเขาต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย โดยทางคณะกรรมการฯ และกระทรวงการคลังก็ได้ตรวจสอบทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ยืนยันว่าทุกอย่างถูกต้อง โดยรัฐบาลต้องการความมั่นใจว่ามีขั้นตอนทางกฎหมายอะไรที่รัฐบาลต้องทำ เช่น ส่งให้ทางสำนักคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบ ซึ่งก็ต้องทำ ส่วนได้กำหนดระยะเวลาให้ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะทุกอย่างมีระยะเวลาของมัน แต่ตนยืนยันว่าไม่มีความกังวล เพราะรัฐบาลมั่นใจว่าทุกอย่างทำตามกรอบกฎหมายชัดเจน ขณะเดียวกัน นายจุลพันธ์ ยืนยันถึง ๕ ข้อสงสัยของสหภาพแรงงาน ธ.ก.ส. ว่า สามารถชี้แจงได้หมด รวมถึงแหล่งที่มาของเงิน ส่วนเรื่องของสภาพคล่องไม่น่าเป็นห่วง เพราะ ธ.ก.ส. สามารถบริหารจัดการได้ โดยกลไกปกติผ่านการบริหารจัดการของธนาคาร สำหรับการชำระเงินคืนก็เป็นไปตามกลไกของงบประมาณที่รัฐบาลจะต้องมีกลไกในการชำระคืน ตามมาตรา ๒๘ ให้กับ ธ.ก.ส. ในแต่ละปี พร้อมยืนยัน ส่วนตัวไม่กลัวว่าจะเกิดแรงกระเพื่อม เพราะเมื่อวานได้พูดคุยกันเป็นไปอย่างเรียบร้อยดีและเข้าใจตรงกัน  เมื่อถามว่าขณะนี้รัฐบาลเป็นหนี้ ธ.ก.ส. อยู่ประมาณประมาณเท่าไร นายจุลพันธ์ ตอบว่า ประมาณ ๘-๙ แสนล้านบาท ยืนยันว่าครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการกู้เงิน ธ.ก.ส. มาทำนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต แต่เป็นการใช้กลไกผ่านงบประมาณ และมาตรการการเงินการคลัง เพราะรัฐบาลกู้เงิน ธ.ก.ส. ไม่ได้ โดยยืนยันไปทางสหภาพแรงงาน ธ.ก.ส. ไปใน ๓ ประเด็น คือ กลไกทั้งหมดต้องเป็นไปตามกฎหมาย และเสถียรภาพของ ธ.ก.ส. จะต้องแข็งแกร่งพอ รัฐบาลจะมีนโยบายที่จะเพิ่มในเรื่องความแข็งแกร่งให้กับ ธ.ก.ส. แที่สำคัญรัฐบาลถือหุ้น ๑๐๐% ไม่มีทางที่จะรัฐบาลจะปล่อยให้กลไกนี้สั่นไหว ขณะที่ปีนี้เป็นปีที่สำคัญในการช่วยเหลือเกษตรกร รัฐบาลมีความจำเป็นที่ต้องใช้ มาตรการตามมาตรา ๒๘ ซึ่งทุกรัฐบาลก็ทำมากันตลอด เพราะเป็นกลไกที่จะเอื้อมมือไปหาเกษตร โดยไม่ขัดต่อข้อตกลงระหว่างประเทศ และสุดท้ายจะต้องไม่กระทบต่อสวัสดิการและสวัสดิภาพของพนักงาน ธ.ก.ส. ขณะที่คำถาม เกษตรกรสงสัยว่าทำไมถึงไม่ให้ใช้เงินในโครงการไปชำระหนี้เลย นายจุลพันธ์ ยืนยันว่าใช้ชำระหนี้ไม่ได้ เพราะเป็นสิ่งที่รัฐบาลยืนยันมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้วว่าต้องการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ หากนำเงินไปใช้หนี้คืนให้กับ ธ.ก.ส. เป็นต้น ก็หมายความว่าเงินดังกล่าวจะกลับเข้ารัฐ ไม่เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวถามถึงระบบบล็อกเชน (Blockchain) จะเข้ากับแอปพลิเคชันของรัฐได้อย่างไร เพราะไม่ได้เอื้อต่อธุรกรรมทางการเงินนั้น นายจุลพันธ์กล่าวว่า กำลังพัฒนา และดำเนินการอยู่ส่วนเรื่องแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ก็ได้มีการพูดคุยมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในแอปฯ ที่คาดหวังว่าจะสามารถอัปเกรดเป็นซุปเปอร์แอปฯ ซึ่งเป็นเรื่องของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล จะเป็นผู้รับผิดชอบ และดำเนินการดำเนินการพัฒนาระบบ เพื่อให้เชื่อมโยงความเป็นรัฐทั้งหมดเข้ามาอยู่ในแอปฯ เดียวกัน เพื่อไปเป็นจุดเชื่อมในอนาคต เช่น ลูกค้าของธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นธนาคารของอะไร จะสามารถมาเชื่อมกับระบบของรัฐ และสามารถเข้าสู่ระบบดิจิทัลวอลเล็ตได้ ยืนยันว่าการไปพัฒนาเรื่องนี้นั้นใช้งบประมาณไม่เยอะ ไม่ถึงพันล้านบาท และจะสามารถใช้ทันในไตรมาสที่ ๔ ส่วนแอปฯ เป๋าตัง ก็ยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่รัฐบาลก็กำลังดูอยู่