นักวิจัยในเนเธอร์แลนด์พบผู้ป่วยโควิด-๑๙ ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ได้ติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ที่มีการกลายพันธุ์สูงเป็นเวลา ๖๑๓ วัน ก่อนที่จะเสียชีวิตผู้ป่วยรายนี้เป็นชายอายุ ๗๒ ปี ซึ่งมีโรคทางโลหิตวิทยา จัดอยู่ในกลุ่มโรคไขกระดูกที่มีการผลิตเม็ดเลือดมากผิดปกติแบบเรื้อรัง ไม่ตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อการฉีดวัคซีนโควิดหลายครั้ง ก่อนที่จะตรวจพบเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๕การวิเคราะห์โดยละเอียดของตัวอย่างที่เก็บจากจมูกและลำคอมากกว่า ๒๔ ครั้ง นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์ทดลองและการแพทย์ระดับโมเลกุล มหาวิทยาลัยอัมสเตอร์ดัม เปิดเผยว่า ไวรัสโคโรนาได้พัฒนาความต้านทานต่อยาโซโทรวิแมบ ซึ่งเป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการต้านโควิด-๑๙ ทุกสายพันธุ์ และภายในไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ได้เกิดการกลายพันธุ์มากกว่า ๕๐ ครั้ง ซึ่งได้ชี้ให้เห็นถึงความสามารถในการหลบเลี่ยงการป้องกันภูมิคุ้มกันนักวิจัยระบุว่า การติดเชื้อ SARS-CoV-๒ ที่เกิดขึ้นนาน ๒๐ เดือน ถือเป็นการติดเชื้อที่ยาวนานที่สุด ซึ่งได้เตรียมนำเสนอกรณีดังกล่าวในการประชุมทางการแพทย์ที่นครบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ในสัปดาห์หน้า แม้ว่าไวรัสกลายพันธุ์ดังกล่าวจะไม่ได้แพร่เชื้อไปยังผู้อื่น แต่ก็ตอกย้ำว่าการติดเชื้อที่ยืดเยื้อยาวนาน ทำให้ไวรัสสามารถสะสมการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม และอาจก่อให้เกิดความกังวลถึงการระบาดในรูปแบบใหม่ๆ ได้อย่างไรผู้เขียนรายงานกล่าวว่า “กรณีนี้ตอกย้ำความเสี่ยงของการติดเชื้อ SARS-CoV-๒ อย่างต่อเนื่องในบุคคลที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เราเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเฝ้าระวังการวิวัฒนาการของเชื้อ SARS-CoV-๒ ในบุคคลที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องและติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง”นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาข้อมูลจีโนมที่รวบรวมจากตัวอย่างน้ำเสีย ได้รายงานหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าบุคคลในชุมชนปล่อยโคโรนาไวรัสที่กลายพันธุ์อย่างหนักเป็นเวลานานกว่า ๔ ปี การวิจัยชี้ว่าการติดเชื้อต่อเนื่องดังกล่าวอาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการป่วยโควิดเป็นเวลานาน.ที่มา TIMEติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign
