Tuesday, 10 December 2024

ทีมทนายแถลงโต้อัยการยัน "โดนัลด์ ทรัมป์" บริสุทธิ์

เมื่อ ๒๓ เมษายนสำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าการพิจารณาคดีอาญาครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์สหรัฐฯต่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ คดีแรก รวมความผิด ๓๔ กระทง เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการที่ศาลอาญาแมนฮัตตัน นครนิวยอร์กเมื่อ ๒๒ เมษายนตามเวลาท้องถิ่น ในคดีดังกล่าว ทรัมป์ถูกตั้งข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางการเงิน เพื่อปกปิดการจ่ายเงิน ๑๓๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับสตอร์มี แดเนียลส์ ดาราหนังโป๊ ในปี ๒๕๕๙ เป็นค่าปิดปากสัมพันธ์สวาทของทั้งคู่ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในเดือน พฤศจิกายนปีเดียวกันในการแถลงเปิดการไต่สวนคดี นายแมทธิว โคแลนเจโล อัยการเขตแมนฮัตตันเสนอข้อเท็จจริงต่อคณะลูกขุนทั้ง ๑๒ คน และใช้โอกาสนี้ย้ำเตือนว่าคดีดังกล่าวเป็นการสมรู้ร่วมคิดทางอาญาและจงใจปกปิด กล่าวหาว่าพฤติกรรมการจ่ายเงินบุคคลที่ล่วงรู้ข้อมูลไม่พึงประสงค์เพื่อระงับความเสียหายต่อชื่อเสียงของทรัมป์ระหว่างการชิงชัยตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯที่ทรัมป์เป็นผู้บงการ มีการวางแผน ประสานงาน และดำเนินการมายาวนาน สร้างอิทธิพลต่อการเลือกตั้ง หลอกลวงผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ช่วยให้โดนัลด์ ทรัมป์ได้รับชัยชนะในที่สุด จึงเป็นการทุจริตการเลือกตั้งด้านนายทอดด์ บลานช์ ทนายความของทรัมป์แถลงโต้ด้วยการบอกกับคณะลูกขุนว่า คดีดังกล่าวไม่มีมูล อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ คือผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้ก่ออาชญากรรมใดๆสำนักงานอัยการเขตแมนฮัตตันไม่ควรนำเรื่องนี้มาฟ้องเป็นคดี ยังกล่าวเสริมด้วยว่าการพยายามโน้มน้าวใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ใช่สิ่งผิด เพราะนี่คือวิถีทางของประชาธิปไตย นอกจากนี้ยังย้ำว่าทรัมป์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับการจ่ายเงิน โดยมุ่งโจมตีความน่าเชื่อถือของ ไมเคิล โคเอน อดีตทนายส่วนตัวและคนสนิทของทรัมป์ ที่เป็นพยานปากเอกของโจทก์ในคดีนี้ ว่าเป็นผู้จัดการทั้งหมด ทรัมป์ทำทุกอย่างตามคำแนะนำของโคเอน และกล่าวสรุปว่าพฤติกรรมดังกล่าวไม่ผิดกฎหมายและไม่ใช่การสมรู้ร่วมคิดแม้ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมองว่าคดีนี้มีผลกระทบต่อทรัมป์น้อยที่สุดในบรรดาคดีอาญาทั้งหมด แต่ผลสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอสเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ชี้ว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่คิดว่าคดีการปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจเพื่อปกปิดการจ่ายเงินปิดปากถือเป็นเรื่องร้ายแรง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งอิสระครึ่งหนึ่ง และผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันราว ๑ ใน ๔ ยังเผยว่า จะไม่ลงคะแนนเสียงให้ทรัมป์ หากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงในคดีอาญาทั้งนี้ทรัมป์ยังต้องเผชิญคดีอาญาอีก ๓ คดี เกี่ยวข้องกับความพยายามล้มล้างความพ่ายแพ้การเลือกตั้งในปี ๒๕๖๓ รวมทั้งการจัดการเอกสารลับของทางการอย่างไม่เหมาะสม หลังออกจากทำเนียบขาวในปี ๒๕๖๔.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่