เป็นไปตามความคาดหมาย ที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญประเมินเอาไว้ว่าจะเกิดภาวะเอลนีโญ หรือภาวะฝนแล้งในปี ๒๕๖๖ และฝนจะทิ้งช่วงจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันนี้ เป็นต้นไป แต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครราชสีมา แถลงว่า อากาศร้อนจัดและกำลังประสบภัยแล้งแสดงว่าเอลนีโญยังคงอยู่ และฝนทิ้งช่วงยังเดินหน้าต่อ แม้จะสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ส่งผลกระทบต่อปริมาตรนํ้าใน ๒๗ อ่างเก็บนํ้าของโคราช โดยเฉพาะลำตะคอง อ่างเก็บนํ้าขนาดใหญ่ มีนํ้า เหลืออยู่ที่ ๑๔๗.๔๘ ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ ๔๖.๙๐% ของความจุทั้งหมด ๓๑๔.๔๙ ล้านลูกบาศก์เมตร ใช้การได้ ๒๔.๗ ล้านที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเพียงพื้นที่ ๕ อำเภอของนครราชสีมา ซึ่งมีถึง ๓๒ อำเภอ และเชื่อว่าจะประสบภัยแล้ง เช่นเดียวกับจังหวัดอื่นๆ ทั้งในภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคกลาง เพราะถ้าหากเอลนีโญยังคงอยู่ ฝนทิ้งช่วงก็ต้องดำเนินต่อ กระทบถึงนํ้าอุปโภคบริโภค นํ้าเพื่อการเกษตรและอุตสาหกรรมแม้จะมีเสียงเตือนภัยเอลนีโญ และฝนทิ้งช่วงลากยาวมาตั้งแต่ต้นปี ๒๕๖๖ เพื่อให้ทุกรัฐบาลเตรียมรับมือให้พร้อม แต่ไม่ทราบว่าพร้อมแค่ไหน ดูเหมือนว่ารัฐบาลนี้จะไม่ค่อยสนใจปัญหาเกษตรกรรม ทั้งที่เป็นอาชีพของประชากรเกือบ ๓๐ ล้านคน ซึ่งเป็น “ทุกข์ของชาวนาคือทุกข์ของแผ่นดิน”๑ ใน ๘ วิสัยทัศน์ ของนายก รัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ที่สัญญาว่าจะทำให้ไทยเป็น “ศูนย์อาหารโลก” ครอบ คลุมถึงด้านใดบ้าง ถ้ารวมถึงการทำนา ทำไร่ เลี้ยงสัตว์ การประมง ล้วนแต่ต้องใช้ “น้ำ” เป็นปัจจัยหลัก ประเทศไทยจึงมีหน่วยงานเกี่ยวกับน้ำมากมายภัยแล้งและน้ำท่วมกลายเป็นภัยประจำชาติ เกิดน้ำท่วมใหญ่ที่เรียกว่า “มหาอุทกภัย” เมื่อปี ๒๕๕๔ กระแสน้ำจากเขื่อนต่างๆในภาคเหนือและภาคกลางไหลทะลักท่วมภาคเหนือ ภาคกลาง และเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในกรุงเทพมหานครเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ รัฐบาลประกาศตั้งคณะกรรมการน้ำไม่รู้กี่คณะที่ปรึกษาคนสำคัญของรัฐบาล ประกาศว่าจะแก้ปัญหา “น้ำ” ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย ไม่ว่าจะเป็นน้ำแล้งหรือน้ำท่วม จะไม่ให้ภัยน้ำทั้งสองเกิดขึ้นอีก “จากวันนี้ชั่วกัลปาวสาน” แต่ก็ ยังมีภัยแล้งและน้ำท่วมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง น้ำกลายเป็นปัญหาประจำชาติ “จนชั่วกัลปาวสาน” หรือไม่.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม
Related posts