วันจันทร์, 29 เมษายน 2567

รทสช. ค้าน ก้าวไกล เสนอญัตติด่วนสภา ตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ

สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ มีมติเอกฉันท์ ไม่เห็นด้วยกรณี “พรรคก้าวไกล” เสนอญัตติด่วนให้สภา ตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ ๓ เหตุผล อาจขัดรัฐธรรมนูญ ก้าวล่วงอำนาจศาล และมีผลประโยชน์ทับซ้อน ย้ำสภาไม่ใช่ที่รักษาผลประโยชน์พรรคการเมืองวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๗ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เรียกประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ของพรรค โดยมี นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะเลขาธิการพรรค เป็นประธานการประชุม หลังประชุมเสร็จสิ้น นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ แถลงว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้พิจารณาญัตติด่วนที่พรรคก้าวไกลยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎร ให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาขอบเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญและขอบเขตอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ โดยพรรคได้ประชุมเรื่องนี้กันอย่างละเอียดถึงความเหมาะสมในการที่พรรคก้าวไกลอาจเสนอญัตติด่วนดังกล่าวแทรกวาระการประชุมปกติให้สภาพิจารณาในสัปดาห์นี้ทั้งนี้ มติของพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นเอกฉันท์ ไม่เห็นด้วยกับการเสนอญัตติด่วนของพรรคก้าวไกล โดยเหตุผลข้อแรก มองว่า ญัตติด่วนดังกล่าวอาจขัดรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญได้กำหนดอำนาจของฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการไว้อย่างชัดเจน ดังนั้น การเสนอญัตตินี้เข้ามาในสภา อาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ เหตุผลข้อที่ ๒ พรรคมองว่า การยื่นญัตติของพรรคก้าวไกล เป็นการก้าวล่วงอำนาจศาล เนื่องจากมีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดอำนาจขั้นตอนและวิธีการพิจารณาคดีใดๆ ไว้อย่างชัดเจน ในการวินิจฉัยคดีที่เกี่ยวข้องภายใต้ขอบเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งการยื่นญัตติลักษณะนี้ พรรคมองว่าเป็นการก้าวล่วงอำนาจศาลรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน เพราะมี พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในการพิจารณาคดีไว้อย่างชัดเจนแล้วส่วนเหตุผลข้อ ๓ มองว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ยื่นเรื่องการยุบพรรคก้าวไกลไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้วเกี่ยวกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ ซึ่งเป็นนโยบายหาเสียงของพรรคก้าวไกล และผลของการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ผ่านมามองว่า ความพยายามในการแก้ไขมาตรา ๑๑๒ ของพรรคก้าวไกล เป็นการกัดเซาะบ่อนทำลายกระบวนการในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข การที่พรรคก้าวไกลยื่นญัตติด่วนให้สภาพิจารณา พรรครวมไทยสร้างชาติจึงมองว่าเป็นการใช้กลไกของสภา ในการรักษาผลประโยชน์ให้กับพรรคก้าวไกลโดยตรง ทั้งที่กลไกของสภา ควรเป็นเวทีรักษาผลประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชน ไม่ใช่การรักษาผลประโยชน์ให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุในช่วงท้ายว่า “พรรครวมไทยสร้างชาติจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่เห็นด้วยกับญัตติด่วนของพรรคก้าวไกลที่ให้สภาพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาเรื่องดังกล่าว อีกทั้งพรรคยังมองว่าเป็นการกดดันศาลรัฐธรรมนูญในช่วงนี้ ที่มีการพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับพรรคก้าวไกล และอาจมองได้ว่าเป็นความต้องการลดความน่าเชื่อถือของศาลรัฐธรรมนูญในการพิจารณาคดี ที่พรรคก้าวไกลถูก กกต. ส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรค ดังนั้น เพื่อให้การพิจารณาคดีเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม จึงไม่ควรนำญัตตินี้เข้าสู่การพิจารณาของสภา ควรปล่อยให้เป็นกลไกของศาลรัฐธรรมนูญในการพิจารณาคดี เพื่อให้เกิดความเที่ยงธรรมกับผู้ร้องและผู้ถูกร้อง”

เรื่องที่เกี่ยวข้อง