วันเสาร์, 27 เมษายน 2567

"เศรษฐา" ร่วมวงข้าว "ทักษิณ" ขอคําปรึกษาด้านเศรษฐกิจ สงกรานต์ไปเชียงใหม่อีก (คลิป)

16 มี.ค. 2024
91

“ทักษิณ” สักการะครูบาศรีวิชัยเป็นสิริมงคล ก่อนไหว้สุสานพ่อเลิศ-แม่ยินดี และสถานที่เก็บอัฐิคนในตระกูลชินวัตร เป็นปลื้มแฟนคลับคนคุ้นเคยแห่มารอรับ ติดใจจัดคิวสงกรานต์มาอีกรอบ ปลงสัจธรรมสุดท้าย “ความสุขอยู่ที่บ้าน” อาการปวดหลังกำเริบต้องใส่อุปกรณ์ช่วยพยุง คุยยาวๆกับสื่อไทย บอกเรื่อง การเมืองแล้วแต่ใจ “อิ๊งค์” โชว์กึ๋นอดีตผู้นำแนวทางแก้ PM ๒.๕ “เจ๊แดง” เปิดบ้านจัดเลี้ยงเสิร์ฟเมนูพื้นเมือง ของโปรด “พี่ชาย” จัดซีน ๓ นายกฯร่วมเฟรมเดียวกัน “เศรษฐา” เผยขอคำปรึกษาด้านเศรษฐกิจ อีกด้าน “ป้าติ๋ม” ทวงยุติธรรมให้คนเสื้อแดง “พริษฐ์” ปัดจัดคิว “พิธา” ประชันกับ “ทักษิณ” “ศิริกัญญา” ข้องใจ งบฯ ๖๗ มีช่องโหว่ แฉ ๘ ข้อพิรุธตัดงบฯฝายดินซีเมนต์ ของมหาดไทย ทั้งซอยโครงการ-เร่งรีบผิดสังเกต-แทรกแซงสำนักงบฯ-เอื้อผู้รับเหมา-หลีกเลี่ยงการประกันผลงาน สาวไส้มี สว.-สส.เพื่อไทย บางคนอยู่เบื้องหลังภารกิจนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่อยู่ระหว่างการพักโทษเดินทางกลับบ้านเกิด จ.เชียงใหม่ เพื่อไหว้สุสานพ่อเลิศ-แม่ยินดี ชินวัตร บิดา มารดา และสถานที่เก็บอัฐิคนในตระกูลชินวัตร ด้วยใบหน้าอิ่มเอิบอารมณ์ดี ติดใจนัดแฟนคลับจะกลับมาใหม่ช่วงสงกรานต์“ทักษิณ” สักการะครูบาศรีวิชัยเมื่อเวลา ๐๘.๒๘ น. วันที่ ๑๕ มี.ค. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมสมาชิกในครอบครัวและหลานๆออกจากบ้านพักกรีนวัลเลย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่ใช้พักค้างในคืนแรกระหว่างพักโทษกลับบ้านเกิดไปไหว้บรรพบุรุษ เดินทางไปยังอนุสาวรีย์ ครูบาศรีวิชัย ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ สักการะนักบุญแห่งล้านนาเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยนายทักษิณสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว สวมหน้ากากอนามัย และยังคงสวมเฝือกอ่อนที่คอ มีพยาบาลคอยประกบตลอด มีนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายก อบจ.เชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.เชียงใหม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. รอรับ รวมถึงกลุ่มคนเสื้อแดงมายืนถือป้ายเชียร์ “อีสาน รักมั่นไม่เปลี่ยนแปลง” ทันทีที่นายทักษิณมาถึงได้กล่าวทักทายคนเสื้อแดงอย่างเป็นกันเอง มีพระสงฆ์นำพระเครื่องพิมพ์พระรอดลำพูนมอบให้พร้อมให้พร “อายุมั่นขวัญยืน อยู่รอดปลอดภัย” ขณะที่แฟนคลับกล่าวกับนายทักษิณว่า “ท่านยังเหมือนเดิม” นายทักษิณตอบกลับว่า“๗๕ปีแล้ว” ชมอธิบดีอุทยานฯติดตามตลอดจากนั้นนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รายงานแผนการพัฒนาพื้นที่ดอยสุเทพ นายทักษิณสนใจสอบถามเรื่องแหล่งน้ำธรรมชาติ พร้อมกล่าวชื่นชมนายอรรถพลว่า “อธิบดี ดีนะ ผมดูในข่าวอยู่ตลอด”ปวดหลังกำเริบใส่อุปกรณ์พยุงต่อมาเวลา ๐๙.๐๐ น. นายทักษิณและครอบครัว เดินทางขึ้นไปยังวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เริ่มที่การสักการะท้าวเวสสุวรรณ ก่อนทำพิธีบวงสรวงพระธาตุ ขณะเดินห่มผ้าพระธาตุนายทักษิณได้หันไปบอก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย บุตรสาวว่า มีอาการเจ็บหลัง ทำให้พยาบาลและคณะทำงานรีบนำอุปกรณ์พยุงหลังมาเตรียมพร้อมทันที แต่นายทักษิณยังคงอารมณ์ดี ช่วงหนึ่งกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “วันเกิดของผมคือปางพระนอน แต่ไม่ค่อยได้นอนทำแต่งาน ช่วงเดินขึ้นมารู้เลยว่าเข้าสู่วัยสาวแล้ว สาวราวบันได” จากนั้นนายทักษิณประกอบพิธีเปิดกรวยถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรม ฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก่อนกราบพระประธานในพระอุโบสถ ที่จุดนี้นายทักษิณมีอาการปวดหลังมากขึ้น พยาบาลจึงรีบนำอุปกรณ์พยุงหลังมาใส่ให้ และ น.ส.แพทองธารรีบเข้ามาพยุงจัดคิวล่วงหน้าสงกรานต์มาอีกรอบจากนั้นนายทักษิณและคณะเดินทางต่อไปยังตลาดวโรรส มีกลุ่มแฟนคลับมารอรับจำนวนมาก กรูกันเข้าไปมอบดอกไม้และถ่ายรูปกับนายทักษิณเป็นที่ระลึกจนเกิดเหตุชุลมุนเล็กน้อย เพราะทุกคนอยากถ่ายรูปเอาไปโชว์และอวดพรรคพวกกันอย่างสนุกสนาน ทั้งนี้ นายทักษิณแวะร้านหนังสือพิมพ์ดั้งเดิม ที่เคยมาซื้อตั้งแต่ก่อนเป็นนายกฯ พบกับนางอรุณศรี พวงพฤกษา หรือป้าศรี อายุ ๘๓ ปี ต่างคนต่างสวมกอดกัน ทำเอานางอรุณศรีถึงกับน้ำตารื้น นางอรุณศรีกล่าวว่า รู้จักกันมา ๖๔ ปี ตั้งแต่นายทักษิณอายุ ๑๖ปี ตอนนั้นตนอายุ ๒๓ ปี เคยไปเที่ยวสิงคโปร์ด้วยกัน ร่วมทัวร์กับนักเรียนมงฟอร์ต ไม่เคยคิดหักหลังนายทักษิณแม้แต่ครั้งเดียว ด้านนายทักษิณระบุว่า“ไม่เจอกับป้าศรีมา ๑๕ ปี ครั้งสุดท้ายไปพบกันที่ฮ่องกง รักและเคารพป้าศรีมาก วันนี้มาเพื่อป้าศรี วันนี้จะไปไหว้พ่อแม่ก่อน สงกรานต์จะมาอีกรอบ ตอนนั้นคนคงน้อยกว่านี้” ก่อนที่ป้าศรีจะมอบน้ำผึ้งและพวงมาลัยให้นายทักษิณ ซึ่งนายทักษิณได้เรียกลูกๆมาสวัสดีป้าศรี มีแฟนคลับบางส่วนตะโกนว่า “อยากให้ น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯคนต่อไป” ส่วนบรรดาแม่ค้าและประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยในตลาดต่างดีใจและตะโกนว่า “เรารักทักษิณ” เป็นระยะพาครอบครัวกินข้าวซอยเสมอใจช่วงเที่ยงนายทักษิณพาครอบครัว แวะรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านข้าวซอยเสมอใจ ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมืองเชียงใหม่ ร้านประจำ ทางร้านได้นำช่อดอกกุหลาบสีแดง และพวงมาลัยดอกมะลิมามอบเป็นการต้อนรับ นางเพ็ญ พินิจอักษร อายุ ๖๗ ปี ที่เดินทาง มาจาก จ.ศรีสะเกษ นำหนังสือหน้าปกนายทักษิณกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ และเสื้อยืดมาให้เซ็น กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำตาคลอว่า ตั้งใจมารอพบ ภาวนาทุกคืนให้นายใหญ่กลับประเทศ อยากให้ไปเยี่ยมที่ศรีสะเกษบ้าง ชาวอีสานใต้ฝากความคิดถึงมา สำหรับเมนูที่นายทักษิณชื่นชอบและสั่งมาทาน อาทิ ข้าวซอยเนื้อ หมูสะเต๊ะ และไส้อั่ว นายทักษิณกล่าวว่า อร่อยเหมือนเดิม ไหว้สุสานพ่อเลิศ–แม่ยินดี ชินวัตรหลังทานมื้อเที่ยงเสร็จ นายทักษิณและคนในครอบครัวเดินทางไปยังบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ออน อ.แม่ออน อาทิ นางเยาวเรศ ชินวัตร นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ นางมณฑาทิพย์ โกวิทเจริญกุล เพื่อไหว้สุสานพ่อเลิศ-แม่ยินดี ชินวัตร บิดาและมารดา ที่ย้ายอัฐิจากวัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง มาไว้ที่สุสานแม่ออน มีซินแสนำประกอบพิธีกราบไหว้บรรพบุรุษ และถ่ายภาพหมู่ครอบครัว นายทักษิณให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่เคยมาที่นี่เลย เพราะอยู่ต่างประเทศ จากนี้ไปจะมาทุกปี เมื่อถามว่าวันนี้ลูกหลานมากันครบมีความสุขหรือไม่ นายทักษิณกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ผลสุดท้ายความสุขอยู่ที่ครอบครัว คนทุกคนถ้าเข้าใจโลกก็จะ Happiness is at home (ความสุขอยู่ที่บ้าน) ที่อื่นอาจเป็นสิ่งสมมติแต่สิ่งที่แน่นอนคือ Happiness is at home” เมื่อถามว่าประชาชนที่มาเจอบอกว่าหน้าตาสดชื่นแจ่มใส นายทักษิณตอบว่า “ผมมีกำลังใจดี แต่ไม่ใช่ใจบันดาลแรง” ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะแซวว่าเป็นคำพูดของคนอื่น ซึ่งนายทักษิณหัวเราะ พร้อมอุทานว่า “แหม่”บอกอยู่ รพ.ตำรวจจิตใจห่อเหี่ยวผู้สื่อข่าวถามว่า มาเชียงใหม่ได้กินอาหารที่ชอบแล้วหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า ตอนอยู่ต่างประเทศก็ได้กินแต่รสชาติไม่เหมือนที่นี่ เพราะต้องแช่แข็งไป อย่างก๋วยเตี๋ยวเนื้อต้องไปกินที่ไม่มีแอร์ กินไปด้วยเหงื่อออกไปด้วยทำให้อร่อย เมื่อถามว่าไปเดินตลาดวโรรสมีคนต้อนรับเยอะ นายทักษิณตอบว่า ดีใจที่เขายังไม่ลืมคนเฒ่าคนหนึ่ง เมื่อถามว่ามีคนทักว่าหน้าไม่แก่เลย นายทักษิณตอบว่า “ผมมาอยู่กับครอบครัว จิตใจก็อิ่ม ไม่เหมือนตอนอยู่โรงพยาบาลตำรวจที่จิตใจมันห่อเหี่ยวนิดหน่อย วัยผมเป็นวัย รักลูกหลงหลาน” ส่วนอาการเจ็บหลัง เป็นเพราะกล้ามเนื้อมันสะดุ้งเป็นมาก่อนแล้ว หากขยับผิดจังหวะจะมีอาการ เมื่อคืนก็มีอาการนิดหน่อยแต่ไม่ได้ไปไหน เมื่อเช้าขยับเยอะกล้ามเนื้อเลยสะดุ้ง ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว และที่ใส่เฝือกอ่อนที่คอเป็นไปตามอายุ มันเสื่อมต้องคอยดูไว้ ไม่อย่างนั้นจะกดเส้นประสาท สามารถถอดๆใส่ๆได้แล้วแต่อาการเรื่องการเมืองแล้วแต่ใจ “อิ๊งค์”เมื่อถามว่าคิดถึงอะไรที่สุดในเชียงใหม่ นายทักษิณตอบว่า ภาพที่เราเคยเติบโตมา ได้เล่าให้ลูกๆฟังตามประสาคนแก่ว่าตอนเด็กๆ อายุ ๑๒-๑๓ ปี ไม่รู้ จะเล่นอะไรเพราะไม่มีของเล่น ก็ขี่จักรยานไปถ้ำเมืองออน สมัยก่อนเรียกถ้ำขี้นก ถนนก็ยังไม่มี บางช่วงต้องแบกจักรยานข้ามทุ่งนา ซื้อข้าวจากสันกำแพงมากินที่ถ้ำ เวลาจะลงก็ต้องใช้บันไดไม้ เมื่อถามว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ จะเดินทางมา จ.เชียงใหม่วันนี้จะได้พูดคุยกันหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ เป็นคนเชิญมาทานข้าว เมื่อถามว่าวันนี้จะเจอกัน ๓ นายกฯเลยใช่ไหม นายทักษิณตอบว่า “ผมเป็นอดีตนายกฯ คนอดีตก็มีหน้าที่ให้กำลังใจคนปัจจุบัน เขาถามอะไรถ้าเรามีความรู้เราก็ตอบ” เมื่อถามย้ำว่า น.ส.แพทองธาร แข็งแกร่งมากในสนามการเมือง ในฐานะที่สนับสนุนมาตลอดรู้สึกอย่างไร นายทักษิณตอบว่า “ผมเป็นคนตามใจไม่บังคับลูก ตามใจตลอด เดี๋ยวนี้ก็ยังไม่เลิกตามใจ ฉะนั้นก็แล้วแต่ใจลูก” ทำเอา น.ส.แพทองธารที่นั่งอยู่ข้างๆ มีสีหน้ายิ้มแย้มด้วยความภาคภูมิใจที่พ่อกล่าวชื่นชมตลอดโชว์กึ๋นอดีตผู้นำแนวทางแก้ PM ๒.๕นายทักษิณยังกล่าวถึงสภาพของ จ.เชียงใหม่ว่า มีการกระจายตัวของเมืองมากขึ้น สิ่งที่เป็นห่วงคือความแห้งแล้ง อยากให้ย้อนกลับไปที่คนเดิมๆเขาทำกัน เช่น ฝายแม้วกักเก็บน้ำแบบขั้นบันได ให้พื้นที่ชุ่มชื้น ทำให้ภูเขาเป็นสีเขียว มีน้ำ อย่างดูไบเป็นทะเลทราย เขาแข่งความร่ำรวยกันว่าบ้านไหนมีต้นไม้เยอะ เดี๋ยวนี้ดูไบมีฝนตกน้ำท่วม เขาไม่มีท่อระบายน้ำ เพราะเขาไม่เคยคิดว่าจะมีฝนตกอย่างนี้ แต่บ้านเรามีท่อระบายน้ำเยอะแต่ไม่มีน้ำให้ระบาย เราต้องเพิ่มต้นไม้ เมื่อถามว่าสถานการณ์ฝุ่น PM ๒.๕ ในเชียงใหม่หนักขึ้นเรื่อยๆ นายทักษิณตอบว่า ปัญหาวันนี้มี ๒ ส่วน ๑.ในประเทศ เกษตรกรมีต้นทุนสูง กำไรน้อย พอหมดฤดูกาลแทนที่จะไถกลบ เลยใช้วิธีเผา เพราะง่ายกว่า เขารู้ว่าการเผาไม่ดีแต่ ไม่มีทางเลือก ทางราชการต้องเข้าไปดูว่าจะช่วยเขาไถกลบอย่างไร ๒.จากต่างประเทศ เราไปปลูกข้าวโพดฝั่งเขาเยอะ หากยังเผากันอยู่อย่างนี้ก็ไม่จบ jwplayer(“cover_jwplayer_Dp๙๙๖zAu_๘๕”).setup({ “playlist”: “https://cdn.jwplayer.com/v๒/media/Dp๙๙๖zAu” }); ไหว้อัฐิพี่–น้องที่วัดโรงธรรมฯต่อมาเวลา ๑๕.๐๐ น. ที่วัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง สถานที่เก็บอัฐิของคนในตระกูลชินวัตร ยกเว้นบิดา-มารดานายทักษิณ ที่ย้ายอัฐิไปเก็บที่ อ.แม่ออน มีกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนมากมารวมตัวให้กำลังใจ นำโดยนายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรี รวมถึง สส.และอดีต สส. อาทิ นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช สส.บัญชีรายชื่อ นายสุรพล เกียรติไชยากร อดีต สส.เชียงใหม่ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ คนเสื้อแดงได้ถือป้ายให้กำลังใจ อาทิ “รวมพลคนรักทักษิณเชียงใหม่” “ยินดีต้อนรับนายกฯทักษิณปิ๊กสู่เชียงใหม่บ้านเฮา” ทันทีที่นายทักษิณมาถึง กลุ่มมวลชนต่างกรูเข้าไปห้อมล้อมเพื่อมอบดอกไม้และถ่ายรูปกับนายทักษิณ พร้อมตะโกน “เรารักทักษิณ” นายทักษิณเดินทักทายบรรดามวลชน สร้างความปิติยินดีบางคนถึงขั้นน้ำตาคลอ ดีใจที่ได้เจอหลังจากไม่ได้เจอมานานร่วม ๑๗ ปี นายทักษิณได้เคารพอัฐิของนางเยาวลักษณ์ ชินวัตร พี่สาวคนโต ที่เสียชีวิตในช่วงที่ต้องอยู่ต่างประเทศ นายอุดร ชินวัตร น้องชาย และ น.ส.ทัศนี ชินวัตร น้องสาว จากนั้นนายทักษิณและครอบครัวแยกไปทำภารกิจส่วนตัวที่บ้านเกิดชินวัตรไหมไทย“เจ๊แดง” เปิดบ้านเลี้ยงรับ “พี่ชาย”กระทั่งเวลา ๑๘.๑๕ น. ที่หมู่บ้านกรีนวัลเลย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ บ้านพักของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ จัดงานเลี้ยงต้อนรับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีการจัดเวทีพร้อมขึ้นป้ายไวนิลข้อความต้อนรับว่า “หมู่เฮาดีใจ๋ ท่านนายกฯทักษิณปิ๊กเจียงใหม่บ้านเฮา” มีบรรดารัฐมนตรี สส. และสมาชิกพรรคเพื่อไทยทยอยมาร่วมงานกันคึกคัก อาทิ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการมหาดไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมตรี นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการต่างประเทศ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ นายรังสรรค์ มณีรัตน์ สส.ลำพูน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ นายเอกธนัช อินทร์รอด สส.หนองคาย รวมถึงนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ที่เป็น สส.นอกพรรคเพื่อไทยเพียงคนเดียว มาร่วมงานด้วย จัดซีน ๓ นายกฯร่วมโต๊ะมื้อค่ำต่อมาเวลา ๑๘.๒๐ น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ตามมาสมทบในชุดเสื้อเชิ้ตลายผ้าขาวม้า ที่ซื้อผ้ามาจากศูนย์ศิลปาชีพบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา นำมาตัดเป็นเสื้อเชิ้ต โดยนายเศรษฐาได้ลดกระจกทักทายสื่อมวลชนว่า “สวีสดีครับ” พอลงจากรถก็ได้ทักทายนางเยาวภา และหันมาโบกมือทักทายสื่อมวลชนอีกครั้ง สำหรับโต๊ะอาหารของนายทักษิณจัดเป็นโต๊ะอาหารยาว นายทักษิณนั่งอยู่ตรงกลาง มีนายเศรษฐานั่งและนายสมชายนั่งประกบขวา-ซ้าย มีรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรี และครอบครัวตระกูลชินวัตร ร่วมโต๊ะด้วย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น และยังมีการจัดซุ้มอาหารให้ผู้เข้าร่วมงานเดินเลือกตักอาหาร สำหรับเมนูบนโต๊ะอาหารประกอบด้วยเมนูอาหารพื้นเมือง ได้แก่ แกงขนุนกระดูกอ่อนสามชั้น แกงผักหวานไข่มดแดง แกงฮังเล ยำจิ้นไก่ แกงหยวกกล้วย แกงกระด้าง ขนมจีนน้ำเงี้ยว ไส้อั่ว หมูทอด น้ำพริกหนุ่ม หมูยอทอดแคบหมู และข้าวเหนียว ยังมีเมนูก๋วยเตี๋ยว อาทิ ก๋วยเตี๋ยวลิ้มเหล่าโหงว ก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้านปฐมโอชา ลูกชิ้นเนื้อเอ็น บ้านดงจังหวัดลำปาง และลูกชิ้นโอปป้า สันป่าข่อย ขณะที่เมนูอาหารทอดประกอบด้วย ข้าวผัดกุ้ง ทอดมันกุ้ง หอยทอด กระเพาะปลาผัดไทย หมูสะเต๊ะ ข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่น เบอร์เกอร์เนื้อทาโก้ ส่วนของหวานเป็น โรตีบัวลอยไข่หวาน“เศรษฐา” ขอปรึกษาด้าน ศก.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ให้สัมภาษณ์พิเศษ กับไทยรัฐออนไลน์ก่อนเดินทางไป จ.เชียงใหม่ ว่า การพบกับนายทักษิณเพื่อรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน คงเป็นเรื่องเศรษฐกิจที่จะขอคำปรึกษา เพราะเป็น ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้ อาจพูดคุยถึงการบริหารด้าน เศรษฐกิจสมัยอดีตของท่านว่าเป็นอย่างไร และยังนัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือเรื่องไฟป่าหมอกควันด้วย จ.เชียงใหม่ ค่าฝุ่นติดอันดับ ๑ ของโลก จากการหารือกับประเทศเพื่อนบ้านที่ผ่านมาให้ความร่วมมือดี โดยเฉพาะ สปป.ลาว และยืนยันไม่กังวลที่ถูกเปรียบ เทียบว่ามีนายกฯ ๒ คน ภายหลังนายทักษิณได้กลับไปเยี่ยมบ้านเกิด ไม่ว่าจะเป็นนายทักษิณ หรือนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี ทำให้คนไทยมีรอยยิ้ม“ป้าติ๋ว” ทวงยุติธรรมคนเสื้อแดงขณะที่อีกด้าน บริเวณถนนห้วยแก้ว หน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีอดีตกลุ่มคนเสื้อแดง ๔ คน สวมเสื้อสีแดง นำโดย “ป้าติ๋ว” หญิงวัย ๖๔ ปี นำโลงศพสีเเดง ตุงสามหางที่นำหน้าศพไปสุสาน และนำรูปภาพคนเสื้อแดงที่เสียชีวิต ๕๓ ศพ จากเหตุการณ์ชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ยืนประท้วงนายทักษิณ ขณะนั่งรถตู้ลงมาจากพระบรมธาตุดอยสุเทพ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขับรถตู้ตำรวจเข้ามาบังกลุ่มคนเสื้อแดงไว้ ไม่ให้นายทักษิณเห็นป้ายประท้วง ทำให้กลุ่มผู้ประท้วงถึงกับหงุดหงิดไม่พอใจ “ป้าติ๋ว” กล่าวว่า วันนี้ต้องการมาบอกนายทักษิณ ที่เคยรักและศรัทธา ว่าคนเสื้อแดงสู้กันมาตั้งแต่รัฐประหารปี ๒๕๔๙ จนล้มตายบาดเจ็บกันมากมาย บางรายติดคุก แต่นายทักษิณไม่สนใจไยดีทวงความยุติธรรมให้เลย ทำให้เกิดความเจ็บช้ำใจว่าคนเสื้อแดงไม่มีค่าเลยใช่ไหม วันนี้ต้องการมาสื่อสารให้รับรู้ว่ายังมีคนเสื้อแดงที่ต่อสู้เพื่อท่านอีกจำนวนมาก ได้รับความลำบากเชื่อ “นายใหญ่” ไม่หวนการเมืองนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกลาโหม กล่าวว่าภาพที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับบ้านเกิด จ.เชียงใหม่ ไม่ใช่การตอกย้ำกระแสนายกฯ ๒ คน นายทักษิณเป็นบุคคลสำคัญระดับโลก เป็นธรรมดาปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีคนให้ความนิยมเยอะอยู่ ยืนยันไม่มีนัยการเมือง อยากให้มองในภาพของที่ปรึกษามากกว่า และนายทักษิณไม่ประสงค์จะกลับมาการเมืองแล้ว ไม่จําเป็นต้องหยั่งกระแส เมื่อถามว่ามีทีมนายตำรวจติดตามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ไปอำนวยความสะดวกให้นายทักษิณด้วย นายสุทินตอบว่าคงเป็นลักษณะการยืมตัว ความจริงถ้าคนระดับนี้เดินทางไปไหน แม้ไม่ได้ขอ ฝ่ายรักษาความสงบก็ต้องส่งคนไปดูแล นายทักษิณอาจคิดว่าขอเอาคนที่ไว้ใจที่สุด ซึ่งเป็นชุดเดียวกับที่ดูแลนายเศรษฐา เมื่อถามว่าทำให้ภาพนายกฯของนายเศรษฐาดูลดลงไป นายสุทินตอบว่าคนละเลเวลคนละระดับกัน นายเศรษฐาคือนายกฯตัวจริง แต่นายทักษิณเป็นอดีตนายกฯ ความนิยมของประชาชนคนละแบบ นายทักษิณถือเป็นอดีตนายกฯที่ยิ่งใหญ่ ส่วนนายเศรษฐาก็ถือเป็นนายกฯคนปัจจุบันที่ยิ่งใหญ่เช่นกันอดีตผ่านไปแล้วยุคนี้เป็นคนอื่นนายสุทินกล่าวว่าอดีตคือผ่านไปแล้ว ถ้ายุคนี้ก็ต้องเป็นคนอื่น แม้จะเรียกร้องก็คิดว่าท่านไม่มา แต่คงอยู่ในฐานะให้คำปรึกษาทุกคน และทุกรัฐบาล น่าจะเป็นประโยชน์กว่า เมื่อถามว่าในอนาคตนายทักษิณจะมีอิทธิพลต่อรัฐบาลนี้หรือไม่ นายสุทินตอบว่า ไม่ใช่มีอิทธิพล แต่มีบทบาทในเรื่องการให้คำแนะนำ และถ่ายทอดประสบการณ์มากกว่า เมื่อถามว่าได้คิวเข้าพบนายทักษิณหรือยัง นายสุทินตอบว่าขอเข้าพบแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่รีบ รอให้ท่านโล่งๆก่อน เมื่อถามต่อว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ด้วย เหมือนไปวัดกระแสกัน นายสุทินตอบว่าคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า“เศรษฐา” ดันของดีขึ้นห้างชั้นนำที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายก รัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ๑ หมื่นบาท หลังครบกำหนด ๓๐ วันที่ให้คณะกรรมการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ตไปรวบรวมข้อเท็จจริงว่า เดี๋ยวจะมีการพูดคุยกับนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการคลัง อยู่แล้ว รายละเอียดจะแจ้งให้ทราบ ส่วนกรณีห้างสรรพสินค้าในไทยเริ่มเปิดบูธจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายผ้าขาวม้าว่า ต้องขอบคุณห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สยามพิวรรธน์ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล และคิงเพาเวอร์ เริ่มตั้งแต่วันที่ ๑๕ มีนาคมไปจนถึงสิ้นเดือน มีนาคมนี้ นอกจากผ้าขาวม้าแล้วอาจมีผลิตภัณฑ์อื่นที่เกี่ยวข้องด้วย อย่างกระเป๋าที่สานจากกระจูดน่าจะมาลงด้วย เพราะเป็นที่ต้องการ มีคนถามหากันเยอะมาก เป็นเรื่องน่ายินดี ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นการนำร่องในประเทศไทย เพื่อให้เกิดเป็นกระแสใช่หรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ไม่อยากเรียกว่าเป็นกระแส จริงๆของเขาดีอยู่แล้ว เพียงแต่อาจยังไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควรในอดีต เป็นหน้าที่รัฐบาลต้องพยายามทำให้ของดีในประเทศหลายอย่าง ไม่ใช่ผ้าขาวม้าอย่างเดียว นำสู่สายตาชาวโลกและคนไทยด้วยกันเองปัดจัดคิว “พิธา” ประชัน “ทักษิณ”นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ก.ก. เตรียมลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ตรงกับช่วงเวลาที่นายทักษิณและนายเศรษฐา อยู่ในพื้นที่พอดีว่า เป็นแผนการดำเนินงานของพรรค ก.ก.เกี่ยวกับเรื่องไฟป่า ที่วางแผนล่วงหน้ามานานแล้ว ยืนยันไม่ได้มีการจัดตารางลงพื้นที่ชนกันกับนายกฯ และอดีตนายกฯ ไม่ได้ต้องการเปรียบเทียบ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค ก.ก. ย้ำมาตลอดว่าเราไม่ได้แข่งกับใคร แต่แข่งกับตัวเอง ส่วนประชาชนอาจคิดว่า เป็นการเปรียบเทียบรัศมี ถือเป็นสิทธิที่จะวิเคราะห์ เมื่อถามว่าในฐานะฝ่ายค้าน ทำหน้าที่ตรวจสอบ มองหน่วยงานราชการที่เข้ารายงานนายทักษิณระหว่างลงพื้นที่อย่างไร นายพริษฐ์ตอบว่าเป็นคำถามที่ต้องให้รัฐบาลตอบว่าเป็นไปตามระเบียบราชการหรือไม่ เรื่องความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมในการจัดสรรบุคลากรไปให้ข้อมูล เป็นคำถามที่รัฐบาลควรตอบ “ไหม” ข้องใจงบฯใช้ไปพลางก่อนเมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. ที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ก.ก. กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๗ นำ กมธ.ฯในสัดส่วนของพรรค ก.ก.จัดแถลงข่าว Policy Watch หัวข้อ “รวบตึงงบฯ ๖๗ จากห้อง กมธ.” น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ปีนี้มีการใช้งบในหน่วยงานราชการไปพลางก่อนแล้วตั้งแต่ต้นปี มีเกือบ ๒ ล้านล้านบาท ถูกอนุมัติและใช้ไปแล้ว ดังนั้นความเป็นจริงสภาฯมีอำนาจจริงจังแค่ ๔๑% วิธีการแบบนี้มีปัญหาและช่องโหว่ แม้จะทำได้ตามรัฐธรรมนูญ สิ่งที่เราพบการอนุมัติหลักเกณฑ์ว่า ใช้อะไรได้ไม่ได้ มี ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณคนเดียวที่มีอำนาจอนุมัติ ช่องโหว่ตรงนี้ควรได้รับการอนุมัติโดย คณะรัฐมนตรีหรือนายกฯ เพื่อมีผู้รับผิดชอบ แต่ปีนี้ กมธ.ตัดงบฯไปได้ ๙,๐๒๔ ล้านบาท ส่วนนี้จะถูกเฉลี่ยไปที่หน่วยงานที่ของบฯเพิ่ม อาทิ เงินสมทบประกันสังคมของกระทรวงแรงงาน กระทรวงกลาโหม ถูกตัดมากที่สุด รายการใหญ่คืองบฯเรือฟริเกต รองลงมากระทรวงมหาดไทย ตัดงบฯฝายดินซีเมนต์เป็นต้นแฉ ๘ พิรุธงบฯฝายมหาดไทยนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก.กล่าวว่า การตัดงบโครงการฝายดินซีเมนต์ กว่า ๑.๒ พันล้านบาท เพราะมีข้อเสียมากกว่าข้อดีส่อแววทุจริตคอร์รัปชันด้วย ๘ เหตุผล ๑.มีการซอยเป็นโครงการแบบแจกเสื้อโหลขนาด ๑ เมตร ๑.๕ เมตร และ ๒ เมตร ๒.เร่งรีบผิดสังเกตโดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพียง ๑๒ วัน เลือกสถานที่ ทำแบบก่อสร้าง ๓.มีการแทรกแซงกระบวนการพิจารณางบฯ ชัดเจน สำนักงบฯถูกผู้มีอิทธิพลครอบงำ ทำให้ตรวจสอบได้ไม่ครบถ้วน ลัดขั้นตอน ไม่ตรวจเอกสารเหมือนเปิดไฟเขียวตามใบสั่ง ๔.ตั้งงบฯต่ำกว่า ๕ แสนบาทเล็กน้อย เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันให้สามารถจิ้มเลือกผู้รับเหมาได้ ๕.จงใจหลีกเลี่ยงการประกันผลงาน ๒ ปี ๖.ไม่มีใบอนุญาตมาแสดง ๗.อ้างว่าเป็นฝายชั่วคราวแต่ราคาแพง และหากพังจะเป็นการทิ้งมลพิษกับสิ่งแวดล้อม ไม่มีใครเป็นผู้รับผิดชอบ และ ๘.หน่วยงานจำนนต่อเหตุผลและไม่มีการอุทธรณ์ซัด สว.–สส.เพื่อไทยอยู่เบื้องหลังนายสุรเชษฐ์กล่าวว่า มีข้อสังเกต ๔ ข้อ คือ ๑.มี สว. และ สส.พรรคเพื่อไทยกลุ่มหนึ่งอยู่เบื้องหลังการตั้งงบฯฝายดังกล่าว ๒.โฆษณาเกินจริง ๓.การใช้ดินผสมซีเมนต์ทำได้ยากในทางปฏิบัติ ถ้าจะทำชั่วคราวนิยมใช้วัสดุที่ย่อยสลาย อีกทั้งการเซ็นอนุมัติแบบควบคุมการก่อสร้างก็ไม่ชัดเจน และ ๔.ฝายดินซีเมนต์จะเปลี่ยนสภาพลำน้ำเป็นขั้นบันไดที่สามารถพังทลายได้โดยเฉพาะหน้าฝน หน้าแล้งเก็บน้ำได้ไม่พอทำเกษตร ทั้งทำให้พื้นที่ท้ายน้ำขาดแคลน ดังนั้นควรกระจายงบฯให้ท้องถิ่นไปจัดสร้างฝายเอง ไม่ใช่แจกเสื้อโหล ๕ แสนบาท หากินกัน ฝ่ายค้านจะตรวจสอบต่อไป หากพรรค ก.ก.ไม่ถูกยุบก่อนนายกฯเดินหน้าแก้หนี้ข้าราชการช่วงสายที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง เป็นประธานแถลงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้สินเงินกู้แก่บุคลากรภาครัฐ มีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะรองประธานกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนกล่าวว่า ทุกส่วนราชการได้ดำเนินการแล้ว อาทิ ปรับปรุงกำหนดหลักเกณฑ์เงินเดือนเพื่อการดำรงชีพไม่น้อยกว่าร้อยละ ๓๐ ขณะที่ พล.อ.อนุสรรค์ คุ้มอักษร รอง ผบ.ทหารสูงสุด กล่าวว่า เหล่าทัพเราจําเป็นต้องมีระเบียบกําหนดหลักเกณฑ์ในการหักเงินเดือน ให้มีคงเหลือในการดํารงชีพไม่ตํ่ากว่าร้อยละ ๓๐ ตามแนวทางเดียวกัน ด้าน พล.อ. สวราชย์ แสงผล หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา กองบัญชาการกองทัพบก(ทบ.) กล่าวว่า ขอให้รัฐบาลปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ของสถาบันการเงินให้เหมาะสมเป็นธรรมกับกำลังพลชี้หนี้สินเป็นหายนะประเทศนายเศรษฐากล่าวภายหลังรับฟังการแถลงว่า ข้าราชการหลายแสนคนยังมีหนี้สินชักหน้าไม่ถึงหลัง เงินไม่พอใช้ดอกเบี้ยถือเป็นสารตั้งต้นหายนะของประเทศ ไม่ใช่แค่มีเงินไม่พอ แต่เข้าใจผิดหันไปพึ่งสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายไม่ว่าจะยาเสพติดเพื่อทำให้จิตใจดีขึ้น สบายใจขึ้น หรือไปทุจริตประพฤติมิชอบ ฉะนั้นการแก้ไขกฎหมายว่า ไม่ต้องออกจากราชการ มีเงินใช้ ๓๐% รวมถึงสินเชื่อพิเศษ ลดดอกเบี้ย หลายหน่วยงานหวังเรื่องปันผลหรือผลกำไร แม้แบงก์ชาติจะไม่ลดแต่หน่วยงานช่วยกันลด ขอขอบคุณจากใจจริง เชื่อว่าข้าราชการก็ขอบคุณเช่นกัน ต้องการให้หน่วยงานสหกรณ์เข้ามาร่วมโครงการนี้ให้มากขึ้น และขอให้ทำงานหนักขึ้น เชื้อเชิญให้เข้ามาอยู่ขอให้ผู้บริหารทะเยอทะยานพยายามช่วยเหลือประชาชน ให้มากยิ่งขึ้นไปอีก“สนธิญา” บี้แช่แข็ง ก.ก.ชั่วคราวที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสนธิญา สวัสดี อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เข้ายื่นเรื่องให้ กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้พรรค ก.ก.ยุติการปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยถึงที่สุด กรณี กกต.ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยยุบพรรค ก.ก.ที่ใช้การแก้ไขป.อาญามาตรา ๑๑๒ เป็นนโยบายหาเสียง เพื่อให้เป็น บรรทัดฐานเดียวกันกับกรณีที่ สส.พรรค ก.ก.ยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่ง ๘ ปี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ และพ่วงขอให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ซึ่งศาลมีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยุติปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ดังนั้นเมื่อ กกต.ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค ก.ก.ขอให้เสนอเรื่องให้พรรค ก.ก.ยุติการดำเนินการใดๆไปจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยถึงที่สุด“ทนายอั๋น” จี้ กกต.เดินเครื่องยุบ ภท.ขณะที่นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้เข้าให้ถ้อยคำต่อ กกต.ในคำร้องให้พิจารณา ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จากกรณีรับเงินบริจาค หจก.บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น และยังนำพยานหลักฐานยื่นเพิ่ม ขอให้ กกต.นำเรื่องพิจารณายุบพรรค ภท.เข้าสู่ที่ประชุม กกต.ในสัปดาห์หน้า และมีมติส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยควบคู่ไปกับการยื่นคำร้องยุบพรรค ก.ก.เพื่อวัดใจศาลรัฐธรรมนูญ หวังว่าการมาวันนี้จะเป็นการเอาพรรค ภท.บรรจุในเมรุ แล้ว กกต.ลากไปเผายังศาลา ๒ ศาลรัฐธรรมนูญอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่