วันพฤหัสบดี, 2 พฤษภาคม 2567

กางร่าง พระราชบัญญัติกาสิโน ส่องรูโหว่ความเชื่อมั่น

11 เม.ย. 2024
14

ประเด็นร้อนต้องจับตาสำหรับ “การเปิดบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย” หลังจาก กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร(Entertainment Complex) สภาผู้แทนราษฎรเสนอร่าง พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ…ให้รัฐสภาพิจารณาแล้วเพิ่งผ่านความเห็นชอบไปไม่นานมานี้ขั้นตอนถัดไปต้องส่งเรื่องให้ “คณะรัฐมนตรี (ครม.)” เพื่อพิจารณารายละเอียดให้ถี่ถ้วนรอบคอบรัดกุม ทั้งรูปแบบธุรกิจ หลักเกณฑ์ การจำกัดพื้นที่ และอื่นๆ “อันเป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร” ในการพัฒนาผลการศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรฯให้มีความเหมาะสมกับประเทศต่อไปถ้าหากดูเนื้อหาคร่าวๆ “ร่าง พระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจรฯ” มีทั้งหมดอยู่ ๑๐ หมวด ๖๙ มาตรา สำหรับการกำหนดนิยามและโครงสร้างสำคัญอย่างเช่น “การจัดองค์กร” ที่ได้ตั้งคณะกรรมการไว้ ๒ คณะใหญ่คือ คณะแรก…“คกก.นโยบายการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร” โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานทำหน้าที่กำหนดนโยบายบริหารจัดการประกอบธุรกิจ มาตรการป้องกัน แก้ไข เยียวยาผลกระทบ ออกประกาศหลักเกณฑ์วิธีการเงื่อนไข การขอรับใบอนุญาต และออกประกาศกำหนดลักษณะประเภทธุรกิจ คณะที่สอง…“คกก.บริหารสถานบันเทิงครบวงจร” มีผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกิน ๔ คน แล้ว คกก.นโยบายแต่งตั้งปลัดกระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยมีเลขาธิการ ปปง. คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และ ผบ.ตำรวจเป็นกรรมการมีอำนาจพิจารณาเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิง รวมถึงกำหนดดูแลการปฏิบัติงานแผนการดำเนินงาน ค่าใช้จ่ายข้าราชการใน สำนักงานกำกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (กธบ.) และทำหน้าที่บริหารกองทุนป้องกัน และฟื้นฟูผลกระทบต่อมาโครงสร้างที่สอง…“ด้านการประกอบธุรกิจ” กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หลักเกณฑ์ออกใบอนุญาต ประเภทใบอนุญาต ระยะเวลาของใบอนุญาต การกำหนดค่าธรรมเนียมใบอนุญาต เงื่อนไขการเปลี่ยนเจ้าของใบอนุญาต บทกำหนดโทษ และการเพิกถอนใบอนุญาตโดยการประกอบธุรกิจที่จะมีกาสิโนรวมอยู่ด้วยตามบัญชีแนบท้ายกฎหมายมี ๑๒ ประเภทกิจการ อาทิ ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ๕ ดาว ร้านอาหารและบาร์ เบื้องต้นในร่างกฎหมายกำหนดให้สถานบันเทิงครบวงจรต้องได้รับการอนุญาตจากรัฐบาลผ่านการประมูลใบอนุญาต (License) อายุ ๒๐ ปี ต่อใบอนุญาตได้คราวละไม่เกิน ๕ ปีผู้ที่จะเข้าประมูลต้องเป็นนิติบุคคลไทย และมีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ทว่าการเปิดกาสิโนต้องอยู่ในเขตตาม “คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด” เบื้องต้นมีรัศมีไม่เกิน ๑๐๐ กม.จากสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา ครอบคลุม ๑๗ จังหวัด ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมถึงจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัก ๒๒ จังหวัด และพื้นที่ตามแนวชายแดนรวม ๒๒ จังหวัดอีกด้วยสำหรับด้านการลงทุน และการหารายได้เข้ารัฐ อาจให้มีใบอนุญาตในหลายๆประเภท ตั้งแต่ size S, M, L และ XL ในระยะแรกใบอนุญาตมีประเภทเดียวคือ size XL มูลค่าการลงทุนขั้นต่ำ ๑ แสนล้านบาทเรื่องนี้ทันทีที่มีการเสนอ “เปิดร่าง พระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจรฯ” เครือข่ายภาคประชาชนและนักวิชาการต่างเป็นกังวลผลกระทบทางสังคม และเศรษฐกิจจากการมีกาสิโนถูกกฎหมายส่งเสียงของความห่วงใยออกมากว้างขวางโดย “ธนากร คมกฤส” เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน สะท้อนผ่านเพจมูลนิธิรณรงค์หยุดพนันว่า ธนากร คมกฤสการจะเปิดกาสิโนสำเร็จหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ที่ “การสร้างความเชื่อมั่นให้แก่สังคม” ถ้าสังคมมีความเชื่อมั่นว่า “กาสิโน” จะมีความรับผิดชอบ ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้เข้าไปเล่นพนัน หรือไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย ทั้งการคอร์รัปชันและการฟอกเงิน รวมทั้งไม่แสวงหาประโยชน์จากกลุ่มคนเปราะบางที่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย กลุ่มผู้ติดพนัน และเด็กเยาวชน ก็น่าจะเปิดได้ จึงต้องฝากความหวังไว้ที่ “ประสิทธิภาพในการกำกับดูแลและการบังคับใช้กฎหมายของภาครัฐ” เนื่องด้วยกรรมาธิการฯที่อ้างอิงการนำเอาโมเดลสิงคโปร์มาเป็นต้นแบบนั้น แต่พอเห็น “ร่างกฎหมายฉบับนี้” กลับไม่ได้ยึดตามต้นแบบนั้นด้วยซ้ำทำให้เริ่มมีทีท่า “ไม่เชื่อมั่นต่อการกำกับดูแลกิจการกาสิโนบนดินว่าจะทำได้จริง” เพราะหลักโมเดลของสิงคโปร์แยกอำนาจเป็น ๒ ฝ่าย คือ ๑.ฝ่ายดูแลปัญหา และผลกระทบ ๒.ฝ่ายกำกับดูแลการประกอบกิจการที่กำหนดมาตรการต่างๆอย่างเข้มงวด “ภายใต้หน่วยงานที่น่าเชื่อถือ” ในเรื่องนี้สิงคโปร์ก็ค่อนข้างขึ้นชื่ออย่างมากถ้าย้อนมาดู “ร่าง พระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ…” กลับมีการเสนอแนวทางการรวมอำนาจไว้ที่ คกก.นโยบายการประกอบธุรกิจฯ หรือซุปเปอร์บอร์ด เพื่อให้มีอำนาจในการกำหนดแทบทุกอย่างเกี่ยวกับ “กาสิโน” ภายใต้ของคนกลุ่มหนึ่งที่มาจากรัฐบาลทั้งหมด และเป็นกระทรวงด้านเศรษฐกิจล้วนด้วยซ้ำ แต่กลับไม่ปรากฏพบว่า “สธ. หรือ พม.” เข้ามาอยู่ในซุปเปอร์บอร์ดนี้เสมือนเป็นการตีเช็คเปล่าให้คนกลุ่มนี้ใช้อำนาจอย่างเต็มที่ ขณะที่บอร์ดบริหารอันประกอบด้วย “ปลัดกระทรวงต่างๆ” ซึ่งเป็นข้าราชการประจำ มีหน้าที่เป็นเพียง “แม่บ้าน” ในการทำหน้าที่บริหารจัดการตามคำสั่งของซุปเปอร์บอร์ดเท่านั้นกลายเป็นว่า “ไม่มีอำนาจในการถ่วงดุลการตัดสินใจใดๆ” แถมมีสำนักงานกำกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรคอยเป็นผู้รับไปปฏิบัตินั้นเหตุนี้อยากชวนมาคิดดูว่า “รัฐบาล” ที่เห็นดีเห็นงามกับการให้มีกาสิโนถูกกฎหมายอยู่แล้ว “แถมยังหวังอย่างยิ่งว่าจะมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ” เช่นนี้ ทำให้ซุปเปอร์บอร์ดพยายามอุ้ม และออกกฎระเบียบเอื้อต่อทุนกาสิโนอย่างเต็มที่ ส่งผลให้ “การกำกับดูแล” จึงมีแนวโน้มจะเอนเอียงไปทางสนับสนุนมากกว่าการควบคุม ประเด็นนี้นำมาสู่ “กมธ.พิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรฯ” จึงมิได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันปัญหา หรือการลดผลกระทบเลยด้วยซ้ำ สามารถเห็นได้จากการไม่กำหนดให้มีองค์กรลดผลกระทบจากการพนันเหมือน “สิงคโปร์” แต่กลับมีเพียงการกำหนดมาตรการที่แผ่วเบา เช่น การจำกัดอายุ การจำกัดรายได้โดยมีเรื่องกองทุนเติมเข้าไปให้ดูดี “แต่ไม่มีรูปแบบเป็นรูปธรรมของฝ่ายปฏิบัติที่ชัดเจน” เหตุนี้จึงดูเหมือนเป็นลักษณะ “การจัดรูปองค์กรคล้ายคลึงกับกัมพูชาและฟิลิปปินส์” ที่มีรูปแบบองค์กรแบบรวมอำนาจเบ็ดเสร็จไว้ที่ “ศูนย์กลาง” ที่มีบทบาททับซ้อนในการเป็นทั้งฝ่ายหนุนผู้ประกอบการควบคู่กับฝ่ายกำกับดูแลทั้งยังเป็นฝ่ายดูแลปัญหา และผลกระทบด้วย “อันเป็นการขัดแย้งในบทบาทหน้าที่” เพราะคงเป็นไปไม่ได้ที่ฝ่ายองค์กรกำกับดูแลจะเข้ามาเข้มงวดกวดขันกับกิจการที่ตัวเองสนับสนุนและหวังพึ่งพาอยู่นั้น แล้วยิ่งกว่านั้นมีที่ไหนที่ผู้สร้างผลกระทบจะมาทำงานลดผลกระทบจากสิ่งที่ตัวเองก่อขึ้นนั้นดังนั้นจึงอยากให้ “รัฐบาล” ควรพิจารณาการเปิดบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายครบวงจรในประเทศไทยอย่างรอบคอบ เนื่องด้วยกาสิโนสามารถมีได้ “แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานแห่งความเชื่อมั่น” ในการกำกับและแก้ปัญหาผลกระทบที่มากพอ เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ไม่มีความจำเป็นต้องหลบอยู่ใต้เงาของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์อีกด้วยเพราะถ้านำเรื่องนี้ไปซุกใต้ร่มใหญ่ “ยิ่งออกกฎหมายได้ยาก” แถมจะเกิดช่องโหว่เยอะแยะมากมายนี่เป็น “ร่าง พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ..” ที่ดูเหมือนมีความคืบหน้าไปมากจนคาดว่าไม่เกินปีนี้น่าจะเป็นรูปเป็นร่างที่ชัดเจน แล้วนับจากนั้นไม่เกิน ๕ ปีบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายแห่งแรกของประเทศไทยก็จะเปิดให้บริการต้อนรับนักพนันคนไทย และชาวต่างชาติได้…คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า ๑” เพิ่มเติม