วันพฤหัสบดี, 2 พฤษภาคม 2567

วิเคราะห์การเมือง : ชดใช้ราคาที่ต้องจ่าย

ถือเป็นข่าวดีรับเทศกาลสงกรานต์ของคนไทยจำนวนไม่น้อย“ดิจิทัลวอลเล็ต” เติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาทให้ประชาชน นโยบายเรือธงของรัฐบาลเพื่อไทย ที่ใครหลายคนรอคอย ได้รับการยืนยันจาก “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการคลัง ว่าเริ่มทำแล้ว รอรับเงินกันได้เลยสิ้นปี ๒๕๖๗ นี้“นายกฯนิด” ถือฤกษ์ ๑๐ เมษายน๒๕๖๗ ตามนัดหมาย ประกาศให้เป็นวันนับหนึ่งของการเริ่มต้นนโยบาย “ดิจิทัลวอลเล็ต” อย่างเป็นทางการ“นโยบายเติมเงิน ๑ หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว รัฐบาลได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชน และทำตามตัวบทกฎหมาย กรอบวินัยการเงินการคลัง สุจริต รอบคอบ โปร่งใส ตรวจสอบได้”แต่ประชาชนจะได้เงินมาใช้จ่ายจริงๆ ยังต้องรอจนถึงไตรมาส ๔ ราวๆสิ้นปี ๒๕๖๗ ช่วงเดือน ต.ค.-ธันวาคมนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เผยแหล่งที่มาเงินโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” ๕ แสนล้านบาท แบ่งเป็น ๓ ส่วน คือ งบประมาณ ๒๕๖๗ วงเงิน ๑๗๕,๐๐๐ ล้านบาท งบประมาณ ๒๕๖๘ วงเงิน ๑๕๒,๗๐๐ ล้านบาท และเงินจากมาตรา ๒๘ ของ ธ.ก.ส. วงเงิน ๑๗๒,๓๐๐ ล้านบาทยุติการกู้ ไม่ต้องลุ้นผ่านด่านสภา องค์กรอิสระให้ปวดหัวเสียเวลา ทั้งรูปแบบ พ.ร.บ. หรือ พ.ร.ก.รัฐบาลจะใส่เงิน ๑ หมื่นบาทก้อนเดียวให้กับ ๕๐ ล้านคน ในไตรมาส ๔ โดยต้องเป็นประชาชนที่มีอายุ ๑๖ ปีขึ้นไป ณ เดือนที่ลงทะเบียน รายได้ไม่เกิน ๘๔๐,๐๐๐ บาทต่อปี และมีเงินฝากในธนาคารไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาทตอกย้ำนโยบายเรือธงเพื่อไทยยังคงยืนยันเพดานสูงสุดตามที่เคยหาเสียงไว้ตั้งแต่เริ่มต้น ครอบคลุมประชาชน ๕๐ ล้านคน วงเงินงบประมาณ ๕ แสนล้านบาทจัดเต็มชุดใหญ่ไฟลุก ไม่ล้มเลิก ตัดทอน แบ่งจ่าย หรือทำแบบหน่อมแน้มอนาถา กลบทุกเสียงวิจารณ์ถากถาง ด้อยค่าหาทางลง หาเสียงแค่เอาแต้มไม่คิดทำจริงจังเพราะผลงานที่จับต้องได้ แก้วิกฤติเศรษฐกิจปากท้องให้ชาวบ้านได้อย่างเห็นผลเท่านั้น คือคำตอบสุดท้ายเป้าหมายของรัฐบาลเพื่อไทยยามนี้ ไม่มีตัวเลือกอื่นใดที่จะทำแต้มกู้กระแสนิยมที่ตกต่ำเละเทะให้กลับคืนมาได้จุดยืนอุดมการณ์ประชาธิปไตยมันเสียศูนย์ไปจนกลายเป็นวิกฤติศรัทธา ยากที่จะกู้คืนมาในเร็ววันหนำซ้ำเพื่อไทยยังถูกผลักสถานะไปเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมใหม่ จนร้องเสียงหลงต้องออกมาปฏิเสธกันลั่นทั้งนายใหญ่ นายหญิงน้อย นายโย่ง “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่เคยนิยามพรรคตัวเองได้ชัดเท่านี้มาก่อน “พรรคปฏิรูปประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้าด้วยนโยบาย โดยมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์”รับไม่ได้กับการถูกผลักไสออกจากฝ่ายเสรีนิยม ก้าวหน้า สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ไปสู่ฝั่งอนุรักษ์นิยม ที่กลายเป็นของโบราณตกยุคไปแล้ว คนรุ่นใหม่ไม่คิดแม้แต่จะชายตามองพยายามขายยังไงก็ไร้ผล ขึ้นชื่อว่าอนุรักษ์นิยม จะบวกคำว่าใหม่ หรือทันสมัย หรือไฮเทกยังไง ก็เหมือนใช้อะไหล่เดิมเอาไปย้อมแมว ไม่มีใครซื้อ เพราะสัมผัสจับต้องไม่ได้ในเรื่องความทันสมัยแม้แต่ “กองเชียร์ตัวแม่” ด็อกเตอร์เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร ยังทนไม่ไหวออกมาสับออกสื่อ “กลุ่มอนุรักษ์ หรือกลุ่มเผด็จการตามการเรียกขานของฝ่ายประชาธิปไตย”เคยนั่งทบทวนความพ่ายแพ้ของตัวเองบ้างไหม แพ้ทั้งก้าวไกลเพื่อไทยย่อยยับขนาดนั้น ที่เงียบไปเพราะต้องร่วมรัฐบาลอย่างเจียมตัว กลัวถูกขับออก นโยบายอันไหนแย่ก็ไม่กล้าท้วง บางครั้งยังออกมาอวยเสียอีก“ต่อไปฝั่งอนุรักษ์นิยมคงทำได้แค่ให้เขายอมให้ร่วมรัฐบาลเท่านั้น น่าสมเพช และน่าเศร้ามาก”สภาพตกต่ำ ร่อแร่ ฝั่งอนุรักษ์นิยมไทยไปต่อบนถนนการเมืองลำบากเพื่อไทยจึงต้องรีบชิ่งออกจากการถูกเหมารวมเป็นฝั่งอนุรักษ์นิยมด่วนจี๋แต่ถึงยังไงสิ่งที่เห็นตรงหน้า รัฐบาลข้ามขั้วมั่วอนุรักษ์นิยม เพื่อไทยผสมพันธุ์ “๒ ลุง” ก็ปฏิเสธลำบากดังนั้น ชั่วโมงนี้ต้องหลีกเลี่ยง เบี่ยงเบนความสนใจ ไปมุ่งหน้าสร้างผลงานมาสเตอร์พีซให้ได้ก่อนหาก “ดิจิทัลวอลเล็ต” สำเร็จตูมตาม สร้างพายุหมุนเศรษฐกิจตามที่โฆษณาหาเสียงไว้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เงินเดือนปริญญาตรีได้ตามที่หาเสียง แถมมีนโยบายจี๊ดๆโดนใจตามมาเป็นชุด เหมือนสมัยไทยรักไทยฟีเวอร์ อย่างกองทุนหมู่บ้าน เอสเอ็มอีเอสเอ็มแอล ๓๐ บาทรักษาทุกโรคจนชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา พูดได้เต็มปากว่าเป็นผลงานรัฐบาลเพื่อไทยถึงตอนนั้นค่อยมาพูดจาท้าทายใหญ่โต คุยโวจะกลับมาทวงแชมป์ชนะเลือกตั้งแต่ตอนนี้อย่าเพิ่งพูดดีกว่า แค่กู้กระแสกลับมายังรากเลือด เพราะทิ้งห่างกันไปไกลเกือบเท่าตัวความเชื่อมั่นศรัทธา ความไว้วางใจของประชาชนที่สูญเสียไปมากมายนั่นคือราคาที่ต้องจ่ายโคตรแพง ของ “ค่ายแดง” เพื่อไทย.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม