วันพฤหัสบดี, 2 พฤษภาคม 2567

นางสงกรานต์เทพธิดาผู้กตัญญู

13 เม.ย. 2024
15

วันนี้เป็น วันมหาสงกรานต์ วันปีใหม่ไทย ซึ่ง องค์การยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนให้ “สงกรานต์ในประเทศไทย” เป็นตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ สะท้อนถึงวัฒนธรรมไทยที่สืบต่อเนื่องกันมายาวนาน ปีนี้รัฐบาลจัดงานสงกรานต์เป็นงานใหญ่ทั่วประเทศ “มหาสงกรานต์ World Water Festival ๒๐๒๔” ตั้งแต่ ๑๑–๑๕ เมษายน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว มีขบวนรถพาเหรดกว่า ๒๐ ขบวน นักแสดงกว่าหนึ่งพันคน แห่จากสะพานผ่านฟ้าถนนราชดำเนินกลางเย็นวันที่ ๑๑ ไปจอดแสดงโชว์ที่สนามหลวง๑๓ เมษายน ทุกปียังเป็น วันผู้สูงอายุแห่งชาติ พรุ่งนี้ ๑๔ เมษายน เป็น วันครอบครัว เป็นประเพณีที่แสดงถึง “ความกตัญญู” ต่อบุพการี และความอบอุ่นในครอบครัว เป็นวันที่คนในครอบครัวจะกลับบ้านมาอยู่พร้อมหน้ากันนางสงกรานต์ปีนี้ชื่อ นางมโหธรเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกสามหาว (ผักตบชวา) อาภรณ์แก้วนิลรัตน์ ภักษาหารเนื้อทราย พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงตรีศูล เสด็จนอนลืมตามาเหนือหลังมยุรา (นกยูง) เป็นพาหนะ ตามตำนาน นางสงกรานต์มี ๗ คน เป็นธิดาของ ท้าวกบิลพรหม หรือ ท้าวมหาสงกรานต์ เป็นนางฟ้าอยู่บนสรวงสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช หรือสวรรค์ชั้นที่ ๑ (จากทั้งหมด ๖ ชั้น) ทุกปีนางฟ้าทั้ง ๗ จะผลัดเปลี่ยนกันมารับศีรษะของ ท้าวกบิลพรหม ผู้เป็นพ่อ เพื่อแห่รอบเขาพระสุเมรุในวันสงกรานต์ แสดงให้เห็นถึง “ความกตัญญู” ที่มีต่อบุพการีการแบ่งหน้าที่รับศีรษะ ท้าวกบิลพรหม จะใช้ ๗ วันในสัปดาห์เป็นหลักวันสงกรานต์ตรงกับ วันอาทิตย์ นางสงกรานต์จะเป็น นางทุงษะเทวี วันสงกรานต์ตรงกับ วันจันทร์ นางสงกรานต์จะเป็น นางโคราดเทวี วันสงกรานต์ตรงกับ วันอังคาร นางสงกรานต์จะเป็น นางรากษสเทวี วันสงกรานต์ตรงกับ วันพุธ นางสงกรานต์จะเป็น นางมัณฑาเทวี วันสงกรานต์ตรงกับ วันพฤหัสบดี นางสงกรานต์จะเป็น นางกิริณีเทวี วันสงกรานต์ตรงกับ วันศุกร์ นางสงกรานต์จะเป็น นางกิมิทาเทวี วันสงกรานต์ตรงกับ วันเสาร์ นางสงกรานต์จะเป็น นางมโหธรเทวี ปีนี้วันสงกรานต์ตรงกับวันเสาร์ นางสงกรานต์จึงเป็นหน้าที่ของ มโหธรเทวีเรื่องราวของ ท้าวกบิลพรหม และ ตำนานสงกรานต์ ผมคิดว่าคนรุ่นใหม่หรือคนรุ่นเก่าหลายคนคงลืมไปแล้ว เลยขอนำมาเล่าใหม่ย่อๆดังนี้เรื่องเริ่มจาก ท้าวกบิลพรหม ที่คิดจะลองภูมิความฉลาดของ ธรรมบาลกุมาร วัย ๗ ขวบ ซึ่งเป็นเทพที่ พระอินทร์ ส่งมาเกิด โดยเอาศีรษะเป็นเดิมพัน ด้วยคำถาม ๓ ข้อ ดังนี้ ๑.ตอนเช้าราศีคนอยู่ที่ใด ๒.ตอนเที่ยงราศีคนอยู่ที่ใด ๓.ตอนคํ่าราศีคนอยู่ที่ใด ธรรมบาลกุมารไม่สามารถตอบได้ จึงขอเวลา ๗ วัน ก่อนครบ ๗ วันได้ออกจากปราสาทไปนอนใต้ต้นตาล ได้ยินนกอินทรีผัวเมียคู่หนึ่งคุยว่าอยากกินเนื้อตน และได้เฉลยคำตอบว่า ๑.ตอนเช้าราศีคนอยู่ที่หน้า คนจึงต้องล้างหน้าทุกเช้า ๒.ตอนเที่ยงราศีคนอยู่ที่อก คนจึงต้องประพรมเครื่องหอมที่อก ๓.ตอนคํ่าราศีคนอยู่ที่เท้า คนจึงต้องล้างเท้าก่อนเข้านอนถึงวันนัด ธรรมบาลกุมาร ก็ตอบคำถามตามที่ได้ยินมาจากนกอินทรี ปรากฏว่าถูกทุกข้อ ท้าวกบิลพรหม จึงต้องตัดเศียรบูชาธรรมบาลกุมารตามสัญญาแต่ศีรษะ ท้าวกบิลพรหม ซึ่งเป็นเทพไม่ใช่คนธรรมดาจึงมีฤทธิ์ ถ้าเอาไปวางไว้บนแผ่นดินก็จะลุกเป็นไฟไปทั้งโลก ถ้าโยนขึ้นไปบนอากาศ อากาศก็จะแห้งแล้งฝนหายไปสิ้น ถ้าทิ้งลงไปในมหาสมุทร นํ้าในมหาสมุทรก็จะเหือดแห้ง ท้าวกบิลพรหมจึงสั่งให้ธิดาทั้ง ๗ เอาพานมารองรับศีรษะตน เมื่อตัดศีรษะแล้วก็ส่งให้ นางทุงษะ ธิดาคนโตเอาพานรับ แล้ว แห่ประทักษิณรอบเขาพระสุเมรุ แล้วอัญเชิญไปไว้ในถํ้าคันธุรลี เขาไกรลาส บูชาด้วยเครื่องทิพย์ เมื่อครบ ๓๖๕ วันหรือหนึ่งปี ธิดาทั้ง ๗ ก็ผลัดเวรกันเชิญพระเศียรของบิดาออกมาแห่ประทักษิณรอบเขาพระสุเมรุทุกปี แล้วจึงกลับไปเทวโลกแม้จะเป็นตำนาน แต่การผลัดเวรทำหน้าที่เชิญพระเศียรของบิดาออกมาแห่รอบเขาพระสุเมรุทุกปี ก็เป็นการแสดงถึง ความกตัญญูกตเวที ของ นางสงกรานต์ทั้ง ๗ ได้เป็นอย่างดี.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม