วันพฤหัสบดี, 2 พฤษภาคม 2567

วิเคราะห์การเมือง : โจทย์ไฟลุกช่วงสาดน้ำ

รื่นเริงเถลิงศกใหม่มหาสงกรานต์ ได้โอกาสดีเฉลิมฉลอง “มรดกทางภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ” จากยูเนสโกชุ่มชื่นและเฉอะแฉะกันให้เต็มที่ ฉ่ำจิตดั่งมีน้ำทิพย์ชโลมใจทั่วไทยและแน่นอนให้สมกับที่รัฐบาลนายกฯเศรษฐา ทวีสิน และว่าที่ผู้นำ “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ยกเป็นซอฟต์พาวเวอร์ด้านอีเวนต์เทศกาลฉลองในหลายพื้นที่ อีก “เรือธง” รัฐบาลที่ต้องทำให้เห็นเด่นชัด แม้จะขลุกขลักติดขัด โปรโมตไม่ทันและไม่ปังบ้าง ก็ยังเร่งเครื่องตามโปรแกรมยังไงก็ไม่ให้เสียชื่อ และล้างข้อครหาของเล่นลูกสาวนายห้างนั่นก็ไม่ต่างจากนโยบายที่ติดกึกติดกัก มากว่า ๗-๘ เดือน โปรเจกต์เรือธงแจกเงินหมื่นดิจิทัลก็เริ่มออกจากท่าแล้ว ผู้มีคุณสมบัติตามเงื่อนไขรอรับสิทธินั้นได้เลยในไตรมาส ๔ ปลายปี รวมแล้วคนไทยประมาณ ๕๐ ล้านคนอยู่ในข่ายฝันหวานๆรอรับเงินกันได้และเชื่อว่าเรือธงดิจิทัลก็คงไม่ติดอุปสรรคกึ้กกั้กอะไรอีก จะปรับแต่งก็คงรายละเอียดเล็กน้อยเพราะที่กำลังกระหึ่มเมืองเรื่องเสียงวิจารณ์แหล่งเงินมาใช้จ่าย ๓ จุด ในส่วนใช้เงิน ธ.ก.ส.ประมาณ ๑.๗ แสนล้านบาท โดยไม่ต้องกู้ ไม่ต้องเสนอกฎหมาย ประมาณว่าแค่หยิบยืมให้ ธ.ก.ส.อัดฉีดตามภารกิจของธนาคารรายการนี้ตามเป้าหมาย ช่วยเหลือเกษตรกร ๑๗ ล้านคน ทาง ธ.ก.ส.ก็คอนเฟิร์มแล้วว่า ทำได้ตามกฎหมาย ตามทุนสำรอง สภาพคล่องของธนาคารแต่เมื่อมีข้อสังเกตข้อสงสัย ทั้งฝ่ายค้าน นักวิชาการ นักต้านแหลกบางราย “นายกฯเศรษฐา” ก็เปิดหูรับฟังกันตามสไตล์ซีอีโอใจกว้าง เมื่อมีข้อทักท้วง กรณีติดใจเงื่อนไขใดในข้อกฎหมายจ่อส่งคณะกรรมการกฤษฎีกาช่วยเช็กอีกรอบ ปิดช่องว่างความเสี่ยง ชนิดตรวจคุณภาพเช็กคิวซีทุกช็อต ก่อนขนส่งสินค้าขึ้นชั้นวางขายชีวิตไม่ง่ายของ “นายกฯเซลส์แมน”แล้วไม่เท่านั้น ชีวิตและวิถีของคนเป็นผู้นำยังมีโจทย์ยากรออยู่อีกบานเบอะ ชนิดที่ปิดยาวสงกรานต์ “นายกฯเศรษฐา” คงโปร่งโล่งสมองได้ไม่กี่วัน คงต้องคิดอ่านหาวิธีบริหารในห้วงวิกฤตินอกเหนือปัจจัยการควบคุมไฟสงครามจากเพื่อนบ้านจ่อลามเลียตะเข็บชายแดนไทย–พม่าเมืองเมียวดีแตก เมียนมาถูกกองกำลังชาติพันธุ์กะเหรี่ยงและแนวร่วมยึดเมืองเกือบเบ็ดเสร็จ จ่อตีโต้เอาคืน ขณะที่ชาวบ้านไม่รู้อีโหน่อีเหน่เตรียมหนีภัยเข้าดินแดนไทยฝั่งแม่สอด จ.ตากรัฐบาลไทยประชุมด่วนไปแล้ว นายกฯเศรษฐา สั่งตั้งทีมวอร์รูมติดตามสถานการณ์กัน ๒๔ ชั่วโมงคิวนี้เป็นโจทย์ยาก ต้องรวมชุดข้อมูลให้พร้อม ปรับยุทธศาสตร์ใหม่กับเพื่อนบ้านที่มีความเปลี่ยนแปลงรวมทั้งกรอบนโยบายระยะเฉพาะหน้า ระยะกลาง ระยะยาว ที่สำคัญคือท่าทีประเทศไทย เร่งเปิดเร็วไปก็โดนวิจารณ์ แอ็กชันช้าไปก็โดนตำหนิไม่ทันการณ์ท่าทีแค่ไหนอย่างไรถึงพอเหมาะพอควรส่วนวอร์รูมศูนย์ติดตามสถานการณ์ มอบกระทรวงการต่างประเทศ เป็นแม่งาน บูรณาการฝ่ายความมั่นคง สมช.-กองทัพบริหารสถานการณ์ รวมทั้งเรื่องใหญ่ มาตรการรองรับผู้อพยพที่คาดว่าเรือนแสนต้องเตรียมยังไง คุมชายแดน น่านฟ้าประเทศให้เข้มแข็งผู้นำต้องบริหารให้ทันการณ์ หากวิกฤติลุกลาม แน่นอนสุดท้ายหากต้องพึ่งพาขอคำแนะนำ บรมกุนซือ “อดีต นายกฯทักษิณ ชินวัตร” ก็คงไม่แปลก เพราะเป็นผู้นำที่ผ่านโจทย์ใหญ่และยากมีบทเรียนแนวนี้มาหลายหนสมัยที่บริหารประเทศแน่นอน ในภาวะกำลังคึกคักเหิมห้าวในอำนาจเพื่อช่วยแนะนำคิวบริหารประเทศ อดีตผู้นำ “ทักษิณ” ให้คำปรึกษามาแล้ว ทั้งช่วยคิดบริหารงบฯหาเงิน เข็นเรือธงดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งช่วยลูกสาวปั่นซอฟต์พาวเวอร์สงกรานต์โจทย์รับภัยสงครามเพื่อนบ้าน คงมีรายการซีอีโอทอล์ก “นายกฯ–อดีตนายกฯ” จัดคิวปรึกษาหารือแน่ช้าไม่ได้แม้อยู่ช่วงหยุดสงกรานต์ เพราะหากบริหารพลาด นอกจากกระทบความเชื่อมั่นรัฐบาลยังกระทบเครดิตและเดิมพันของขั้วอนุรักษ์นิยมใหม่.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม