วันอังคาร, 30 เมษายน 2567

คืบหน้าแก้หนี้นอกระบบ ไกล่เกลี่ยสำเร็จ ๒๗,๕๒๐ ราย มูลหนี้ลดลง ๑,๐๖๗ ล้าน

ปลัดมหาดไทย เผยความคืบหน้าแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ล่าสุด ไกล่เกลี่ยสำเร็จ ๒๗,๕๒๐ ราย มูลหนี้ลดลง ๑,๐๖๗ ล้านบาท ยังมีเพียงศรีสะเกษ นครสวรรค์ นราธิวาส และระนอง ที่ไกล่เกลี่ยครบ ๑๐๐% พร้อมกำชับจังหวัดที่เหลือเร่งดำเนินการวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๗ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ หลังมีประชาชนมาลงทะเบียนรวมทั้งสิ้น ๑๕๓,๔๐๐ ราย โดยเมื่อเวลา ๑๕.๐๐ น. สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง รายงานข้อมูลการไกล่เกลี่ยหนี้ทั่วประเทศ มีลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว ๔๗,๔๓๓ ราย สามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จ ๒๗,๕๒๐ ราย มูลหนี้ลดลงรวม ๑,๐๖๗.๐๓๗ ล้านบาท และมีกรณีที่เจ้าหนี้-ลูกหนี้มีความประสงค์ให้เจ้าหน้าที่ได้ส่งต่อเรื่องไปยังพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจในพื้นที่ดำเนินคดี ๓๘๕ คดี ซึ่งเจ้าหนี้และลูกหนี้ได้มาพบปะพูดคุยกัน โดยมีเจ้าหน้าที่เป็นคนกลาง และหลังจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ติดตามผลภายหลังจากการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบประสบความสำเร็จครบทั้งกระบวนการต่อไปจังหวัดที่สามารถเชิญเจ้าหนี้-ลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้ได้มากที่สุด ๕ ลำดับ ๑. จังหวัดนครศรีธรรมราช ๔,๔๑๑ ราย ๒. จังหวัดสงขลา ๔,๓๘๐ ราย ๓. จังหวัดศรีสะเกษ ๓,๒๘๓ ราย ๔. จังหวัดนครสวรรค์ ๒,๖๖๙ ราย๕. จังหวัดนครราชสีมา ๒,๕๗๘ ราย  “วันนี้จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดที่มีลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยมากที่สุด ๔,๔๑๑ ราย และมี ๔ จังหวัด ได้แก่ ศรีสะเกษ นครสวรรค์ นราธิวาส และระนอง ดำเนินการกระบวนการไกล่เกลี่ยกับผู้ที่มาลงทะเบียนครบ ๑๐๐% แล้ว ขอให้ทุกจังหวัดที่เหลือเร่งรัดให้ครบทุกกรณี เพื่อให้ลูกหนี้นอกระบบที่ลงทะเบียนไว้ได้รับการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบได้รวดเร็วและเป็นธรรม โดยต้องคำนึงถึงความสำเร็จในการไกล่เกลี่ยของทุกกรณี หากไม่สามารถใช้การเจรจาไกล่เกลี่ยได้ ให้ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมายทันที เพราะหนี้นอกระบบถือว่าผิดกฎหมาย คือ มีการปล่อยกู้โดยไม่มีใบอนุญาต อีกทั้งยังเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด”ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยังได้ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งคลินิกแก้ไขหนี้ พร้อมเน้นย้ำให้กำชับนายอำเภอ มอบหมายสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ ในฐานะเลขานุการกรรมการบริหารศูนย์อำนวยการปฏิบัติการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ระดับอำเภอ (ศจพ.อ.) ใช้แนวทางแก้ไขปัญหาและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน (เมนูแก้จน) เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ลูกหนี้ ซึ่งประสงค์จะได้รับความช่วยเหลือให้สามารถลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มต่อยอดในการสร้างอาชีพ รวมถึงโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อไม่ให้กลับไปสู่วงจรหนี้นอกระบบ และสามารถพึ่งพาตนเองได้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน นายสุทธิพงษ์ ระบุในช่วงท้ายว่า แม้การรับลงทะเบียนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบจะปิดรับไปแล้ว แต่กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนยังไม่สิ้นสุด ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ประชาสัมพันธ์รณรงค์สร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบ หรือปัญหาอื่นๆ ที่ไม่สามารถแก้ไขด้วยตนเองได้ และต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐ ติดต่อผ่านช่องทางทั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ หรือโทรสายด่วน ๑๕๖๗ โดยจะมีเจ้าหน้าที่บริการตลอดทั้ง ๒๔ ชั่วโมง เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นพันธกิจของกระทรวงมหาดไทยในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข