“สุทิน คลังแสง” แจงสื่อข่าวผิดเพี้ยนหลังปล่อยภาพยื่นพวงมาลัยให้ “ทักษิณ” แล้วถูกเมินหน้า ไม่รับ ยันไม่ได้ยื่นให้แค่ยกมือไหว้ เผย ไปพบ ๒ ต่อ ๒ มาแล้วเมื่อ ๙ เม.ย. ชี้หากปรับพ้นรัฐมนตรีให้ไปทำงานไหนก็ทำได้ ไม่เกี่ยว “สุทิน-ชลน่าน” ไม่มีผู้สนับสนุนวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๗ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมชี้แจงกรณีมีสื่อบางสำนักเสนอข่าวว่า นายทักษิณ เมินหน้าและไม่รับพวงมาลัยเมื่อวันที่ ๑๔ เมษายนที่ไปรับประทานอาหารเย็นว่า ขอชี้แจงประเด็นนี้เพราะมีดราม่าไปเยอะ ข่าวที่นำเสนอไปผิดเพี้ยนไปเยอะซึ่งตนเองได้เข้าพบนายทักษิณตั้งแต่วันที่ ๙ เมษายนก่อนใคร เจอกันสองต่อสอง ไปรดน้ำดำหัวนายทักษิณก่อนคุยกันสองคน ซึ่งนายทักษิณก็มีเมตตาให้พรและให้คำปรึกษาในการทำงานมากมาย พอมีคนไปลงข่าวบอกว่าวันที่ ๑๒ เมษายนตนเองไปขอเข้าพบนายทักษิณแต่กลับถูกไล่ให้ไปทำงาน ขอย้ำว่าไม่มีเลย วันที่ ๑๒ ที่จะไปขอพบจะไปทำไมบ่อย จะไปพบวันที่ ๑๔ เมษายนยังเกรงใจเลย กลัวนายทักษิณบอกว่ามาทำไมบ่อย แต่เมื่อเพื่อนชวนก็ไป ส่วนภาพเหตุการณ์ในคลิปถ้าสังเกตให้ดีตนเองและนายพายัพ ชินวัตร ยืนอยู่ด้วยกันสองคนก็ยืนถือพวงมาลัย และคุยกันว่าหากให้พวงมาลัยระหว่างที่นายทักษิณกำลังเดินอาจจะไม่เหมาะสม จะมอบให้อย่างเป็นทางการในร้านอาหาร ซึ่งท้ายที่สุดทั้งตนเองและนายพายัพก็ไม่ได้มอบพวงมาลัยให้นายทักษิณ แต่คนกลับไปตั้งข้อสังเกตว่าตนเองยื่นพวงมาลัยให้นายทักษิณแต่ไม่รับ ยืนยันว่าไม่ได้ยื่นแต่ได้ยกมือไหว้และถ้าหากยื่นไปนายทักษิณก็ต้องรับเพราะเป็นผู้ใหญ่มีเมตตา ไม่ได้คิดแค่นั้น จึงขอไปเข้าใจกันใหม่เรื่องนี้ เพราะยังพูดคุยกันเป็นปกติ แต่ตอนไปมอบพวงมาลัยในร้านอาหารคนไม่ได้ไปดู ซึ่งตนเองก็ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรที่ไม่ดี และขอยืนยันว่านายทักษิณไม่ได้เมินหน้าเมื่อถามว่าลองหันไปมองแววตาของผู้นำเหล่าทัพที่ยืนอยู่ข้างหลัง ว่ารู้สึกอย่างไรช่วงเวลาหลายเดือนที่ได้ทำงานร่วมกันมา ซึ่งนายสุทินบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดเกินไป และขอบคุณที่ทุกคนได้ทำงานร่วมกันมา นายสุทินยังกล่าวอีกว่า ตนเองเป็นคนแบบนี้ แฟร์ๆ ให้เกียรติกับทุกคนคิดว่าหากจะมีอะไรนายกรัฐมนตรีคงต้องบอก แต่เข้าใจว่าที่ไม่บอกเพราะยังคงไม่ถึงเวลา ข่าวที่เกิดขึ้นก็แล้วแต่คนจะคิด เรื่องดีก็มีเยอะส่วนที่หลายคนมองว่า ที่มีชื่อตนเองและนายแพทย์ชลน่าน ถูกปรับหลุดจากเก้าอี้รัฐมนตรีเพราะไม่มีผู้สนับสนุน นายสุทินกล่าวว่า ต้องไปถามว่าเหตุผลอะไรก็ไม่รู้แต่ว่าก็ไม่แปลกเพราะในอดีตก็มีการปรับเปลี่ยนอยู่เยอะ ก็มีทำกันอยู่ ส่วนจะบอกกับคนในพื้นที่อย่างไรคิดว่าชาวบ้านรู้ว่าใครทำงานดีไม่ดีและเข้าใจว่ามีเหตุผลอะไรซึ่งทุกคนก็ให้เกียรติและให้กำลังใจมาเยอะ โดยบอกว่าจะทำงานกี่เดือนก็แล้วแต่ แต่สุทินทำงานมาได้หกเดือนก็ครองใจประชาชนอยู่แล้ว และหากพรรคเพื่อไทยปรับตนเองออกเชื่อว่าจะให้เหตุผลกับประชาชนได้ ซึ่งตั้งแต่ที่มีข่าวจะถูกปรับออกจากคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีก็ยังไม่ได้คุยเรื่องนี้เลย จึงคิดว่าคงไม่ใช่ เมื่อถามว่าหากจะต้องถูกปรับออกจากกระทรวงกลาโหมจริงๆ และต้องกลับไปทำงานในสภาจะถูกมองว่าเป็นการปรับลดบทบาทไปด้วยหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่าอยู่ไหนก็ต้องโชว์ผลงาน ได้งานไหนก็ถนัด ส่วนเรื่องเรือดำน้ำ จะเป็นปัจจัยทำให้ถูกปรับออกจากรัฐมนตรีกลาโหมหรือไม่ เชื่อว่าไม่ใช่แน่นอน
