วันพฤหัสบดี, 2 พฤษภาคม 2567

“เศรษฐา” เมินแรงกระเพื่อมปรับ ครม. เผยถึงคิว พปชร.เจ้าภาพนัดพรรคร่วมกินข้าว

“นายกฯ นิด” เมินแรงกระเพื่อมกระแสข่าวปรับ ครม. ย้ำผลงานคือภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุด เผยถึงคิวพลังประชารัฐเป็นเจ้าภาพนัดพรรคร่วมรัฐบาลทานข้าว ขณะวันนี้ลงพื้นที่ภูเก็ตติดตามโครงสร้างพื้นฐาน-แก้ปัญหาให้ประชาชนวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๗ ที่ท่าอากาศยานทหาร ๒ (กองบิน ๖) ดอนเมือง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการนัดพรรคร่วมรัฐบาลรับประทานอาหารตามวงรอบ หลังจากที่ก่อนหน้านี้พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นเจ้าภาพไปแล้ว ว่า การนัดครั้งต่อไปเข้าใจว่าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นเจ้าภาพ แต่ยังไม่ทราบกำหนดการ ขึ้นอยู่กับเจ้าภาพที่จะนัดมา ผู้สื่อข่าวถามต่อ น่าจะต้องมีการนัดหมายกันได้แล้วใช่หรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้ามา อาจจะต้องพูดคุยถึงเรื่องการทำงาน นายเศรษฐา ระบุว่า อย่าโยงเกี่ยวกัน ๒ เรื่อง และในที่ประชุม คณะรัฐมนตรีมีการพูดคุยกันดีอยู่ ไม่ได้มีปัญหาระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล เข้าใจว่าหนแรกพรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพ หน ๒ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นเจ้าภาพ หากดูตามจำนวน สส. ครั้งต่อไปพรรคพลังประชารัฐเป็นเจ้าภาพ เดี๋ยวคงต้องถามพรรคพลังประชารัฐดู เมื่อถามว่าโอกาสนี้จะได้มีการพูดคุยกันหรือไม่ในเรื่องของการทำงาน นายกรัฐมนตรี ตอบว่า “พูดคุยกันตลอดครับ” ส่วนคำถามว่าจะต้องมีอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายกรัฐมนตรี เผยว่า แล้วแต่สถานการณ์ แล้วแต่เรื่อง สามารถพูดคุยกันได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาขณะที่หลังจากมีข่าวการปรับ คณะรัฐมนตรีออกไป มีแรงกระเพื่อมอะไรหรือไม่ในทางการเมือง ที่อาจจะมีผลกระทบต่อการทำงาน นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องบอกว่าแรงกระเพื่อมคืออะไร อย่างที่ตนเคยเรียนไปเมื่อ ๒-๓ วันก่อนในช่วงสงกรานต์ ก็มีการวิ่งเต้นสอบถามข่าว ตนจึงบอกว่าภูมิคุ้มกันดีที่สุดคือการทำงานเมื่อถามอีกว่าจะลดแรงกระเพื่อมให้กับบรรดาผู้ที่หวั่นไหวหรือไม่ หลังจากที่บางคนมีชื่อออกมา นายเศรษฐา ระบุว่า ยืนยันเหมือนเดิมภูมิคุ้มกันที่ดีคือเรื่องของการทำงาน ผู้สื่อข่าวถามย้ำ น่าจะลดแรงหวั่นไหวของรัฐมนตรีบางท่านได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ทราบจริงๆ ส่วนประเด็นที่หลังมีข่าวการปรับ คณะรัฐมนตรีออกมา ทำให้รัฐมนตรีหลายคนขยันทำงานนั้น นายกรัฐมนตรียิ้มก่อนกล่าวว่า ก็แล้วแต่สื่อที่จะตั้งข้อสังเกตกัน อย่างที่บอกตนในฐานะผู้นำรัฐบาล เรื่องที่ตนสนใจมากที่สุดคือผลงาน อย่างไรก็ตามเมื่อถามว่า นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บอกว่าอยากให้พรรคเพื่อไทยยึดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไว้ เพราะมีนโยบายหลายอย่างที่ต้องขับเคลื่อน นายเศรษฐา ให้คำตอบว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเลข ๑๔๑ เสียง กับ ๕๐๐ เสียง ทุกคนก็อยากได้หมด  ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันนี้นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ภูเก็ต เพื่อติดตามโครงการแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่ โครงการก่อสร้างสะพานยกระดับทางหลวงหมายเลข ๔๐๒๗ (ทางเลี่ยงเมือง) โครงการก่อสร้างสะพานสารสินแห่งใหม่ โครงการทางแยกต่างระดับจุดตัดทางหลวงหมายเลข ๔๐๒ กับทางหลวงหมายเลข ๔๐๒๗ พร้อมติดตามผลการปฏิบัติงานของตำรวจในพื้นที่ ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด หนี้นอกระบบ ตลาดนัดแก้หนี้ บ่อนการพนันการพนันออนไลน์ มาเฟียต่างประเทศ การกวดขันร้านจำหน่ายสุราที่คล้ายสถานบริการ การกวดขันปัญหายางพารา การลักลอบเข้าเมืองตามแนวชายแดน และการแก้ไขปัญหาที่พักอาศัยของข้าราชการตำรวจ โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รวมถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมคณะ.