Tuesday, 14 May 2024

กระชับอำนาจ

21 Apr 2024
17

ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ทุกอย่างเป็นไปตามวิถีทาง ใครทำอะไรไว้ก็ต้องรับผลที่จะเกิดขึ้นอย่างที่เรียกกันว่า “กฎแห่งกรรม” ทำนองนั้นปัญหาในกรมปทุมวันเริ่มกระจ่างชัดขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตำรวจในฐานะรักษาราชการแทน ผบ.ตำรวจได้ลงนามคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และตำรวจอีก ๔ นาย ออกจากราชการเนื่องจากพบว่ามีความผิดจริงในคดีฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์ที่ตามมาก็คือการสอบวินัยร้ายแรงว่ากันว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว “พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล” โอกาสที่จะขึ้นชิงเก้าอี้ ผบ.ตำรวจคราวนี้คงหมดไปแล้ว ไปลุ้นอีกทีก็อยู่ที่ผลการสอบว่ามีความผิดจริงหรือไม่ดีไม่ดีอาจต้องหลุดจากวงโคจรไปเลย ซึ่งมีโอกาสสูงเสียด้วยว่ากันว่าทั้ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตำรวจที่ถูกย้ายไปประจำทำเนียบนั้นอนาคตทางราชการน่าจะหมดแล้วยิ่งกว่านั้นคงไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่อีกต่อไป ซึ่งแวดวงตำรวจต่างรู้สึกพอใจกับสภาพเช่นนี้ เพราะทั้ง ๒ คนล้วนมีจุดอ่อนที่ไม่น่าพึง ประสงค์นักคนหนึ่งก็เขี้ยวลากดิน มีแต่จะทำให้ตำรวจเสียหายอีกคนก็ไม่ได้รับการยอมรับ เนื่องจากไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะดำรงตำแหน่งนี้ในทางคดีความนั้นอาจจะรอดตัวไปได้ แต่คงไม่ได้กลับคืนถิ่นเดิม เรียกว่ายังพอเหลือหน้าตาไว้บ้างนี่คงเป็นเส้นทางของ ๒ นายตำรวจใหญ่ที่วิถีชีวิตผกผัน ก็เพราะทำตัวเองไม่ได้มีใครไปกลั่นแกล้งรังแกขึ้นมาถึงจุดนี้ได้น่าจะพอใจแล้ว!ว่ากันว่าสัปดาห์หน้าการเมืองคงมีความเข้มข้นขึ้น เนื่องจากจะมีการปรับ ครม. ซึ่งทุกอย่างน่าจะลงตัวทั้งไฟเขียว-ไฟแดงสาดแสงมาลงล็อกทุกอย่างใครเข้า-ใครออก ก็เตรียมตัวเตรียมใจรับกันเอาเองแต่ที่แน่ๆ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีนั้นก็อยู่ในข่ายต้องปรับเปลี่ยนด้วยเหมือนกัน เว้นแต่เก้าอี้ผู้นำประเทศยังคงอยู่ที่ควบแน่นก็คือจากรัฐมนตรีคลังจะโยกไปที่รัฐมนตรีกลาโหมแทนอย่างแน่นอน เนื่องจากสภาพความเป็นจริงที่ต้องเป็นเช่นนั้นก็เพื่อต้องการกระชับอำนาจให้ มั่นคงและเข้มแข็งหลังจากบวกลบคูณหารดีแล้ว จึงต้องดำเนินการให้เรียบร้อยจริงอยู่ นายกรัฐมนตรีอาจกังวลในเรื่องเศรษฐกิจ แต่เมื่อนโยบายสำคัญคือ “ดิจิทัลวอลเล็ต” ผ่าทางตันไม่น่าจะมีปัญหาแล้วอีกทั้งได้ปูพื้นเศรษฐกิจเอาไว้ดีแล้ว คนมารับช่วงต่อสามารถดำเนินการต่อไปได้เลยจึงต้องหันมาเน้นเรื่องความมั่นคงแห่งรัฐและรัฐบาลไปในคราวเดียวกัน นั่นคือตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมนั่นคือการควบคุม “กองทัพ” ไม่ให้เกิดปัญหาเพราะรัฐมนตรีกลาโหมนั้น คือ ๑ ในบอร์ดการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร ๓ เหล่าทัพ จะเอาคนไหนอย่างไร จึงต้องมีส่วนในการตัดสินใจด้วยประเด็นสำคัญมันอยู่ตรงนี้แหละ…เมื่อทุกอย่างเข้ารูปเข้ารอยที่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลสามารถควบคุมดูแลทหาร-ตำรวจได้ก็เท่ากับ“คุมประเทศ” นี้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ต้องไปกังวลหรือหวาดหวั่นอะไรแล้วความมั่นคงของรัฐบาลที่จะอยู่ยาว ๔ ปี ก็ชัดเจนขึ้น!“ลิขิต จงสกุล”คลิกอ่านคอลัมน์ “สับรางวันอาทิตย์” เพิ่มเติม