Monday, 20 May 2024

คุมอำนาจมา ๗ เดือน เศรษฐาเปิดอกยังไม่พอใจยันพยายามจะทำให้ดีขึ้น ย้ำไตรมาส๔ ได้แน่ ๑ หมื่น

16 Apr 2024
23

“เศรษฐา” เปิดใจ บริหารอำนาจมา ๗ เดือนยังไม่พอใจ ต้องทำให้ดีขึ้น เล็งเป้าปัดกวาดกรมศุลฯให้สะอาดบริสุทธิ์ โอดไม่แลนด์สไลด์ทำนโยบายสะดุด ไตรมาส ๔ ได้แน่เงินหมื่น ฟุ้งเห็นผลกระตุ้นเศรษฐกิจต้นปีหน้า ถ้าคิดแต่หวังผลประโยชน์คงไม่มาอยู่ตรงนี้ ลั่นเพื่อประชาชนพร้อมยอมเสียเพื่อน ปรับจูน สส.พท. งบฯมีจำกัดต้องบริหารจัดการให้ดี “เจ๊แดง” เปิดบ้านพักกรีนวัลเลย์ รมต.-สส.-แกนนำเพื่อไทย แห่รดน้ำดำหัว “นายใหญ่” “ทักษิณ” มั่นใจปีหน้าบ้านเมืองดีขึ้นแน่ ประชาชาติให้ “ทวี” เป็น รัฐมนตรีต่อ ปัดตอบเปลี่ยนตัวประธานสภาฯ “พิธา” รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ ครวญอาจเป็นสงกรานต์สุดท้ายในฐานะ สส. ย้ำกำลังใจจากพี่น้องประชาชนคือลมใต้ปีกให้สู้ต่อ “ราเมศ” ท้าทาย “ยิ่งลักษณ์” ใช้วิธีกลับบ้านแบบ “พี่ชาย” “ชนินทร์” แซะ “เศรษฐา” วิสัยทัศน์ฉาบฉวย หยันผู้นำ “อำนาจทิพย์” รอฟังแต่คำสั่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ให้สัมภาษณ์เปิดใจช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ ยอมรับช่วงเวลา ๗ เดือนที่ผ่านมายังไม่พึงพอใจ มีหลายเรื่องไม่ได้ดั่งใจ มีแค่ ๑๔๑ เสียงไม่แลนด์สไลด์ทำนโยบายสะดุด ประกาศไตรมาส ๔ ปีนี้ประชาชนได้แน่เงิน ๑ หมื่นบาท ดิจิทัลวอลเล็ตนายกฯโอดไม่แลนด์สไลด์ทำสะดุดเมื่อวันที่ ๑๕ เม.ย. ที่บ้านพักหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๗ ที่มีความล่าช้า ทำให้หลายนโยบายรัฐบาลถูกขยับออกไป เช่น โครงการเติมเงิน ๑ หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต (ดิจิทัลวอลเล็ต) ที่เดิมตั้งเป้าหมายไว้ต้นปีนี้ว่า หากย้อนไปการจัดตั้งรัฐบาลใช้เวลา ๓ เดือน ถือว่านานที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ความจริงไม่อยากโทษงบฯล่าช้า ไม่สามารถนำมาเป็นข้ออ้างได้ ทราบว่าจะใช้ได้จริงช่วงเดือน พ.ค. แต่การใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เราทำได้ทั้งวีซ่าฟรี พักหนี้เกษตรกร และลดค่าใช้จ่าย ขณะที่โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเราต้องการเม็ดเงินใหม่ ใช้งบฯ ๕๖๐,๐๐๐ ล้านบาท เราประกาศว่าทุกคนต้องได้หมด ต้องใช้หมดภายใน ๖ เดือน แต่เอาเข้าจริงเราได้ ๑๔๑ เสียง ไม่ใช่แลนด์สไลด์อย่างที่หวังไว้ และมีหลายภาคส่วนที่เราต้องรับฟัง ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) นักวิชาการลั่นไตรมาส ๔ ได้แน่ดิจิทัลวอลเล็ตนายเศรษฐากล่าวว่า รวมไปถึงการตั้งหลักเกณฑ์เงื่อนไขต่างๆ เช่น คนรวยใช้หลักเกณฑ์อะไรในการวัด การตัดกลุ่มเป้าหมายไป ๑๒ เปอร์เซ็นต์ของวงเงินทั้งหมด และมีการตั้งคำถามว่าจะกู้เงินมาใช้ในโครงการดังกล่าวหรือไม่ กระทั่งเราบริหารจัดการตรงนี้ให้มันมาจริงๆ อย่างไรก็ตาม ไตรมาส ๔ นี้ได้อย่างแน่นอน ยืนยันทุกอย่างทุกขั้นตอนตรวจสอบได้ สุจริต บริสุทธ์ใจ ขอให้คอยในไตรมาสที่ ๔ เมื่อถามย้ำว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะไม่มีอะไรมาเตะถ่วงทำให้ต้องเลื่อนออกไปอีก นายเศรษฐารีบตอบกลับว่า “มั่นใจ”เห็นผลกระตุ้นเศรษฐกิจต้นปีหน้าผู้สื่อข่าวถามว่ามีการประเมินหรือไม่ว่าการขับเคลื่อนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต รวมไปถึงเศรษฐกิจต่างๆ ผลจะออกมาในช่วงไตรมาสใด นายกฯตอบว่า คิดว่าในช่วงไตรมาส ๑-๒ ของปีหน้า (๒๕๖๘) จะเห็นผล นโยบายการท่องเที่ยวยังคงเป็นเรือธงกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาส ๔ ปีนี้ และระหว่างทางจะมีนโยบายอื่นออกไป เป็นไปตามที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เช่น การสร้างถนน เมื่อถามว่ามีการวิพากษ์ วิจารณ์ว่ารัฐบาลให้เงินมากเกินไปจนสุดท้ายไม่ได้อะไร นายเศรษฐาตอบว่า ชัดเจนว่าเราบอกว่าทำครั้งเดียว ในอดีตการเติมเงินเข้ากระเป๋าทุกคน ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติโควิด-๑๙ เติมเพียงแค่ ๑-๒ พันบาท เอาไปใช้ที่ไหนก็ได้ แต่ครั้งนี้จำกัดประเภทสินค้า ระยะทาง วันนี้เราต้องการให้อำเภอเล็กๆได้ลืมตาอ้าปาก มั่นใจว่าเรามาถูกทาง พร้อมปรับปรุงตามฝ่ายค้านแนะนายเศรษฐายังกล่าวถึงการทำงานของฝ่ายค้านว่า ฝ่ายค้านทำหน้าที่ได้ดี เป็นการเตือนสติ สิ่งใดที่ยังทำได้ไม่ดีพร้อมรับไปพิจารณานำไปปรับปรุง อะไรที่มีขีดจำกัดจะพักไว้ก่อน ถึงเวลาแก้ไขก็จะแก้ไข ส่วนตัวเข้าใจและพยายามแยกแยะไม่โฟกัสเรื่องที่ไม่ถูกต้อง หรืออะไรที่เป็นเกมการเมืองมากเกินไป พยายามไปโฟกัสในคำแนะนำที่เป็นผลดีกับประชาชน เมื่อถามว่าฝ่ายค้านเล่นการเมืองมากไปหรือไม่ นายกฯตอบว่า ขอให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน ไม่อยากสร้างประเด็นทางการเมือง ยืนยันว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้ละเลยเรื่องรายละเอียด บางเรื่องมีเวลาก็ต้องพยายามจัดการกันไป หรือบางเรื่องพยายามกำหนดกรอบเวลา หลายอย่างที่พยายามทำมาต้องมาช่วยกันดู ทั้งรายละเอียด งบประมาณ การทุจริตรับยังไม่พอใจกับ ๗ เดือนที่ทำมานายเศรษฐากล่าวถึงการทำงานช่วง ๗ เดือนที่ผ่านมาว่า มีเรื่องไม่ได้ดั่งใจเยอะ หลายปัญหาของประชาชนยังไม่ได้รับการแก้ไข ทั้งราคาพืชผลการเกษตรที่แม้จะดีแล้วแต่ยังดีกว่านี้ได้อีก เรื่องการท่องเที่ยว ข้อมูล ณ วันที่ ๑๒ เม.ย. ตัวเลขนักท่องเที่ยวถือว่าดีมาก มั่นใจสถิติคนมาเที่ยวไทย ๓๙.๔ ล้านคน เราสามารถดันตัวเลขให้สูงขึ้นได้ในสิ้นปีนี้ ขณะที่กรมศุลกากรหนึ่งใน ๓ กรมหลักจัดเก็บภาษีเป็นรายได้เข้าคลัง ปีละ ๑ แสนล้านบาท คิดเป็นประมาณ ๓% ของรายได้รวมของประเทศ ๓ ล้านล้านบาท ถือว่ายังต่ำแม้จะเก็บได้ ๓% เพราะเป็นกรมหลักในการควบคุมสินค้าเถื่อน หนึ่งในนั้นคือการควบคุมยางพาราเถื่อน ส่งผลให้ราคายางในประเทศสูงขึ้น แต่เป็นเรื่องแปลกที่มีคนมาวิ่งเต้นกับกรมศุลกากรมากที่สุด เป็นเรื่องที่น่าสงสัย จึงเป็นที่มาต้องพัฒนากรมศุลกากรให้สะอาดบริสุทธิ์ ช่วยเหลือประชาชนได้จริงในหลายมิติ หรือเรื่องภาษีนำเข้าที่เป็นจุดรั่วไหล ทำให้การจัดเก็บภาษีในประเทศไม่ดีเท่าที่ควร ยอมรับว่าไม่สบายใจ ขอใช้คำว่ายังไม่พึงพอใจกับการทำงาน ๗ เดือน ต้องพยายามต่อไปหวังผลประโยชน์คงไม่มาตรงนี้นายกฯกล่าวว่า ส่วนจากการเป็นนักธุรกิจที่เข้าสู่วงการการเมือง ยอมรับว่าต้องปรับตัวมาก การเป็นซีอีโอของบริษัทได้รับการซัพพอร์ตเต็มที่จากคณะกรรมการและผู้ถือหุ้น แต่มาอยู่ในบริบทนักการเมือง และเป็นนายกฯที่มี ๑๔๑ เสียง เป็นรัฐบาลผสม มีผู้ร่วมงานที่ต่างกัน ทั้งประชาชน สส. สว. สถาบันความมั่นคง เอ็นจีโอ นักข่าว หลายภาคส่วนต้องพูดคุยและอธิบาย ขอใช้คำว่าหุ้นส่วนในการช่วยเหลือประชาชน แต่ละพรรค สส.แต่ละคนก็ไปสัญญากับประชาชนแตกต่างกันไปบ้าง ดังนั้นการบริหารจัดการงบฯก็มีส่วน ทำให้การขับเคลื่อนโครงการต่างๆช้าไปบ้าง แต่การทำงานร่วมกันมา ๗ เดือน เชื่อว่าเรารู้ใจกันให้เกียรติกัน เชื่อว่าการช่วยเหลือประชาชนจะค่อยๆดีขึ้น เมื่อถามว่าการเป็นนักธุรกิจแล้วมาเป็นนายกฯ มีเพื่อนเป็นนักธุรกิจ ย่อมหนีไม่พ้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์การเอื้อประโยชน์ นายเศรษฐาตอบว่า เดินมาสู่การเมืองมีจุดมุ่งหมายเดียว คือยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนในทุกมิติให้ดีขึ้น “หากจะเซฟตัวเองผมไม่มาตรงนี้ ฉะนั้นมั่นใจได้ว่าเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนผมไม่มีแน่นอน ชีวิตส่วนตัวลงตัวแล้ว มีรายได้ในอดีตที่ดีพอสมควร มีทรัพย์สินที่ทำให้อยู่ได้อย่างสบายๆ คนในครอบครัวมีความสุข มีหน้าที่การงานที่เหมาะสมแล้ว และหวังว่าจะทำให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งผมได้”เพื่อประชาชนพร้อมเสียเพื่อนนายเศรษฐากล่าวว่า การที่มีเพื่อนเป็นนักธุรกิจเยอะ และตอนนี้ก็มีเพื่อนเป็นนักการเมืองเยอะ เชื่อว่าประสบการณ์ในวงการธุรกิจ ๔๐ กว่าปีถือว่าเยอะพอที่จะตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม เพื่อประชาชน เมื่อถามว่าการมานั่งเป็นผู้นำอาจต้องเสียเพื่อนไปบ้าง กรณีที่ไม่สมประโยชน์กัน จะรับมืออย่างไร นายเศรษฐาตอบว่า เจอเพื่อนทุกคนก็คุยกันว่าคนอายุ ๖๐ ปีแล้ว อยากทำสิ่งที่ตัวเองชอบ อยากไปดูฟุตบอลเชียร์ลิเวอร์พูลทุกนัด อยากเดินทางไปประเทศที่ไม่เคยไป ทานอาหารอร่อยในทุกประเทศ อยากหาความสุขให้ตัวเอง แต่เมื่อได้ประกาศว่าอุทิศตนแล้ว และบอกเพื่อนฝูงว่าเรื่องที่จะมาขัดขวางในการทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนดีขึ้น จากการถูกเอาเปรียบจากผู้ที่ทำตัวเป็นอภิสิทธิ์ชนทั้งหลาย หากเพื่อนทำตัวแบบนั้นก็พร้อมจะเสียเพื่อน หากอีก ๓ ปีครึ่ง ต้องมีเพื่อนน้อยลง ก็พร้อมจะแลกกับการทำให้คนที่อยู่ในฐานพีระมิดดีขึ้นงบฯมีจำกัดต้องบริหารจัดการให้ดีผู้สื่อข่าวถามว่ามุมมองทางการเมืองเปลี่ยนไปหรือไม่หลังเข้ามา นายกฯตอบว่า หลายคนอาจบอกว่านักการเมืองมีทั้งดีและเลว บางคนบอกว่านักการเมืองเลวเพราะการทุจริตประพฤติมิชอบ แต่บางเรื่องเป็นความเห็นต่างหรือวิธีการที่แตกต่างกัน มีวิธีการดูแลประชาชนต่างจากที่รัฐบาลมอง ดังนั้น ต้องจูนเข้าหากัน หรือเวลามีคนมาแนะนำเรื่องอะไร และเห็นชัดเจนว่าต้องการผลประโยชน์ส่วนตัว คนพวกนั้นดูถูกตนไปนิดนึง นักการเมืองจะมาขออะไรก็ขอให้อยู่บนบรรทัดฐานที่เหมาะสม ส่วนความสัมพันธ์กับ สส.พรรคเพื่อไทย ที่ยังมีเสียงสะท้อนจากในพรรคว่ายังมีระยะห่างกันมาก และส่วนหนึ่งจากการเข้มงวดเรื่องงบฯนั้น หลายโครงการที่ขอมาก็มีได้ อย่างที่บอกงบฯมีจำกัด ในฐานะนายกฯมีหน้าที่ดูแลภาษีประชาชน และมีหน้าที่ตอบรัฐสภาว่าภาษีนั้นมีการใช้อย่างเหมาะสมหรือไม่ ต้องดูให้ดี อยากค่อยๆทำ ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป ขอให้ถึงเวลาก่อนปรับจูน สส.พท.ไม่น้อยใจ-ไม่งอนนายเศรษฐากล่าวว่า มีหน้าที่ต้องปรับจูนกับ สส.ของพรรคตลอดเวลา ต้องหลังพิงประชาชนเพราะเป็นคนส่งให้มายืนอยู่ตรงนี้ และต้องผ่าน สส.ที่มีถึง ๑๔๑ คน ยังไงก็ต้องโน้มน้าวเข้าหาตลอดเวลา และพยายามอธิบายให้เข้าใจ ไม่ได้น้อยใจ ไม่ได้โกรธ ไม่ได้งอน ยังต้องพยายามไปพบปะพูดคุย หาวิธีสื่อสารให้มากขึ้นให้เข้าใจกันมากขึ้น ไม่ใช่แค่ สส.พรรค พท. เพราะเป็นนายกฯของคนไทยทุกคน สัปดาห์หน้าจะลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต ดูการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส ๔ ส่วนการบริหารอารมณ์ เราก็เป็นคนก็มีอารมณ์บ้าง ไม่ได้เป็นนักการเมืองอาชีพ เข้าใจว่าถ้าเป็นนายกฯต้องไม่มีสิทธิ์เลือกโกรธ ต้องพยายามรับฟัง พยายามควบคุมอารมณ์ให้ดีทำให้ ดียิ่งขึ้นอยู่ บางเรื่องก็เข้าใจได้พยายามฝึกกันต่อไป เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้เป็นนักธุรกิจแล้วใจร้อนมาก แต่มาเป็นนายกฯแล้วใจเย็นขึ้นเยอะจนเพื่อนบ่น นายเศรษฐาตอบว่าเรื่องนี้ต้องให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน หรือให้สื่อมวลชนสะท้อนว่ามีการพัฒนาอย่างไร ถ้าถามว่าทำได้ดีพอหรือยัง ต้องตอบว่ายังไม่ดี ต้องพยายามกันต่อไป เมื่อเป็นบุคคลสาธารณะแล้วต้องรับฟัง ทุกคำถาม “ทักษิณ” ทำบุญขึ้นบ้านใหม่น้องเมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. ที่บ้านพัก อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมพิธีทำบุญขึ้นบ้านใหม่บ้านของนางเยาวเรศ ชินวัตร น้องสาว โดยมีคนในครอบครัวชินวัตร และบรรดาคนสนิทในพื้นที่มาร่วมพิธีกันอย่างคึกคัก อาทิ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี น้องเขย นายพายัพ ชินวัตร น้องชาย นิมนต์พระจากวัดโรงธรรมสามัคคีมาทำพิธี ซึ่งวัดดังกล่าวเป็นวัดที่มีกู่ประจำตระกูล ทั้งนี้ ภายในงานมีการเลี้ยงอาหารพื้นเมือง“เจ๊แดง” เปิดบ้านให้รดน้ำขอพรจากนั้นช่วงบ่าย ที่บ้านพักกรีนวัลเลย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ของนายสมชายและนางเยาวภา ได้เปิดโอกาสให้รัฐมนตรี สส. ข้าราชการ ข้าราชการท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เข้ารดน้ำดำหัวขอพรนายทักษิณ เนื่องในโอกาสเทศกาลสงกรานต์ ใช้ชื่องานว่า “สระเกล้าดำหัวประเพณีปี๋ใหม่เมือง” มีการจัดซุ้มอาหารคอยบริการผู้ที่มาร่วมงาน บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก บรรดารัฐมนตรี สส. และอดีต สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ทยอยเดินทางมาร่วมงานตั้งแต่เวลา ๑๕.๐๐ น. ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจนทำให้เต็นท์ซุ้มอาหารปลิว นอกจากนี้ ยังมีประชาชนจัดเครื่องบายศรี กลองสะบัดชัย มาร่วมงานด้วย มีกลุ่มคนเสื้อแดงนำธงที่โบกในการชุมนุมของคนเสื้อแดงมาโบกภายในงาน ทันทีที่นายทักษิณเดินทางมาถึงมีการตั้งขบวนแห่น้ำเพื่อมารดน้ำดำหัวนายทักษิณ พร้อมทั้งประกอบพิธีทางล้านนา โดยนายสมพงษ์เป็นผู้นำรดน้ำขอพรเป็นคนแรก จากนั้นนายทักษิณออกมาพบปะประชาชนบริเวณลานด้านหน้าห้องรับรอง ที่จัดเตรียมไว้ให้ผู้มาร่วมงานได้รดน้ำดำหัวรมต.-สส.แห่ร่วมดำหัว “นายใหญ่”สำหรับแขกคนสำคัญที่มาร่วมงาน อาทิ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการมหาดไทย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการการท่องเที่ยวและกีฬา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการคมนาคม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการคลัง นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค พท. นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ขณะที่กลุ่ม สส. นำโดย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ น.ส.ศรีโสภา โกฎคำลือ สส.เชียงใหม่ น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัฐ สส.เชียงราย นายพชร จันทรรวงทอง สส.นครราชสีมา นายโกศล ปัทมะ สส.นครราชสีมา น.ส.วิภาณี ภูคำวงศ์ สส.ขอนแก่น รวมถึงนายคชาภา ตันเจริญ หรือมดดำ พิธีกรชื่อดัง บุตรชาย นายสุชาติ ตันเจริญ สส.บัญชีรายชื่อมั่นใจปีหน้าบ้านเมืองดีขึ้นแน่นายทักษิณกล่าวกับผู้ที่มาร่วมงานว่า วันนี้ถือเป็นยุคดิจิทัล เดี๋ยวดิจิทัลวอลเล็ตก็มาแล้ว วันนี้ มีความสุขมากได้มาร่วมประเพณีรดน้ำดำหัวในวันสงกรานต์เป็นครั้งแรกในรอบ ๑๘ ปี หลายคนมาจับตัวแล้วถามว่านี่ตัวเป็นๆใช่หรือไม่ ขอบคุณรัฐมนตรี สส. และเพื่อนพี่น้อง ที่วันนี้มารดน้ำดำหัว ดูแลอาจไม่ทั่วถึงแต่ได้เห็นหน้าเห็นตา ขอบคุณนักการเมืองท้องถิ่นทั้งหลาย อบจ.ก็มาหลายคน วันนี้ดีใจ ไม่ได้พูดเหนือมานานเลยพูดไม่ค่อยคล่อง ตอนนี้อายุ ๗๕ ปีแล้ว คนส่วนใหญ่ในนี้อ่อนกว่ามีแก่กว่าไม่กี่คน ขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรง สำคัญที่สุดขอให้มีกำลังใจในการต่อสู้ชีวิต และขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี มั่นใจว่ารัฐบาลและตนจะพยายามแนะนำสิ่งที่ดีๆ แก้ปัญหาให้บ้านเมือง เชื่อว่านายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี จะแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ปีนี้อาจช้าหน่อยเพราะต้นปีรัฐบาลใช้งบไม่ได้ ต้องใช้งบประจำ งบลงทุนยังไม่มี แต่หลังจากนี้เป็นต้นไปเริ่มจะดีขึ้นปีหน้ามั่นใจว่าบ้านเมืองจะดีขึ้น มันเป็นหน้าที่ที่อดีตนายกฯคนหนึ่งที่ยังรักบ้านเมือง เป็นห่วงบ้านเมือง ต้องมาช่วยกัน อยากขอให้พี่น้องประชาชนมีกำลังใจ ไม่นานทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม ขอให้ทุกคนมีกำลังใจ มีความสุขทุกคน ประชาชาติให้ “ทวี” นั่ง รัฐมนตรีต่อขณะที่นายซูการ์โน มะทา สส.ยะลา เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า ใน ส่วนพรรคประชาชาติยังไม่มีอะไร ยังไม่มีแรงกระเพื่อมใดๆ มองว่าการปรับ ครม. หลังจากทำงานมาแล้ว ๗ เดือน หากจะปรับควรคุยในพรรคร่วมรัฐบาล แต่ขณะนี้ยังไม่มีการหารือในพรรคร่วมรัฐบาล จึงไม่ทราบข้อเท็จจริงจะเป็นการปรับเฉพาะพรรคใดหรือไม่ แต่พรรคประชาชาติยังไว้วางใจให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ ทำหน้าที่ใน คณะรัฐมนตรีต่อ เมื่อถามว่าที่ผ่านมา พ.ต.อ.ทวีโดนกระแสสังคมวิจารณ์หนักประเด็นนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายซูการ์โนตอบว่า วันที่ ๒๑ เม.ย. พรรคประชาชาติจะประชุมใหญ่สามัญประจำปี ที่โรงแรมอัลมีรอซ หัวหมาก เป็นวาระรับทราบการดำเนินกิจการของพรรค เช่น งบดุลพรรค ยังไม่มีประเด็นปรับตัวกรรมการบริหารพรรค หรือตำแหน่งใดๆปัดตอบเปลี่ยนตัวประธานสภาฯเมื่อถามว่ากรณีการปรับ คณะรัฐมนตรีที่จะเกิดขึ้น มีการประเมินอาจกระทบถึงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ดำรงตำแหน่งอยู่ เพราะพรรคเพื่อไทยต้องการคุมงานสภาฯ นายซูการ์โนตอบว่า ไม่ทราบในรายละเอียด ไม่สามารถให้ความเห็นได้ ยังไม่ได้คุยกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา“วิสุทธิ์” เชื่อมีปรับ คณะรัฐมนตรีหลัง ๗ เดือนนายวิสุทธิ์ ไชยรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการร่วมมื้อค่ำกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ จ.เชียงใหม่ ว่าเป็นการร่วมรำลึกความหลัง และรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ตามประเพณีชาวล้านนา ไม่มีการพูดคุยประเด็นการเมือง ส่วนกระแสการปรับ ครม. ยังไม่ทราบรายละเอียด ทราบเพียงข่าวที่สื่อเท่านั้น และไม่เห็นว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข และนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกลาโหม ที่มีข่าวจะถูกปรับออกจากตำแหน่งมีสีหน้าเศร้าหมอง มองว่าการปรับ คณะรัฐมนตรีอาจต้องมีบ้าง หลังจากทำงานมา ๗-๘ เดือน เป็นธรรมดาของการเมือง ในพรรคเพื่อไทยไม่มีปัญหาอะไร แต่การปรับ คณะรัฐมนตรีถือเป็นความลับฝ่ายบริหาร ไม่เกี่ยวกับทางสภาฯ“พิธา” รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุขอนแก่นที่วัดกู่ประภาชัย ต.บัวใหญ่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมทำบุญและรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ เนื่องในวันผู้สูงอายุ วันที่ ๑๕ เม.ย. เป็นภารกิจสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ กทม. มีประชาชนรับขวัญด้วยการผูกข้อมือ ผูกผ้าขาวม้ารอบเอว และคล้องพวงมาลัยต้อนรับอย่างอบอุ่น นายพิธากล่าวกับพี่น้องประชาชนที่มาร่วมงานว่า ตลอด ๓ วันที่ได้ร่วมเล่นน้ำสงกรานต์และพบปะพี่น้องชาวอีสาน ทั้งที่ จ.หนองคาย อุดรธานี และขอนแก่น เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมาก แต่ต่อจากนี้ไปคงถึงเวลาที่ชีวิตทางการเมืองของตนจะเข้าสู่ช่วงเข้าด้ายเข้าเข็ม จากคดียุบพรรคก้าวไกลที่กำลังดำเนินอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ อาจนำไปสู่การตัดสิทธิในการเป็นผู้แทนราษฎร เชื่อว่าคำวินิจฉัยจะออกมาไม่เกิน ๑ เดือนต่อจากนี้ และนี่อาจเป็นสงกรานต์ครั้งสุดท้ายในฐานะผู้แทนราษฎร กำลังใจพี่น้องคือลมใต้ปีกให้สู้ต่อนายพิธากล่าวอีกว่า วัฒนธรรมอีสาน การให้ขวัญและกำลังใจแก่กันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ตลอด ๓ วันที่ผ่านมาขอบคุณพี่น้องชาวอีสานที่ร่วมให้ขวัญและกำลังใจตนและพรรคก้าวไกลอย่างเต็มเปี่ยม ทั้งการผูกข้อมือ การผูกผ้ารอบเอว คล้องพวงมาลัย พรที่พระให้ รวมถึงน้ำที่สาดเข้ามา ขอรับไว้เป็นกำลังใจทั้งหมด กำลังใจเหล่านี้เปรียบเสมือนลมใต้ปีกที่คอยพยุงตนและพรรคก้าวไกลให้สู้ต่อไปอย่างเข้มแข็งในสถานการณ์ที่ยากลำบาก อีก ๑ เดือนต่อจากนี้ หวังว่าพวกเราจะชนะ เพื่อให้ครั้งต่อไปที่กลับมาหาพี่น้องประชาชนจะยังกลับมาในฐานะพรรคก้าวไกลและผู้แทนราษฎรเช่นเดิม และถ้าเป็นไปได้ ในอีก ๓ ปีข้างหน้าอาจกลับมาในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยยก ปชป.พันธุกรรมแตกต่าง พท.ด้านนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุว่ามีการพูดคุยกับคนในพรรค ปชป.ว่า เรื่องร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลตอบได้ชัดเจนว่าในส่วนของคณะกรรมการบริหารพรรคไม่เคยคุยเรื่องนี้แม้แต่ครั้งเดียว ทุกกระบวนการมีขั้นตอนกำหนดไว้ชัดเจนว่าต้องผ่านการพิจารณาของที่ประชุม กก.บห. และที่ประชุมกันระหว่าง กก.บห.กับ สส.พรรค ไม่มีใครมีอำนาจไปพูดคุยตกลงเองได้ และพรรค ปชป.ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทำหน้าที่อย่างเต็มที่ พรรคยืนยันมาตลอดว่าเราไม่มีดีเอ็นเอโกง นั่นแสดงให้เห็นว่าเรามีพันธุกรรมที่แตกต่างกัน นายกฯก็บอกเองว่ารัฐบาลมีเสียงเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องเพิ่มเสียงอีก ที่สำคัญนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ปชป. ยืนยันชัดว่าไม่มีการพูดคุยเรื่องร่วมรัฐบาล ไม่อยากให้นายทักษิณพูดคลุมเครือ ส่วนที่นายทักษิณกล่าวถึงนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค ปชป.นั้น เรื่องนี้ไม่ทราบ ตอบแทนไม่ได้ ต้องไปสอบถามรายละเอียดจากนายเดชอิศม์เองท้าทาย “ปู” ใช้วิธีเดียวกับ “พี่ชาย”นายราเมศยังกล่าวถึงกรณีนายทักษิณระบุถึงการกลับประเทศไทยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯว่า เข้าใจความรู้สึกดีว่าคงคิดถึงเมืองไทย ส่วนคดีจำนำข้าวที่มีคำพิพากษาให้จำคุก ยังไม่อยากพูดถึงเรื่องในอนาคตว่าเข้ามาแล้วจะถูกจำคุกจริงหรือไม่ จำคุกกี่วัน เชื่อว่าทุกคนรอดู อนาคตจะเป็นคำตอบ อยากให้ใช้มาตรฐานเดียวกับนายทักษิณ เพราะถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้ามาแล้วต้องติดคุกตามคำพิพากษา ติดคุกวันเดียวก็ไม่ได้ เพราะรัฐบาลจะถูกกล่าวหาได้ว่ารัฐบาลนี้ ๒ มาตรฐาน ทั้งนายกฯ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกกรมกอง ต้องใช้ชุดเดิมเพราะมีประสบการณ์แล้ว ส่วนกระบวนการยุติธรรมของประเทศโดยเฉพาะปลายทางกระบวนการยุติธรรม เชื่อว่าคนไทยไม่ได้คาดหวังอะไรแล้ว ขณะนี้รัฐบาลมีอำนาจไม่มีใครทำอะไรได้ แต่วันหนึ่งทุกการกระทำจะย้อนกลับมาแน่นอนแซะ “เศรษฐา” วิสัยทัศน์ฉาบฉวยนายชนินทร์ รุ่งแสง รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากรายงานผลการสำรวจจัดอันดับประเทศที่เหมาะกับการทำธุรกิจ ของสถาบันวิจัยด้านเศรษฐกิจและการเมือง (EIU) ประเมินจากความน่าดึงดูดในการทำธุรกิจของประเทศและเขตแดน ๘๒ แห่งทั่วโลก ประเทศสิงคโปร์คว้าอันดับ ๑ เป็นประเทศที่น่าทำธุรกิจติดต่อกัน ๑๖ ปี แต่ประเทศไทยที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกันกลับไม่ติดอันดับใดเลย ทั้งนี้ ประเทศที่มีเสถียรภาพทางการเมืองในสายตานักลงทุน เป็นประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางด้านการลงทุนและทำธุรกิจ รัฐบาลของประเทศเหล่านั้นมุ่งเน้นให้ความช่วยเหลือบริษัทเอกชนในการยกระดับด้านเทคโนโลยี ขณะที่ประเทศไทยยังติดกับดักผู้มากบารมี สิ่งที่น่าเศร้าใจคือถ้อยแถลงของผู้นำประเทศที่กล่าวว่า ประชาชนสามารถเปลี่ยนชีวิตได้ด้วยเงินดิจิทัลวอลเล็ต ๑ หมื่นบาท ถือเป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์การบริหารประเทศที่ฉาบฉวยหยันผู้นำ “อำนาจทิพย์” รอฟังคำสั่งนายชนินทร์กล่าวต่อว่า อยากย้ำให้นายกฯไปพิจารณาคำว่าเสถียรภาพทางการเมือง มิได้หมายความถึงแค่เสียงส่วนใหญ่ในสภา แต่หมายถึงความน่าเชื่อถือและเอกภาพ คือการใช้อำนาจของนายกฯ ทุกคนมองว่านายกฯมีตัวจริงๆ แต่มีอำนาจทิพย์ เพราะมีอดีตนายกฯและอนาคตนายกฯ คอยประกบการทำงานตลอดเวลา แต่มองว่ายังมีเวลาแก้ไขปรับปรุงสิ่งต่างๆ สิ่งสำคัญคือคำพูดที่สัญญาต่อประชาชนในโครงการเรือธงของรัฐบาล หากมีการเลื่อนออกไปอีก ก็ถึงเวลาควรพิจารณาตัวเองตัดสินใจลาออก นายกฯควรมีวิสัยทัศน์บริหารประเทศที่เป็นรูปธรรม และเป็นนโยบายของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องรอคำสั่งจากผู้นำหลังฉาก แล้วหันมาสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้มีความปลอดภัย สร้างการค้าการลงทุนจากต่างประเทศให้มากขึ้น เพื่อให้ประเทศไทยเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับการลงทุน และทัดเทียมกับประเทศเพื่อนบ้านอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่