วันจันทร์, 6 พฤษภาคม 2567

สภาพอากาศวันนี้ ทั่วไทยระอุ ร้อนพุ่ง ๔๓ องศาฯ เสี่ยงพายุฤดูร้อนซ้ำ

24 เม.ย. 2024
18

ประเทศไทยยังร้อนระอุ ภาคเหนืออุณหภูมิทะลุ ๔๓ องศาฯ ขณะที่ลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุม ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ พร้อมย้ำควรหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานานไว้ด้วยเมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน๖๗ กรมอุตุฯ พยากรณ์อากาศ ๒๔ ชั่วโมงข้างหน้า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานานไว้ด้วยในขณะที่ลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงในระยะนี้ไว้ด้วยสำหรับลมตะวันตกเฉียงเหนือและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ ๑ เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า ๑ เมตร ขอให้ชาวเรือหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วยฝุ่นละอองในระยะนี้: ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง มีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงค่อนข้างสูง เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อน และการระบายอากาศในบริเวณดังกล่าวอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ดีพยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ๐๖:๐๐ น. วันนี้ ถึง ๐๖:๐๐ น. วันพรุ่งนี้ภาคเหนือ อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ ๓๐ ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด ๒๓-๓๐ องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด ๓๗-๔๓ องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว ๕-๑๕ กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ ๒๐ ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด ๒๕-๒๙ องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด ๓๙-๔๒ องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว ๕-๑๕ กม./ชม.ภาคกลาง อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ ๒๐ ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุทัยธานี ลพบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด ๒๗-๒๙ องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด ๓๙-๔๑ องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว ๑๐-๒๐ กม./ชม.ภาคตะวันออก อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ ๒๐ ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด ๒๖-๓๐ องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด ๓๕-๔๑ องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว ๑๐-๓๐ กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า ๑ เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า ๑ เมตรภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) อากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ ๑๐ ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด ๒๔-๒๘ องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด ๓๕-๔๐ องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว ๑๐-๓๐ กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า ๑ เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า ๑ เมตรภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ ๒๐ ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด ๒๕-๒๙ องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด ๓๕-๓๘ องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว ๑๕-๓๐ กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ ๑ เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า ๑ เมตรกรุงเทพและปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด ๒๘-๓๐ องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด ๓๖-๔๐ องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว ๑๐-๒๕ กม./ชม.