Monday, 20 May 2024

"ก้อย" เติบโตทั้งบทบาทและชีวิต ท้าทายฝีมือรับบทสาวมั่นตัวควีน ใน "START-UP"

27 Jan 2024
67

ลุกขึ้นมารับบทสาวมั่นตัวควีน ท้าทายฝีมือสาว “ก้อย-อรัชพร โภคินภากร” กับบทบาท อลิส สาวนักธุรกิจผู้มีความเป็นผู้นำสูง ทำวงการสตาร์ตอัพคึกคักในซีรีส์สร้างแรงบันดาลใจ “START-UP” (สตาร์ตอัพ) เรื่องราวชีวิต ความรัก และความฝันของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยากทำธุรกิจสตาร์ตอัพ ต้องแข่งขัน งัดชั้นเชิงใช้มันสมองมาฟาดฟัน นำแสดงโดย เบลล์-เขมิศรา, อัพ-ภูมิพัฒน์, ก้อย-อรัชพร, เกรท-สพล โดยผู้จัด True CJ Creations กำกับโดย ชีวธันย์ ภูสิทธิ์ศึกษา ออกอากาศทุกวันศุกร์-เสาร์ ๒๐.๐๐ น. ทางทรูไอดี งานนี้ “ก้อย” เล่าการทำงานและความเติบโตเล่าถึงบทอลิสที่ได้รับ?“อลิสเป็นคนมุ่งตามความฝัน มีความทะเยอ ทะยานสูง อยากออกจากสิ่งที่ตัวเองเป็น มีความสุขยาก ไม่พอใจกับสิ่งที่ตัวเองเป็น ต้องการมากกว่านี้ไปเรื่อยๆ คาแรกเตอร์เขาก็มีความเป็นควีน เชื่อในความเก่งของตัวเองมาก ถามว่าต่างจากตัวเรามั้ย ก้อยว่าก้อยก็มีความมั่นใจในตัวเองแต่วิธีแสดงออกมันต่างกัน ถ้าเป็นความมั่นใจแบบก้อยคงตลกกลบเกลื่อน การได้เป็นอลิสเหมือนได้ควบคุมตัวเอง ถ้าพูดกันแบบบ้านๆก็คืออลิสเก็บทรงกว่าก้อยเยอะ (ยิ้ม) เพราะว่าเค้าแคร์ว่าคนจะคิดยังไงต้องดูดีตลอดเวลา ต้องการให้คนเห็นว่าฉันมีดีนะ ฉันเก่ง ฉันน่าเชื่อถือก็เป็นสิ่งที่ค่อนข้างต่างจากก้อย ส่วนสิ่งที่ลิงก์กันก้อยว่าก้อยเป็นคนมีความทะเยอทะยานแต่อลิสมีความดาร์กกว่า เลือกจะแยกจากน้องไปก็เลยรู้สึกว่าเค้าสีเข้มจัดจ้านกว่า อันนั้นก็เป็นสิ่งที่เราต้องเพิ่มเข้าไป”ซีรีส์เวอร์ชันเกาหลีดังมาก? “เวอร์ชันเกาหลีไม่ได้ดู เคยดูตอนแรกตอนเดียว พอถามพี่อิธ ผู้กำกับ ว่าต้องดูมั้ย ก็บอกว่าคิดว่าไม่ต้องก็ได้ ไม่ได้ให้อยากดูคาแรกเตอร์ ให้ดูคอนเซปต์ คือเราก็มีการเวิร์กช็อปกันอยู่แล้วคือดูให้เห็นโทนเห็นสีก็ทำให้แชร์กับพี่อิธเยอะว่าพี่เห็นเป็นยังไง ก็มาหาคาแรกเตอร์จนเจอค่ะ”พอเป็นรีเมกหนีไม่พ้นการโดนเปรียบเทียบ? “ก้อยไม่ได้เข้าไปดูข้อมูลช่วงแรกๆตอนเปิดตัวนักแสดงแต่ก็มีคนเล่าว่ามีกระแสพูดถึงเยอะ รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ต้องเจอกับละครรีเมกไม่ว่าเรื่องไหนมันคงเป็นชาเลนจ์ของคนทำ การที่เค้าเลือกทำสิ่งนี้เค้าก็กล้ามาก เราก็ต้องยอมรับในความกล้า เราก็รู้สึกว่าเค้าเต็มที่ที่สุดในแบบของเค้า”tt ttความเป็นพี่น้องที่ต้องเชือดเฉือนกับ เบลล์-เขมิศรา?“ก้อยว่าเป็นบุญมากไม่ใช่ทุกคนที่เราเจอแล้วเราจะรู้สึกคอนเนกต์ ตัดความเป็นตัวละคร ก้อยจะเอ็นดูเบลล์ในฐานะน้องอยู่แล้ว สนิทกันอยู่แล้ว ก้อยก็รู้สึกถึงความเป็นน้องสาวอยู่ในตัวเบลล์ พอมันเป็นบทนี้ ถึงแม้เป็นน้องที่ต้องเชือดเฉือนแต่มันก็ยังเป็นน้อง เลยรู้สึกว่าเวลาเข้าฉากดราม่าเราเจ็บปวดร่วมกัน เชื่อมกันง่ายเพราะพื้นฐานเรามีความสนิทกัน”ร่วมงานกับอัพและเกรท? “วัยใกล้กัน คืออัพนี่คือรุ่นน้องที่นิเทศ จุฬาฯ ห่างกันปีเดียวแบบโตตามมาเลยคือเจอหน้าเห็นกันอยู่แล้วค่อนข้างจะสนิทกัน ส่วนเกรท เกรทเป็นเพื่อนก้อยที่ ร.ร.บดินทรเดชา ทุกคนก็คนกันเอง เพราะฉะนั้นเวลามากองนอกจากจะมาทํางานเป็นหลัก เราก็เหมือนได้มาเฮฮากับ เพื่อนๆ มันไม่ได้เหมือนเราไปเจอคนใหม่แต่มันมีอะไรที่มันค่อนข้างรีเลตกันอยู่แล้ว”ฉากหินฉากโหดสำหรับเรื่องนี้?“สำหรับก้อยคงเป็นฉาก Demo Day ที่ต้องออกไปพรีเซนต์บริษัทเราในฮอลล์ มันไม่ใช่สิ่งที่เราทำในชีวิตประจำวัน ถึงแม้ว่าอยู่บนพื้นฐานคาแรกเตอร์แต่ข้อมูลมันเยอะมาก แล้วก็ต้องทำยังไงให้การที่บทเยอะขนาดนั้นเราพูดเราหมายความทุกคำ แล้วทำให้คนทั้งฮอลล์ฟังเรา เรา รู้สึกว่ามันต้องเวิร์กกับมันมาก พูดถูกพูดผิดหลายอย่างเหมือนออกไปพูดจริงๆ ในงาน ก็รู้สึกว่าตอนเล่นมันแบบรู้สึกว่าทุกคนต้องฟังเรา มันเป็นแบบ Magic ของเรื่องนี้เป็นประสบการณ์ใหม่ดี ส่วนพาร์ตดราม่ามันก็มีความยากอยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะเข้ากับเบลล์เราก็ส่งอารมณ์กัน เวลาทำไม่ได้ก็หันไปหาเบลล์จับมือจับตัวกันให้คอนเนกต์”ในเวอร์ชันไทยนี้น่าดูเพราะอะไร? “ก็รู้สึกว่าถ้าคนที่อินสตาร์ตอัพจะรู้ว่าสตาร์ตอัพแต่ละพื้นที่ก็ไม่เหมือนกัน พูดในฐานะคนไทยอยากให้มีความเชื่อว่าเราไม่แพ้ประเทศใดในโลก อยากให้เปิดใจว่าเราทำสิ่งนี้อยากให้ทุกคนเข้าใจสตาร์ตอัพในบริบทของไทยจริงๆแล้วมันก็จะช่วยสตาร์ตอัพในประเทศไทยด้วย และก้อยว่าการรีเมกมาอีกประเทศมันจะเชื่อมกันด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรมของแต่ละประเทศผู้กำกับก็พยายามใส่ลงไป เช่น ไปนั่งกินหมูกระทะ และด้วยเคมีเสน่ห์นักแสดงก็ลงตัวมากๆค่ะ”ความรู้ทางธุรกิจหรือสตาร์ตอัพของเราก่อนมาเล่นเรื่องนี้เป็นไง และหลังมาเล่นเรื่องนี้ได้เติมอะไรเข้ามาเยอะมั้ย? “เป็นศูนย์เลยนะตอนแรก โหดๆเลยนะคือเคยได้ยินแค่คำว่าสตาร์ตอัพแต่ไม่รู้ความหมาย จริงๆเอาแค่ยังไม่ทันเล่นตั้งแต่เวิร์กช็อป มันทำให้เรารู้ว่ามีธุรกิจนี้ที่ทำเงินขนาดนี้ เทียร์นี้เลยเหรอก็เลยไปบอกเพื่อนว่าทำธุรกิจซะหน่อย (ยิ้ม)”ด้านธุรกิจเล่นเองทำให้มีฝันมีไฟเองมั้ย? “ในเรื่องจะมีเวิร์กช็อปกับคณะที่จุฬาฯที่เกี่ยวกับสตาร์ตอัพ แล้วตอนที่เราถ่ายจริงๆ มีน้องๆที่ทำสตาร์ตอัพ จริงๆเค้าจะมาเล่นด้วย แต่ละอย่างที่น้องทำคือเก่งมาก ก้อยว่าการที่ทำอยู่ในสังคมที่มีคนเก่งคนมีฝันเยอะมันเป็นเอเนอร์จีที่ทำให้เราอยากทำแบบนั้น อย่างน้อยก็การสร้างแบรนด์”เม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novel และ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐtt ttการแสดงที่เติบโต บทบาทหลากหลายลับฝีมือเรายังไงบ้าง?“ก้อยว่าทุกๆเรื่องที่เล่นมันก็จะแบบเหมือนดึงเฉดขึ้นมา เวลาเราเล่นเป็นตัวละครตัวไหนตัวนั้นมันจะเข้ามาเป็นตัวเราอยู่พักนึง ตอนก้อยเล่นเป็นอลิสก็เหมือนเราจะเก็บทรงขึ้นมาอยู่พักนึง แล้วก็ถ้าอันไหนที่เรารู้สึกว่าอยู่เข้าไปในชีวิตจริงแล้วเป็นเรื่องที่ดีเราก็รู้สึกมันก็จะอยู่กับเราไป สักพักนึงนิสัยเรามันก็จะกลับขึ้นมา ถามว่าเติมยังไง ถ้ามีคลาสการแสดงอะไรที่ทำให้เราได้ฝึกอาวุธเราก็จะฝึกเรื่อยๆ ลองเล่นละครเวทีหรือว่าลองทำอะไรที่ได้ใช้สกิลของเราเยอะๆ”แต่บทบาทของก้อยก็หลากหลาย ตลก แซ่บแรงก็มี ปีนี้จะได้เห็นงานแบบไหน? “ปีนี้เป็นปีที่ก้อยรู้สึกโตขึ้น ที่ผ่านมาภาพเราจะดูเด็กอาจ จะเป็นเพราะเราโตมากับซีรีส์ฮอร์โมน มีความเป็นเด็กนักเรียนซิทคอมตลกหกฉากเป็นคอมเมดี้ ละครโอเนกาทีฟ ก้อยรู้สึกว่าในวัยที่เราโตขึ้นบทที่เข้ามาก็มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เข้มข้น เลเยอร์มันชัดขึ้น จริงๆปีที่แล้วถ่ายทำผลงานที่จะออกปีนี้เป็นปีที่ก้อยได้เล่นอะไรที่หลากหลาย เช่น ตอนนี้กำลังถ่ายละคร บางกอกคณิกา ทางช่องวัน เล่นเป็นโสเภณีในยุคสมัยรัชกาลที่ ๕ เราก็รู้สึกว่ามันมีมิติของตัวละครเยอะขึ้นเปิดโลกใหม่ ทำงานกับผู้กำกับ ทีมใหม่ๆ มันเป็นพีเรียดมากแต่หน้าเราไม่ค่อยพีเรียด ไวป์เราจะรวดเร็วก็ต้องไปซึมซับความพีเรียด”ได้บทที่ดูเติบโตเห็นได้ชัดอาจจะเพราะด้วยวัยด้วยเรื่องราวชีวิตที่เติบโตด้วยมั้ย?“หนูก็งงๆเหมือนกันแต่อยู่ดีๆมันก็โต อยู่ดีๆเราก็รู้สึกว่าบทที่เข้ามาในปีที่ผ่านมามันก็โตจริงๆในหลายๆมิติ เราเลยรู้สึกว่าโอเคเราโตขึ้นละ”ตัวเราพร้อมตั้งรับมั้ยหรือกลับมามองตัวเองว่ามันเป็นจุดเปลี่ยนบางอย่างมั้ย? “นิดนึง ก้อยรู้สึกว่าพลังงานก้อยเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน วิธีแสดงออก แสดงความรู้สึก วิธีรับมือกับหลายๆเรื่องมันก็นิ่งขึ้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้น เหนื่อยอ่อนกับเรื่องที่เราไม่ได้อยากสนใจน้อยลง เมื่อก่อนมันมีเอเนอร์จีอีกอย่างด้วยวัย ด้วยสิ่งที่เราเจอด้วย และมันก็เป็นมิติที่พอส่งผ่านตัวละครไปมันก็รู้สึกว่าตัวละคร มันสะท้อนตัวเรา ก็เห็นแล้วว่าเราก็เริ่มมีอายุมากขึ้นนิดนึง ปีนี้ก็อายุ ๓๐ ค่ะ”tt ttหรือว่าก้าวสู่เลข ๓ คือจุดเปลี่ยนการเติบโต?“ก้อยว่ามันก็อาจจะเกี่ยวกับอายุไม่เท่าไหร่แต่ประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาเราเจอเรื่องอะไรมากกว่าที่ทำให้เราโต” ปีที่แล้วเป็นปีที่เข้มข้น? “อู้หู เข้มเกิ๊น (ยิ้ม) แต่ก็เออผ่านมาได้ ปีที่แล้วหนูเรียกว่าเป็นปี Roller Coaster เหมือนรถไฟเหาะมันขึ้นลงตลอดเวลา”ได้อะไรกลับมาให้ตัวเองสำหรับปีที่แล้ว? “หนูเป็นคนค่อนข้างไม่ใจดีกับตัวเอง หนูรู้สึกว่าหนูต้องใจดีและใจเย็นบางครั้งหนูเป็นคนค่อนข้างร้อนจะเอาอยากได้ บางทีก็คือแค่อยากได้แล้วก็ทำไป แต่มันไม่ได้เกิดการตกผลึกอย่างแน่ชัดในหลายๆครั้งว่าเราต้องทำสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร เราคิดดีแล้วหรือยัง ซึ่งก้อยเป็นคนค่อนข้างเร็ว ความเร็วมันนำพาให้หลายๆอย่างค่อนข้างโกลาหลในหลายเรื่อง เลยรู้สึกว่าอยากใจเย็นขึ้น ใจดีกับตัวเองขึ้นหน่อย คลายขึ้นบ้าง ก้อยว่าอันนี้น่าจะเป็นหลักๆของปีที่แล้ว จริงๆเห็นก้อยแบบนี้เหมือนเป็นคนตรงแต่จริงๆ ไม่ได้ตรงขนาดนั้น เลยรู้สึกว่าปีนี้อยากใช้ชีวิตให้มันซื่อสัตย์กับตัวเองเพิ่มขึ้น จริงๆรู้ว่าตัวเองคิดอะไรแต่ไม่กล้าสื่อสารในหลายๆครั้ง ยิ่งกับคนใกล้ตัว ยิ่งหนัก ยิ่งใครใกล้เราเรายิ่งไม่กล้าพูดสิ่งที่เราคิด มันก็เป็นสิ่งที่เราจะต้องพัฒนาตัวเอง”แต่อีกมุมนึงที่ผ่านมาได้เห็นพลังของคนที่รักเราในหลายๆเหตุการณ์ ของชีวิต?“หนูว่าความโชคดีที่สุดที่หนูพูดมาเสมอคือหนูมีคนรอบตัวที่ดี เวลาหนูขออะไร หนูจะขอว่าอะไรที่ดีก็ขอให้อยู่ อะไรที่ไม่ใช่ก็ขอให้จากไปด้วยดี เลยค่อนข้างโชคดีว่าไม่ว่าคนที่ผ่านมาผ่านไปก็ค่อนข้างเป็นคนที่ดี”มุมมองการใช้ชีวิตลำดับความสำคัญเปลี่ยนมั้ย? “ลำดับความสำคัญในชีวิตหนูให้งานที่หนึ่ง แล้วจริงๆ “งาน” ตีคู่มากับ “ความรัก” หนูค่อนข้างเต็มที่กับความรัก ปีนี้อยากเป็นปีที่ Self-care เพราะหนูไม่ค่อยได้แคร์ตัวเองขนาดนั้น เจ็บปวดหนูก็ทนได้แต่จริงๆก็แค่แบบปวดก็ไปนวดสิคะ แต่ลำดับความสำคัญถ้าเมื่อก่อนตัวเองจะไว้ท้าย หนูไม่ค่อยแคร์ตัวเอง ไม่ค่อยออกกำลังกายทำอะไรก็ได้ให้มันชิลๆ ต้องแยกให้ออกระหว่างสิ่งที่ต้องทำ ต้องทำจริงมั้ย บางทีหนูชอบคิดไปเองว่าต้องได้สิ่งนี้ในเวลานี้เท่านั้น ซึ่งมันก็มีข้อดีคือมันมักทำให้หนูทำได้ แต่ข้อเสียคือบางทีมันตึงมากไม่รู้จะทำไปทำไม ปีนี้ก็จะแคร์ตัวเองขึ้นหน่อย แม่ก็จะได้มีความสุขเพราะเวลาเราทุกข์ แม่เห็นแม่ก็ทุกข์มาก ปีนี้น่าจะเป็นงาน ตัวเอง ครอบครัว เงิน อุ๊ย ความรักอยู่ท้ายเลยเหรอ เขยิบขึ้นมาก่อน เป็นความรักแล้วค่อยเงิน เพราะความรักก็ทำให้เรากระชุ่มกระชวย”แฟนๆเชียร์อยากให้ก้อยมีคนรักที่ดี อยากให้มีแฟน? “ก็ดีใจนะเวลาคนคอมเมนต์อะไรที่มันแปลว่าเค้าปกป้องเรา เป็นห่วงเรา เราก็รับพลังบวกนั้นทั้งหมด แต่ก้อยว่าความรักมันก็แอบยาก มันต้องใช้เวลาซิงก์กัน จูนกัน ตั้งแต่ก้อยมีแฟนมาไม่มีใครคบต่ำกว่า ๒ ปีเลย”ความรักครั้งใหม่มันต้องเป็นยังไง? “ก็คงจะต้องเป็นคนที่ทำให้เราสบาย หลายๆครั้งพอเรามีความรักเข้มข้น เราก็รู้สึกรักแบบรักมาก มันจะรู้สึกเยอะ ค่อนข้างรุนแรง แต่ในความรักครั้งใหม่ก้อยรู้สึกว่าชีวิตทั่วไปเราก็รุนแรงอยู่แล้ว งานที่เราต้องเจอก็เยอะก็ควรเป็นความสบายใจ เป็นตัวเองได้ พูดสิ่งที่คิดได้ เอาแค่นี้แล้วอย่างอื่นค่อยว่ากันค่ะ”.เรื่อง: สุภลัคน์ วุฒิกรีธาชัยคลิกอ่าน “คนดังนั่งคุย” เพิ่มเติม