Tuesday, 21 May 2024

จับตาการเมือง มี.ค. “จตุพร” มอง “ทักษิณ” ทำอะไรไม่ได้ นับวัน “ก้าวไกล” ยิ่งโต

25 Feb 2024
32

“จตุพร” ประเมินการเมืองเดือนมีนาคมนี้ “เศรษฐา” ไปบ้านจันทร์ส่องหล้า สื่อนัยแปลกๆ ชอบกล พร้อมชวนจับตา คดี “ยิ่งลักษณ์” – อภิปราย สว. เย้ย “ทักษิณ” ทำอะไรไม่ได้ ตัวเองยังจะเอาไม่รอด แต่นับวัน “ก้าวไกล” ยิ่งโตนายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน วิเคราะห์สถานการณ์การเมือง ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ เมื่อคืนวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา ถึงการเมืองในช่วงเดือนมีนาคมนี้ ว่า น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะจังหวะเล่นเกมแต่ละระดับ สะท้อนถึงการวางกับดักแน่นหนาเพื่อมุ่งหมายเล่นงานฝ่าย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถ้ากล้าเบี้ยวดีล ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไปบ้านจันทร์ส่องหล้า ยังสื่อนัยการออกแบบทางการเมืองแปลกๆ ชอบกลอยู่ ในส่วนของกรณีที่ นายเศรษฐา ขับรถประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคันใหม่ โดยก่อนเลี้ยวเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า ได้ลดกระจกลงให้สื่อมวลชนเห็นหน้า และก่อนกลับยังให้สัมภาษณ์หน้าประตูบ้านอย่างเป็นการเป็นงาน นายจตุพร มองว่า แสดงถึงมีการออกแบบและเตรียมสิ่งต้องพึงกระทำมาแล้ว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า นายเศรษฐา เป็นถึงนายกรัฐมนตรี ไม่จำเป็นต้องสัมภาษณ์สื่อหน้าบ้านจันทร์ส่องหล้า และยังเปิดเผยว่า นายทักษิณ ห่วงใยการทำงานของตัวเอง พร้อมกับแนะนำนายกรัฐมนตรีถ้าทำงานเหนื่อยก็พักบ้าง ดังนั้น จึงเป็นเรื่องประหลาด และสื่ออาการถึงการเมืองอย่างมีนัย“ที่น่าสนใจคือ การปรากฏตัวของนายกฯ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่ออะไร เพราะการดีลครั้งนี้มีการการันตีจากสองคนเป็นหลัก โดยมีหนึ่งผู้เล่น (นายกรัฐมนตรี) ดังนั้น ต้องดูเดือนมีนาคมจะได้เห็นอะไรหรือไม่ และเป็นเดือนที่น่าสนใจทางการเมืองอย่างมาก” สำหรับความน่าสนใจทางการเมืองในเดือนมีนาคม ๒๕๖๗ นายจตุพร กล่าวต่อไปว่า จะเริ่มตั้งแต่ ๔ มีนาคม ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะเลื่อนอ่านคำพิพากษา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีฮั้วสื่อจัดโรดโชว์สร้างอนาคตไทย ๒๔๐ ล้านบาท หรือไม่ ขณะเดียวกัน ยังต้องรอดูว่าการออกกฎหมายเงินกู้ ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อมาแจกโครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital Wallet (โครงการดิจิทัลวอลเล็ต) จะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ และถ้าเข้าจะผ่านหรือไม่ หากไม่ผ่านจะเป็นทางลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ นายเศรษฐา หรือไม่ นอกจากนี้ นายจตุพร ยังประเมินด้วยว่า ที่สำคัญนายกรัฐมนตรีจะอยู่ถึงวันที่ ๒๕ มีนาคม ซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จะเปิดอภิปรายทั่วไปหรือไม่ แต่ถ้าสถานการณ์ประกอบกันว่ากฎหมายกู้เงินไม่ผ่าน ครม. และนายกรัฐมนตรียังเผชิญหน้ากับการอภิปรายของ สว. อีก เท่ากับสถานการณ์ของ นายเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรีหวังอยู่เกินวันที่ ๒๕ มีนาคม ซึ่งสถานการณ์จะแปรไปอีกระดับหนึ่ง จึงน่าติดตาม อีกทั้งหากถูก สว. อภิปรายในวันที่ ๒๕ มีนาคม และยังต้องไปพิจารณาสถานการณ์วันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๖๗ โดยอัยการสูงสุดนัดฟังคำสั่งจะฟ้อง นายทักษิณ คดีมาตรา ๑๑๒ หรือไม่ มาประกอบกันด้วย  ดังนั้น สถานการณ์เริ่มทั้งเดือนมีนาคมจะเป็นตาข่ายวางกับดักไว้แน่นหนาเพื่อป้องกันการเบี้ยวดีล แต่ตนอยากให้มีการเบี้ยวดีลมาก เพราะจะได้เห็นข้อตกลงที่ซ่อนไว้อยู่ลึกๆ คืออะไรกันแน่ ต้องอดทนอีกนิด รอให้ถึงเดือนหน้า จะได้เห็นอะไรเกิดขึ้น ถ้าไม่เป็นไปตามดีล คือดีลถูกเบี้ยว ขบวนการล้างบางจะเกิดขึ้นตามมาทันที แล้วท้ายสุดคนก็เต็มถนนเหมือนเดิม หนีไม่ออก ส่วนปลายทางจะแอ่นแอ๊นหรือเปล่า ต้องคอยดูกันอีกครั้งในช่วงท้าย นายจตุพร ระบุด้วยว่า ถ้าดีลถูกเบี้ยวจะไม่เกิดเกมเล่นยาวแน่นอน เพราะยิ่งยาวย่อมเข้าทางพรรคก้าวไกล โดยการเลือก สว.ชุดใหม่ คาดว่าพรรคก้าวไกลจะได้เปรียบ ดังนั้น คนการันตีดีลจะประมาทในเกม สว. ไม่ได้ เมื่อก้าวไกลคุม สว. ก็เท่ากับคุมองค์กรอิสระตามไปด้วย แล้วจะลามไปยึดการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) “รัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ เท่ากับออกแบบให้ก้าวไกลยึดหมดในทางการเมือง โดยมีตัวอย่างการเลือกตั้งผู้แทนประกันสังคมที่ถูกก้าวไกลยึดไปหมดแล้ว ดังนั้น ดีลกลับบ้านของ ทักษิณ หวังจะมาต่อสู้ไม่ให้ก้าวไกลเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ แต่ขณะนี้แสดงให้เห็นแล้วว่า ทักษิณ ทำอะไรไม่ได้ แค่ตัวเองยังจะเอาไม่รอดเลย นับวันเข้า ยิ่งนานวันไป ก้าวไกลยิ่งเติบโต ยากที่จะหยุดได้เสียแล้ว”