“มทน.๔” เปิดสัมมนาคณะขับเคลื่อนพูดคุยสันติสุข (คพท.) โดย กอ.รมน.ภาค ๔ จับมือสถาบันสันติศึกษาฯ เพื่ออบรมเตรียมความพร้อม พูดคุย BRN ปลายสัปดาห์ที่มาเลเซีย ในการหาข้อยุติ สร้างสันติภาพ พร้อมสร้างการรับรู้ให้ประชาชน โดยยึดร่าง JCPP ยุติการก่อเหตุร้าย โดยฝ่ายความมั่นคงจะลดการบังคับใช้กฎหมายในการปิดล้อมตรวจค้น ลดปฏิบัติการทางทหารในหมู่บ้านและชุมชน ถอดประกาศจับที่ติดตามด่านออกทั้งหมด เมื่อวันที่ ๕ มี.ค. ๖๗ พล.ท.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ แม่ทัพน้อยที่ ๔ ในฐานะ หน.ฝ่ายเทคนิคในคณะพูดคุยสันติสุข เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการให้กับคณะขับเคลื่อนการพูดคุยสันติสุขระดับพื้นที่ (คพท.) ซึ่งทางกอ.รมน.ภาค ๔ ได้ร่วมมือกับสถาบันสันติศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จัดอบรมให้ความรู้ผู้ปฏิบัติงาน คพท. เน้นการสร้างความเข้าใจในเรื่องการปรึกษาหารือสาธารณะ (Public Consultation) โดย พล.ท.ปราโมทย์ กล่าวถึงการจัดอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมให้ คพท.ในการขับเคลื่อนการสร้างสันติสุขใน จชต. ว่า คาดหวังการพูดคุยกับหน.เทคนิคของ BRN ปลายสัปดาห์นี้ที่ประเทศมาเลเซีย น่าจะหาข้อยุติร่วมกันในรายละเอียดของแผนปฏิบัติการร่วมในการสร้างสันติภาพ หรือ JCPP เพื่อร่วมกันเดินหน้าขับเคลื่อนการสร้างสันติสุขใน จชต. “คพท.ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการร่วมสร้างสันติสุขในพื้นที่ ช่วยสร้างการรับรู้ไปยังพี่น้องประชาชนในพื้นที่มีส่วนได้เสีย ซึ่งการเตรียมความพร้อมสร้างความเข้าใจในกระบวนการสันติภาพถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก โดยทางสถาบันสันติศึกษามาช่วยให้องค์ความรู้ในการจัดการเรื่องความขัดแย้ง และเรื่องการปรึกษาหารือสาธารณะ” มทน.๔ กล่าว พล.ท.ปราโมทย์ ยอมรับด้วยว่า ยังมีความเห็นที่แตกต่างกันในรายละเอียดของ JCPP (Joint Comprehensive Plan Towards Peace) ระหว่างการพูดคุยด้านเทคนิครอบแรก เมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์๖๗ โดย หัวหน้าฝ่ายเทคนิค BRN ได้เสนอร่าง JCPP ให้คณะพูดคุยของไทย ที่นำโดยนายฉัตรชัย บางชวด รองเลขา สมช. ได้พิจารณามีรายละเอียดที่แตกต่างจากร่างของฝ่ายไทย โดยจะมีการหารือกันอีกครั้งระหว่างวันที่ ๗-๘ มีนาคมนี้ ที่มาเลเซีย มทน.๔ ยังชี้แจงถึงจุดยืนของคณะพูดคุยฯ ว่า ยังยึดมั่นในร่าง JCPP ที่ฝ่ายไทยเสนอ มีข้อเรียกร้องให้ BRN ยุติปฏิบัติการทางทหาร ยุติการก่อเหตุร้าย ยุติการทำร้ายพลเรือน ไม่ขนย้ายระเบิด และอาวุธทุกชนิด ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงจะลดการบังคับใช้กฎหมายในการปิดล้อมตรวจค้น ลดปฏิบัติการทางทหารในหมู่บ้านและชุมชน ถอดประกาศจับที่ติดตามด่านออกทั้งหมด และพิจารณายกเลิกการใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่ ที่สถานการณ์คลี่คลาย เป็นแนวทางปฏิบัติร่วมกันเพื่อสร้างบรรยากาศสันติสุขใน จชต. ซึ่งได้รับความเห็นชอบร่วมกันจากที่ประชุมหว่างการพูดคุยสันติสุข ครั้งที่ ๗ ช่วงต้น กุมภาพันธ์๖๗ “ในการหารือฝ่ายเทคนิคครั้งที่ ๒ ปลายสัปดาห์นี้ จะเสนอให้มีการหารือกันนอกรอบก่อน หาทางออกร่วมกันจากความเห็นที่ยังต่างกัน กว่าร้อยละ ๘๐ ที่เห็นสอดคล้องกัน ยังมีความคาดหวังในส่วนที่ยังเห็นไม่ตรงกัน หากทั้งสองฝ่ายมีเจตนารมณ์ร่วมกันต้องการสร้างบรรยากาศที่ดีและสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้น ตามความต้องการของพี่น้องประชาชนใน จชต. เราต้องเร่งรัดในกระบวนการขับเคลื่อนพูดคุยให้เร็วที่สุด”พล.ท.ปราโมทย์กล่าว และว่าสารัตถะสำคัญในร่าง JCPP มี ๓ เรื่องใหญ่ การลดความรุนแรง การปรึกษาหารือสาธารณะและการหาทางออกทางการเมืองแก้ปัญหาขัดแย้ง ส่วนข้อสังเกตจากบางฝ่ายที่กังวลการพูดคุยฯกับ BRN อาจนำไปสู่การเสียดินแดนและอธิปไตยในจชต. พล.ท.ปราโมทย์ กล่าวถึงการพูดคุยสันติสุขที่ดำเนินการอยู่เป็นการพูดคุยภายใต้กรอบรธน. ประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียวแบ่งแยกมิได้ เป็นเงื่อนไขที่ BRN ยอมรับก่อนเริ่มการพูดคุย และหากทั้งสองฝ่ายสามารถลงนามร่วมกันใน JCPP จะใช้เป็นกรอบในการทำงานร่วมกัน เป็น Road Map แผนที่เดินทางไปสู่การสร้างสันติสุขถาวรในจชต. พล.ท.ปราโมทย์ ชี้แจงถึงกระบวนการปรึกษาหารือสาธารณะในพื้นที่ โดย คพท.จะเริ่มขึ้นหลังการลงนามร่วมกันใน JCPP ตามมาด้วยการเปิดเวทีรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนหาทางออกทางการเมืองแก้ปัญหาขัดแย้ง ซึ่งเป็นตามนโยบายของรัฐบาลและแผนยุทธศาสตร์ชาติในการแก้ปัญหาความไม่สงบ จชต.
