Monday, 20 May 2024

"พิธา" ลุยถิ่นเชียงใหม่ ปัดวัดพลัง ทักษิณ-เศรษฐา โทนี่ให้กำลังใจ รบ.แก้ ศก. (คลิป)

17 Mar 2024
58

“ทักษิณ” ชื่นมื่นทัวร์บ้านเกิดเชียงใหม่วันที่สาม สวมบทคุณปู่พาหลานเที่ยวสวนสัตว์ไนท์ซาฟารี “พิธา” บุกเหยียบจมูก ลุย จ.เชียงใหม่ แก้ปัญหาฝุ่นพิษ ปัดวัดพลังมวลชน ไม่หวั่นนายใหญ่เคลื่อนไหวฉุดกระแสพรรคร่วง ด้าน “ช่อ-พรรณิการ์” ฟันธงก้าวไกลโดนยุบพรรคแน่ ๙๐% ประเมินไทม์ไลน์ยุบอนาคตใหม่-ก้าวไกลคล้ายกัน แกนนำกุมขมับคาดโดนปิดเกมเร็ว โดนเชือดก่อนเทศกาลสงกรานต์ แฉมีเกมต่อรอง บีบ สส.ย้ายพรรค แลกหลุดคดีผิดจริยธรรมร้ายแรง “เศรษฐา” ไม่เชื่อ “พิธา” จ้องแย่งซีนแก้ไฟป่า ชี้แค่เหตุบังเอิญลงพื้นที่ตรงกัน เด็กเพื่อไทยตวาดฝ่ายค้านหัดมีจริยธรรมการเมือง ฉุนกล่าวหา “ทักษิณ” เล่นละครป่วยทิพย์ ประชาธิปัตย์กาง ๓ ข้อสอบ ไล่ขยี้รัฐบาลเวทีซักฟอกไม่ลงมติ สว.วันชัยถามไม่ใช้เพื่อไทย จะเอาใครมาสู้ก้าวไกลวันที่สามของการเดินทางกลับบ้านเกิด จ.เชียงใหม่ ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บรรยากาศยังเป็นไปอย่างชื่นมื่น นายทักษิณพาหลานๆเที่ยวชมสวนสัตว์ไนท์ซาฟารี ก่อนจะเดินทางกลับ กทม. ในวันที่ ๑๖ มี.ค. ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ แกนนำพรรคก้าวไกล เดินทางขึ้น จ.เชียงใหม่ เพื่อลงพื้นที่ไปดูการแก้ปัญหาไฟป่าและฝุ่นพิษในพื้นที่“ทักษิณ” แฮปปี้งานเลี้ยงชื่นมื่นเมื่อเวลา ๐๘.๔๕ น. วันที่ ๑๖ มี.ค. ที่ร้านคาเฟ่ เดอ โอเอซิส จ.เชียงใหม่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และครอบครัว เดินทางมาร่วมรับประทานอาหารเช้าและเครื่องดื่ม โดยนายทักษิณมีสีหน้าสดใส ไม่ใส่เฝือกอ่อนที่คอและเฝือกดามหลังแล้ว ทันทีที่มาถึงนายทักษิณทักทายสื่อมวลชน ถามว่ายังอยู่กันอีกหรือ นึกว่าไปตามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ก่อนเชิญสื่อมวลชนไปรับประทานอาหารด้วยกัน ผู้สื่อข่าวถามว่า อาการเจ็บหลังเป็นอย่างไรบ้าง นายทักษิณตอบว่า ดีขึ้นเยอะ แต่ต้องพ่นสเปรย์แก้ปวดตลอด ส่วนการร่วมรับประทานอาหารค่ำ วันที่ ๑๕ มี.ค. กับนายกรัฐมนตรีนั้น อาหารหลากหลายอร่อย เมื่อถามว่า บรรยากาศในงานดูชื่นมื่น คนมากันเยอะ นายทักษิณตอบว่า ๑๗ ปีเจอคนเก่า คนแก่บ้างก็ดี เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อถามย้ำว่า นายกรัฐมนตรีได้ขอคำปรึกษาอะไรหรือไม่ นายทักษิณ ตอบว่า ไม่เลย ท่านมีเวลาน้อย ต้องไปประชุมต่อเรื่องไฟป่า พร้อมพูดติดตลกว่า ก็เลยบอกว่าอย่าประชุมเกินเที่ยงคืนนะเดี๋ยวเขาขอโอที พาหลานๆเที่ยวสวนสัตว์ต่อมาเวลา ๑๐.๐๐ น. นายทักษิณและครอบครัว เดินทางไปยังสวนสัตว์ไนท์ซาฟารี เชียงใหม่ เพื่อพาหลานๆมาเที่ยวชมสัตว์ มีนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี ยืนรอรับอยู่บริเวณหน้าทางเข้า นายทักษิณกล่าวแซวว่า “วันนี้รัฐมนตรีนำทัวร์เองเลย บอกด้วยว่า สัตว์ตัวไหนชื่ออะไร มาจากไหน” เรียกเสียงหัวเราะในวงสนทนา ก่อนเข้าชมพื้นที่ด้านในสวนสัตว์ บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนาน บรรดาหลานๆนายทักษิณต่างตื่นเต้นที่ได้เล่นกับสัตว์นานาชนิด โดยจุดแรกนายทักษิณให้หลานๆเล่นกับสัตว์ที่เชื่องแล้ว อาทิ นกกระตั้ว นกเค้า งูเผือก เมียร์แคท และอิกัวน่า หลังจากชมสัตว์จุดแรกเสร็จแล้ว นายทักษิณและครอบครัวนั่งรถกอล์ฟไปชมสัตว์พื้นที่ด้านใน โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนไปบันทึกภาพ ขอความเป็นส่วนตัวให้ครอบครัวตั้งชื่อ “the only” ให้ลูกสิงโตผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งระหว่างที่เดินชมสวนสัตว์ไนท์ซาฟารี นายทักษิณได้แวะชมสิงโตที่เพิ่งคลอดลูกได้ ๗ วัน โดยนายทักษิณเข้าไปอุ้มลูกสิงโตด้วยความเอ็นดู พร้อมกับหลานๆที่แสดงอาการตื่นเต้นดีใจที่ได้ดูลูกสิงโตขาว โดยทางสวนสัตว์ขอให้นายทักษิณตั้งชื่อให้ลูกสิงโตขาว นายทักษิณตั้งชื่อ “the only” พร้อมบอกเหตุผลว่า ปกติลูกสิงโตจะออกลูกหลายตัว แต่แม่สิงโตตัวนี้ออกลูกตัวเดียว มีความพิเศษจึงให้ชื่อว่า only นอกจากนี้นายทักษิณยังได้เขียนข้อความในหนังสือเยี่ยมว่า “วันนี้มีโอกาสกลับมาเยี่ยมชมไนท์ซาฟารีอีกครั้ง ผมตระหนักถึงช่วงลำบากตอนใกล้โควิดระบาด แต่ยังรักษาสภาพไนท์ซาฟารีไว้ได้ ต่อจากนี้มั่นใจว่า เราจะเห็นการพัฒนาที่ดีขึ้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของ จ.เชียงใหม่ ที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติต้องมามากกว่าหนึ่งครั้ง ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ไนท์ซาฟารีทุกคนที่รักษาไนท์ซาฟารีไว้ด้วยความรักและความภูมิใจในหน้าที่เราจะช่วยกันพัฒนาต่อไป”ทักนักท่องเที่ยวจีน “หนีห่าว”จากนั้นเวลา ๑๒.๓๐ น. นายทักษิณและครอบครัว เดินทางต่อไปยังร้านรำดีตี้ขัวเเดง มีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์และนายพายัพ ชินวัตร น้องสาวและน้องชายมาร่วมรับประทานอาหารกลางวันด้วย คณะของนายทักษิณสร้างความฮือฮาให้นักท่องเที่ยวจีน ที่มารับประทานอาหาร ต่างมายืนรอคุยทักทายนายทักษิณ ซึ่งนายทักษิณกล่าวทักทายนักท่องเที่ยวว่า “หนีห่าว”ให้กำลังใจนายกฯ แก้ ศก.ต่อมาเวลา ๑๓.๓๐ น. ที่ร้านอาหารลำดี ตี้ขัวแดง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการเดินทางกลับมา จ.เชียงใหม่ตลอด ๓ วันว่า อบอุ่นดีใจ ๑๗ ปีที่หายไป กลับมาก็คิดถึงบ้านเกิด คิดถึงอาหาร วัฒนธรรม คนเก่าๆ เป็นธรรมชาติที่ทำให้กระชุ่มกระชวยขึ้น ส่วนช่วงสงกรานต์ก็ตั้งใจจะกลับมา เพราะมีความรักในวัฒนธรรมมีประเพณีรดน้ำดำหัว ก็คงจะกลับมา สิ่งที่ควรพัฒนา จ.เชียงใหม่คือ ปัญหาฝุ่น PM ๒.๕ เป็นปัญหาหนักสุด เป็นห่วง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการคลัง ทราบปัญหาจะรีบแก้ไข ส่วนความแห้งแล้ง อยากให้ฟื้นโดยการไม่ต้องใช้น้ำมาก ทำให้สภาพแวดล้อมชุ่มชื้นได้ จะทำให้อากาศกลับมาสภาพดีเป็นห่วงเท่านี้ อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจก็ต้องดี เชื่อว่านายกฯวางแผนฟื้นเศรษฐกิจ ถ้าเศรษฐกิจดีทุกอย่างจะดีตาม กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ถ้าท้องไม่อิ่มก็ลำบาก ได้ให้กำลังใจนายกฯทุกเรื่อง เพราะงานวันนี้ยากกว่าสมัยวิกฤติต้มยำกุ้งมีความซับซ้อนยากมากกว่า ฝ่ายการเมืองต้องร่วมมือกัน ต้องให้กำลังใจข้าราชการประจำ นักการเมืองต้องร่วมมือกัน เพราะมันยากกว่าเดิม เมื่อถามว่าจะให้ข้อคิดนายเศรษฐาอย่างไร เพราะนายทักษิณเคยแก้วิกฤติต้มยำกุ้ง นายทักษิณตอบว่า ส่วนใหญ่ท่านก็รู้เรื่องเดิมที่เราเคยแก้ไขมา บางอย่างก็ใช้ได้ บางอย่างต้องเปลี่ยนเพราะโลกเปลี่ยนไม่เหมือนเดิม jwplayer(“cover_jwplayer_uS๘OQDl๕_๑๑”).setup({ “playlist”: “https://cdn.jwplayer.com/v๒/media/uS๘OQDl๕” }); ใครไม่ชอบหน้าต่างคนต่างอยู่เมื่อถามว่า มีกระแสข่าว ดราม่าต่างๆเกิดขึ้นตั้งแต่กลับถึงประเทศไทยและออกจากโรงพยาบาล นายทักษิณตอบว่า คำว่าดราม่าคือเรื่องไม่จริง จบโอเคไหม ส่วนข้อวิจารณ์เรื่องอาการป่วยของตนนั้น มองว่าไม่เป็นไรภาวะจิตใจคนสำคัญกว่า ถ้าจิตใจแย่ อาจทำให้อย่างอื่นรวนตามไปได้ ผู้สื่อข่าวถามตอนนี้สภาพจิตใจดีเกิน ๑๐๐% หรือยัง นายทักษิณตอบว่า ใจมันดี เพราะมีลูกสาวลูกชายอยู่ใกล้ๆ มีหลานอีก ๗ คน เป็นความสุขยิ่งใหญ่ของคนแก่ วัย ๗๕ ปี โปรดเข้าใจเห็นใจคนแก่ที่จากบ้านเกิดเมืองนอนไปนาน วันนี้กลับมาใครไม่ชอบหน้า ก็ต่างคนต่างอยู่ไป ยอมรับว่าก่อนหน้านี้มีอาการป่วยจริง แต่กำลังใจดี ทำให้หลายอย่างดีขึ้น แต่ทุกวันนี้ยังมีปัญหาการกดประสาทของกระดูกที่คอและหลัง มีอาการต่อเนื่องจากที่ป่วยโควิด-๑๙ ตอนนั้นอาการหนัก ต้องนอนไอซียู ๙ วัน ข้างในก็ได้รับผลกระทบ ตอนนี้ยังมีปอดที่ยังคงมีจุดอยู่ ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พูดเสริมขึ้นว่า “พ่อไม่ค่อยยอมรับว่าตัวเองป่วย” นายทักษิณ จึงพูดต่อว่าพยายามอย่างยิ่งให้ยอมรับว่าตัวเองอายุ ๗๕ ปี แต่ไม่อยากยอมรับความแก่ทั้งที่คือธรรมชาติ แต่บางทีเราต้องฝืนเพราะไม่อยากแก่ ผู้สื่อข่าวถามว่าใครดื้อกว่ากันระหว่างพ่อกับลูก น.ส.แพทองธารเอามือชี้ไปที่นายทักษิณ ก่อนหัวเราะและบอกว่า “คนนี้ค่ะ ไม่ยอมรับว่าป่วยจนกระทั่งได้ผ่าตัดและออกจากไอซียูถึงจะได้รู้ว่าตัวเองป่วย”โอ๋เสื้อแดงอย่าน้อยใจวืดพบเมื่อถามว่าในช่วงสงกรานต์ที่จะกลับมาเชียงใหม่ มีกำหนดจะไปที่ไหนหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า ยังไม่ได้คิด แต่ห่วงบ้านเมืองหลายเรื่อง อยู่โรงพยาบาลตำรวจ ๖ เดือน ดูข่าวตลอดดูทีวีทุกช่อง เวลามีอะไรกังวลจดไว้เยอะมาก เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะเดินสายพบแกนนำคนเสื้อแดงพื้นที่อื่นๆหรือไม่ นายทักษิณ ตอบว่ายังไม่คิดตอนนี้ ขอใช้เวลากับครอบครัวมีอะไรจะเขียนแนะนำรัฐบาล เพื่อช่วยแก้ปัญหา เป็นห่วงบ้านเมือง เมื่อถามว่ามีเสียงคนเสื้อแดงออกมาบอกน้อยใจที่ยังไม่ได้พบ นายทักษิณตอบว่า อย่าเพิ่งน้อยใจ ทุกอย่างต้องใช้เวลา ตนเพิ่งมาถึงต้องระมัดระวังความประพฤติตัวเองด้วย ตนมาเครื่องบินถึงบ้านช้ากว่าเรืออีก เรือใช้เวลาเดินทาง ๑ เดือนถึงบ้าน ตนมาเครื่องบินแท้ๆใช้เวลา ๖ เดือนกว่า เมื่อถามย้ำว่าจะได้เจอนายทักษิณอีกครั้งเมื่อไหร่ นายทักษิณตอบว่าไม่รู้เลย“สมชาย” แจงงานต้อนรับ “ทักษิณ”ที่สวนสัตว์ไนท์ซาฟารี จ.เชียงใหม่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ต้อนรับนายทักษิณ ชินวัตร เมื่อคืนวันที่ ๑๕ มีนาคมว่า เป็นการกลับมาในรอบ ๑๗ ปี เป็นการรอคอยของทุกคน ในฐานะเจ้าของบ้านจึงชวนไปเพื่อความเป็นสิริมงคลของบ้าน นายทักษิณมาเชียงใหม่ก็อยากต้อนรับอย่างอบอุ่น ทุกคนที่มาเป็นคนกันเอง อย่างนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ส่วนที่มี สส.พรรคพลังประชารัฐไปร่วมงานด้วย มันไม่ใช่เรื่องการต่อสู้ทางการเมือง ไม่คิดว่าพรรคใดเป็นคนละพวก แต่ใครมีความสนิทสนมรักใคร่กัน จะอยู่พรรคใดก็ได้ ต้อนรับหมด ไม่แบ่งว่าเป็นพรรคใด ทุกคนเป็นพรรคพวกกัน เมื่อถามว่าหนังสือพิมพ์พาดหัวงานดังกล่าวเป็นการรวมของ ๓ นายกรัฐมนตรี นายสมชายตอบว่า ยังไม่ได้ติดตามข่าว เมื่อถามว่า มีการใช้คำว่า ๓ นายกฯดูยิ่งใหญ่หรือไม่ นายสมชายตอบว่า ตนไม่ได้เป็นนายกฯแล้ว อดีตนายกฯทักษิณก็ไม่ได้เป็นคนใหม่ แม้ไม่ได้อยู่ในตำแหน่ง แต่อะไรที่เป็นผลดีกับสังคมก็ช่วยเหลือ ส่วนจะยิ่งใหญ่หรือไม่นั้น ไม่ได้เก็บมาคิด คิดว่าอะไรที่ทำแล้วเหมาะสมก็ทำ หาโอกาสทำประโยชน์ร่วมกันมากกว่าไปคิดว่าคนละพวก ขณะนี้ควรเข้าสู่การเริ่มต้นปรองดองเพื่อบ้านเมือง ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน เมื่อถามว่านายทักษิณจะกลับมา จ.เชียงใหม่ อีกช่วงสงกรานต์หรือไม่ นายสมชายตอบว่านายทักษิณบอกจะมาอีก เทศกาลสงกรานต์เป็นวัฒนธรรมไทย จ.เชียงใหม่เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สงกรานต์ รัฐบาลให้ความสนใจกับการจัดเทศกาลดังกล่าวพท.ซัดฝ่ายค้านต้องมีจริยธรรมนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้าน ระบุนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับ จ.เชียงใหม่ ตอกย้ำละครป่วยทิพย์ว่า ปกติการทำงานร่วมกันของฝ่ายค้านไม่เป็นเอกภาพ ถึงขั้นผู้นำฝ่ายค้านสารภาพเอง แต่งานนี้ดูเหมือนสามัคคีเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเฉพาะกิจ ไม่ห้ามปรามตักเตือนกัน ต้องมีทัศนคติวิธีคิดแบบใดถึงทุกข์ใจที่เห็นอดีตนายกฯที่เป็นผู้สูงวัยมีอาการดีขึ้น ก่อนหน้านี้มีบางพรรคเคยเรียกร้องให้นายทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เมื่อนายทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจนได้รับพักโทษตามกฎหมาย ใจคอคนที่พูด อยากเห็นนายทักษิณนอนป่วย ให้อยู่ในคุกถึงจะพอใจหรือ ปุถุชนเมื่อมีอาการเจ็บป่วย ก็มีวันอาการดีขึ้น มีวันแย่ลงเป็นธรรมชาติ ไม่ได้สลับซับซ้อน ใจเขาใจเรา ทำงานการเมืองต้องมีคุณธรรม จริยธรรมแซะ “พิธา” ขึ้นเชียงใหม่หาแสงนายอนุสรณ์กล่าวว่า ส่วนที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อไปดูการดับไฟป่าและปัญหาฝุ่นพิษ ในช่วงเวลาเดียวกับที่นายทักษิณ และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง อยู่ จ.เชียงใหม่นั้น นายพิธาควรตอบตัวเองให้ได้ปัญหาไฟป่าฝุ่นพิษ เพิ่งเกิดหรือเกิดจุดเดียวในประเทศไทยหรือไม่ ถึงต้องเจาะจงไปช่วงเวลานี้ และเลือกไป จ.เชียงใหม่ จะฉกฉวยโอกาสไปประชันขันแข่งหาแสงวัดเรตติ้งก็ทำไป ก่อนดับไฟป่า นายพิธาควรดับไฟในใจตัวเองก่อนหรือไม่ อดีตนายกฯทักษิณพบนายเศรษฐา ได้แลกเปลี่ยนความรู้ เป็นประโยชน์ แต่นายพิธาไปจ.เชียงใหม่ อาจได้แค่ขึ้นรถแห่เดิมพันกับตัวเองหรือไม่ฉะเดินสายแบบไร้เป้าหมายน.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายก รัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ประกาศนโยบายจัดการปัญหาฝุ่น ตั้งแต่เป็นแคนดิเดตนายกฯ ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ฝุ่นด้วยตนเอง โดยเฉพาะที่ จ.เชียงใหม่ นายกฯเดินทางไปแล้ว ๓ ครั้ง นับแต่การจัดตั้งรัฐบาล พรรคก้าวไกลควรเข้าใจบทบาทฝ่ายค้านว่า มีหน้าที่ตรวจสอบการบริหารหรือเสนอแนะรัฐบาล หากทำงานผิดพลาดหรือใช้งบประมาณไม่ถูกต้อง แต่หากนายพิธาและพรรคก้าวไกลเคลื่อนไหวในลักษณะนอกบทบาทหน้าที่ จะสร้างคำถามและความสับสนขึ้นได้ว่า การเดินสายลักษณะนี้ใครได้ประโยชน์อย่างแท้จริง ประเทศกำลังเดินหน้าสู่การแก้ปัญหาเป็นรูปธรรม อยากให้นายพิธามูฟออนกลับมาสู่ความเป็นจริง เข้าใจบทบาทฝ่ายค้าน ไม่ใช่คิดแต่จะเดินสาย โดยไร้เป้าหมายที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืน นายกฯลุยแก้ไฟป่า–ฝุ่นพิษสำหรับภารกิจนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการคลัง ในการลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.เชียงใหม่ เมื่อเวลา ๑๐.๒๐ น. นายเศรษฐาเดินทางไปที่ห้อง ประชุม โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ติดตามการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน จากนั้นไปเยี่ยมชมสินค้าและผลิตภัณฑ์ผ้าและสินค้าในโครงการพระราชดำริ โดยเดินเยี่ยมชมทุกบูธที่นำมาจัดแสดง พร้อมอุดหนุนซื้อเสื้อผ้าทอย้อมสีธรรมชาติ กระเป๋า และผ้าพันคอ พร้อมสวมใส่เป็นนายแบบทันที โดยนายเศรษฐากล่าวสนับสนุนภูมิปัญญาพื้นบ้าน โดยเฉพาะต้นฮ่อม ที่นำไปตำผสมกับส้มป่อย นำไปใช้แปะฝ่ามือ ลดอาการไข้ก่อนไปโรงพยาบาล เป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ขอให้ต่อยอดทำเป็นแผ่นคูลฟีเวอร์ เป็นแผ่นแปะลดไข้ ให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้นายกฯยังสั่งซื้อเครื่องปั้นดินเผาศิลาดล อุดหนุนผ้าลายชบา ปัตตานีที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้า สิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ส่งเสริมให้ชาวบ้านปัก เพื่อเตรียมมอบให้กับภรรยานายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ซึ่งมีกำหนดการจะเดินทางมาเยือนประเทศไทยปลื้มคนเชียงใหม่บอกรักนายกฯต่อมาเวลา ๑๒.๑๐ น. นายกรัฐมนตรีเดินทางมายังอาคารอเนกประสงค์ อุทยานแห่งชาติศรีลานนา อ.แม่แตง พบปะและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเฝ้าระวังและดับไฟป่า และร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเฝ้าระวังและดับไฟป่า ขณะที่กลุ่มสตรีและกลุ่ม อสม. อ.แม่แตง เดินทางมาต้อนรับ โดยเจ้าหน้าที่มอบดอกไม้ให้กำลังใจ ก่อนนายกฯจะถ่ายภาพเซลฟี่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ขณะที่พิธีกรในงานได้บอกว่าคนเชียงใหม่รักนายกฯ และเป็นนายกฯคนเดียวในตอนนี้เชื่อ “ทักษิณ” พร้อมยื่นมือช่วยจากนั้นเวลา ๑๓.๑๕ น. ที่เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล จ.เชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการร่วมรับประทานอาหารกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อค่ำวันที่ ๑๕ มีนาคมว่า ไม่มีเวลาได้หารือกันเลย แค่ถ่ายรูป ซุ้มอาหารยังเดินไม่ครบ ในส่วนนายทักษิณอ่อนเพลียเล็กน้อย แต่ยิ้มแย้มแจ่มใส จึงยังไม่ได้คุยอะไรทราบว่าวันที่ ๑๕ มี.ค. จากภารกิจ ท่านเอื้อมมือไปหยิบของ ทำให้หลังลั่นขึ้นมา ต้องใส่อุปกรณ์พยุงหลัง แต่ใบหน้ามีแต่รอยยิ้ม เพราะอยู่ท่ามกลางครอบครัว ถ้ามีโอกาสจะขอคำปรึกษาด้านเศรษฐกิจแน่นอน แต่เมื่อคืนวันที่ ๑๕ มี.ค. ยังไม่ได้คุย มันยุ่งเหลือเกิน นายทักษิณเป็นบุคคลระดับโลก ได้รับความนิยมชมชอบสูงสุด หากไม่สามารถดึงมาช่วยงานได้ ประเทศไทยจะไม่ได้ประโยชน์เต็มที่ ทั้งนี้ นายทักษิณไม่ได้ฝากอะไร ฝากบอกว่าก๋วยเตี๋ยวเจ้านี้อร่อยให้ลองกินดู เมื่อถามว่ามีแนวคิดเชิญอดีตนายกฯทักษิณมาช่วยทำงานและมีบทบาทในรัฐบาลหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ยังไม่มี แต่ถ้าพูดคุยปรึกษาเป็นไปได้ ยังไม่ทราบนายทักษิณต้องการทำอะไร อาจต้องการชดเชยเวลาที่ไม่ได้อยู่กับครอบครัว ๑๗ ปี เชื่อว่านายทักษิณอยากช่วยเหลือบ้านเมืองในบริบทที่ถนัด คงต้องถามเมื่อมีโอกาส จากนี้ไป ๓ ปีครึ่ง เราใจกว้างเสมอรับฟังความคิดเห็นทั้งจากผู้สื่อข่าวหรืออดีตนายกฯไม่น้อยใจคนรัก “ทักษิณ” มากกว่าเมื่อถามว่าไม่น้อยใจใช่ไหมที่อาจมีประชาชนบางส่วนไปรักอดีตนายกฯทักษิณ แต่ก็ยังรักนายกฯเศรษฐาอยู่ นายเศรษฐายิ้มก่อนตอบว่าเป็นของตายอยู่แล้ว นายทักษิณเป็นนายกฯมากี่ปี แลนด์สไลด์๓๗๗ เสียง อยู่ในแวดวงการเมืองมานาน แน่นอนคนรักนายทักษิณมากกว่าตนแน่นอน ทำใจได้อยู่แล้ว ทราบความจริงอยู่ อายุขนาดนี้ไม่โกหกตัวเอง แต่ เรามีหน้าที่ต่างกันไป วันนี้ตนเป็นนายกฯก็พยายามแก้ปัญหาบ้านเมืองแค่บังเอิญ “พิธา” ลงพื้นที่ตรงกันนายเศรษฐากล่าวว่า ส่วนที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ในเวลาเดียวกัน เพื่อติดตามปัญหาไฟป่า จนถูกมองเป็นการแย่งซีนทางการเมืองนั้น ขอให้มองลักษณะน้ำไม่เต็มแก้ว มองอย่างบวก การที่ฝ่ายค้านและรัฐบาลช่วยกันดูแลเป็นเรื่องดีอยู่ เป็นเรื่องบังเอิญมากกว่าที่ลงพื้นที่วันเดียวกัน ก็มาช่วยกันคนละไม้คนละมือ คนที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือประชาชน หากนายพิธาไปเจออะไรมา แล้วรัฐบาลยังทำไม่ดีก็บอกมา แนะนำอะไรมาก็ฟัง อะไรทำได้จะทำ ไม่ได้คิดอะไร ส่วนความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ได้พูดคุยกับนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการคลัง ช่วงต้นสัปดาห์หน้าจะพูดให้ฟัง คงต้องพูดคุยกับหลายฝ่ายก่อน โดยเฉพาะสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ยิ้มแก้มปริป้ายเชียร์ให้อยู่ยาวต่อมาเวลา ๑๓.๓๕ น. นายกรัฐมนตรีเดินทางมายังโรงพยาบาลแม่แตง ตรวจเยี่ยมบ้านพักบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมเดินดูบ้านพักบุคลากรทางการแพทย์ สอบถามความเป็นอยู่ โดยนายเศรษฐากล่าวว่า หากมีปัญหาอะไรให้ประสานมาได้ อาชีพบุคลากรทางการแพทย์ต้องมีสวัสดิการดีขึ้น หมอจบมาหากไม่มีสวัสดิการดีก็ไปทำงานที่โรงพยาบาลเอกชน แต่หากมีชีวิตความเป็นอยู่และสวัสดิการดีทั้งแพทย์และพยาบาลคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี ขอให้เริ่มที่นี่ก่อน เป็นเคสนำร่อง เวลา ๑๔.๓๐ น. นายเศรษฐาเดินทางมายังอุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่ เป็นประธานพิธีมอบหน้ากากอนามัย KN๙๕ ป้องกันฝุ่น PM๒.๕ ให้ประชาชน มีประชาชนมารอต้อนรับ ถือป้ายให้กำลังใจ อาทิ “นายกฯเศรษฐาสุดยอด” “ชาวเชียงใหม่อยากให้นายกฯนิดอยู่ครบเทอม” เมื่อนายกฯเห็นป้ายข้อความดังกล่าวถึงกับเข้าไปจับและยิ้มชอบใจ “พิธา” ปัดขึ้นเชียงใหม่วัดพลังอีกด้านหนึ่งเมื่อเวลา ๐๙.๐๐ น. ที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล นำคณะลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าร่วมกับภาคประชาสังคม นายพิธาให้สัมภาษณ์ถึงการเปรียบเทียบการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ แข่งกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่ใช่ช่วงเวลามาเปรียบเทียบกันเอาปัญหาประชาชนเป็นที่ตั้ง ข้อมูลเห็นชัดว่าปีนี้หนัก ในฐานะฝ่ายค้าน ถ้าจะนำไปพูดก็ต้องเห็นจริง การเดินทางมาครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการวัดพลังมวลชน ต้องคิดจะแก้ปัญหาให้ประชาชนเร็วที่สุดได้อย่างไร ตอนนี้อากาศเชียงใหม่แย่ที่สุด ข้อเท็จจริงที่เถียงไม่ได้คือ พรรคก้าวไกลมี สส.เชียงใหม่ ๗ คน จาก ๑๐ คน พรรคก้าวไกลเป็นประธานคณะกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม จึงต้องทำหน้าที่ เอาประชาชนเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่เอาใครมาเป็นตัวตั้งไม่สน “ทักษิณ” ลดเรตติ้งก้าวไกลเมื่อถามว่า จะเป็นการปูทางสู่การเลือกตั้งท้องถิ่น หรือไม่ นายพิธาตอบว่า ไม่เกี่ยวกัน ที่ผ่านมาเดินสายลงพื้นที่วันเสาร์อาทิตย์ เพื่อดูปัญหาประชาชน ตอนนี้ยังไม่คิดเรื่องการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เราเอาไฟป่าเป็นที่ตั้งฉุกเฉินจริงๆ การเป็นผู้แทนฯต้องเข้าใจเรื่องนี้ ฝ่ายค้านต้องทำงานเหมือนกัน ไม่ใช่รัฐบาลอย่างเดียว มีออก พ.ร.บ. ห้ามฝ่ายค้านทำงานหรือไม่ สัปดาห์หน้าจะอภิปรายร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๗ วาระ ๒-๓ พรรคจะอภิปรายเรื่องนี้แน่นอน เมื่อถามว่า การเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ทำให้กระแสพรรคก้าวไกลลดลงหรือไม่ นายพิธาตอบว่า ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องกระแส ทำงานให้เต็มที่ วิกฤติเชียงใหม่สำคัญมากกว่ากระแสพรรค ไม่ได้คิดถึงกระแสของนายทักษิณทำให้กระแสพรรคลดลง เรื่องคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้ายังเร็วเกินไป ที่จำได้ไม่ลืมคือ การเลือกตั้งที่ผ่านมา คนเชียงใหม่ใช้สิทธิเยอะ ๘๑% พรรคมาเป็นอันดับหนึ่ง เราไม่ได้มองไปในอนาคต แต่มองที่ปัจจุบัน และย้อนไปที่อดีต ไม่ลืมความไว้วางใจที่ชาวเชียงใหม่ให้ไว้กับพวกเรามากว่า ๘ เดือน ยิ่งตอกย้ำว่าทำไมต้องมาเชียงใหม่ในช่วงที่ประชาชนลำบากมากที่สุดปากแข็งไม่กังวลโดนยุบพรรคนายพิธายังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมคดีที่ กกต.ชงศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกลว่า มีทีมเตรียมข้อมูล แบ่งเป็น ๒ คดีคือ คดีของ กกต.และคดีของ ป.ป.ช. กำลังดูว่ารายละเอียดของ กกต.ยังขาดอะไรอยู่บ้าง และ ป.ป.ช.หากเทียบกับคดีที่ศาลฎีกาเคยตัดสินคดี น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตสส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส.ราชบุรี นายสิระ เจนจาคะ อดีต สส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ใช้เวลาเท่าใด เพื่อเตรียมอธิบายสู้คดี น้ำหนักมาตรา ๔๙ ที่ศาลรัฐธรรมนูญใช้ตัดสินคดี เมื่อวันที่ ๓๑ มกราคม๒๕๖๗ กับกรณีที่จะใช้ประหารพรรคการเมือง มันคนละอนุมาตรา แม้มีคำว่าล้มล้างเหมือนกัน แต่ไม่ได้หมายความโทษจะเหมือนกัน ต้องมีดุลพินิจว่ามาตราหนึ่งมีไว้แค่ตักเตือน ให้หยุดการกระทำ แต่อีกมาตรามีไว้เพื่อยุบพรรค นำไปสู่การลิดรอนสิทธิทางการเมือง เชื่อว่าศาลจะให้ความยุติธรรม และให้น้ำหนักมากกว่าเรื่องมาตรา ๔๙ ไม่กังวลหากศาลมีคำวินิจฉัยยุบพรรค การทำงานของพรรคเหมือนการเขียนหนังสือ มีชัตเตอร์ที่ ๑ ชัตเตอร์ ๒ ชัตเตอร์ ๓ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุดมการณ์ ปณิธาน และนโยบาย ที่ประชาชนให้มา ๑๔ ล้านเสียง จะเดินหน้าต่อแน่นอน ไม่ว่าจะมีพรรคก้าวไกลหรือไม่มี น.ส.พรรณิการ์ วานิช“ช่อ” ประเมิน ก.ก.ถูกยุบ ๙๐%น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า กล่าวถึงกรณีหลายฝ่ายประเมินพรรคก้าวไกลจะถูกยุบแน่นอน ๑๐๐% ว่า เอาสัก ๙๐% แล้วกัน เหลือไว้สัก ๑๐% ส่วนที่มองว่า แกนนำแถว ๓ พรรคก้าวไกลยังเด็กนั้น บางทีวิธีดีที่สุดจะสอนเด็กว่ายน้ำเป็นคือ ผลักลงน้ำ ไทม์ไลน์ยุบพรรคอนาคตใหม่กับพรรคก้าวไกลคล้ายกันอย่างประหลาดมาก ตอนยุบพรรคอนาคตใหม่เป็นช่วงกำลังเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรกในชีวิต เตรียมพร้อมคดียุบพรรค ๒ คดี รอดคดีหนึ่ง จากนั้นห่างกัน ๑ เดือน ก็มาตายคดีที่ ๒ ขณะนี้กำลังมีการยุบพรรคก้าวไกล และอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ หน้าสิ่วหน้าขวานยังทำงานได้ขนาดนี้ ช่วงเวลาเลวร้ายที่สุด ตรงที่ยุบหรือไม่ยุบ พอยุบแล้วชีวิตมูฟออนไปสู่พรรคใหม่แล้วทำงานต่อ จึงไม่น่าเป็นห่วงเมื่อผ่านมรสุมลูกนี้ไปแล้ว จะทำงานเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้นรอช้อน กก.บห.เข้าคณะก้าวหน้าเมื่อถามว่า ก้าวไกลถูกแบ่งเป็น ๔ กลุ่มใหญ่คือ ๑.กลุ่มอนาคตใหม่เดิมที่ถูกตัดสิทธิการเมือง ๒.กลุ่มคณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ที่กำลังถูกตัดสิทธิ ๓.กลุ่ม ๔๔ สส.ที่ถูกร้องกรณีผิดจริยธรรมร้ายแรง ๔.กลุ่ม สส.ใหม่ที่ต้องไปต่อ หลังจากนี้จะเดินหน้าอย่างไร น.ส.พรรณิการ์ตอบว่า แบ่งเป็น ๔ กลุ่มฟังดูซับซ้อน แต่จริงๆไม่ซับซ้อน ผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมือง สมมติถูกยุบพรรค ๑๐กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิแน่ๆ หากอยากทำงานการเมืองต่อก็ขอต้อนรับสู่คณะก้าวหน้า ส่วน ๔๔ สส. ไม่เชื่อว่าจะเล่นทั้งหมด เปลืองตัวเกินไปสำหรับองคาพยพที่คิดทำ คงไม่เห็นประโยชน์พอที่จะแลกเอาทั้ง ๔๔ คน คงมีบางคนโดน บางคนไม่โดนก็ยังทำงานอยู่ ต้องเดินหน้าสู่การเลือกตั้งสมัยต่อไป ต้องทำงานหนักขึ้นเป็น ๒ เท่า เพื่อเป็นกำลังใจให้ประชาชนที่เลือก สส.ก้าวไกลกว่า ๑๕๐ คน ส่วน สส.ใหม่ที่ได้ไปต่อแน่ มีจำนวนมาก มีผลงานดี ในช่วงปีแรกมีมรสุมเข้ามา เห็นหลายคนโดดเด่นขึ้น ขอให้เชื่อมั่นพรรคก้าวไกลนับวันยิ่งทำงานเข้มข้นขึ้น คุ้มค่าภาษีประชาชนก้าวไกลถูกยุบก่อนสงกรานต์ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคก้าวไกลว่า ขณะนี้บรรดาแกนนำพรรคได้ประเมินถึงสถานการณ์ภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเอกฉันท์เสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคก้าวไกลและตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยการกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกลเสนอแก้ไข ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยแกนนำพรรคประเมินฉากทัศน์ว่า คาดว่าการยุบพรรคก้าวไกลจะเกิดในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ เดือน เม.ย. เนื่องจากเป็นช่วงที่ประชาชนอยู่ในบรรยากาศเทศกาลทำบุญ รดน้ำดำหัว เป็นวันครอบครัว แต่ไม่มีปัญหาต่อพรรค เพราะได้เตรียมแผนรับมือทุกฉากทัศน์ เช่น หากยุบพรรคช่วงก่อนสงกรานต์ การปรับกระบวนทัพจะไม่วุ่นวาย เพราะลงล็อกการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ในเดือน เมษายน๒๕๖๗ ต้องเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่พอดีแฉต่อรองย้ายพรรคแลกหลุดคดีผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ส่วนดาบสองที่ตามซ้ำ กรณีมีผู้ไปร้อง ป.ป.ช.ฟันจริยธรรมร้ายแรง นายพิธา และ สส.ก้าวไกล ๔๔ คน ที่ร่วมกันลงชื่อยื่นร่างแก้ไขมาตรา ๑๑๒ นั้น แกนนำพรรคก้าวไกลมองว่า ขั้นตอนในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใช้เวลาค่อนข้างนาน ไม่น่าจะรวดเร็ว การพิจารณาคดีจะแตกต่างกัน เป็นไปตามพฤติกรรมรายบุคคล ดูพฤติกรรมแยกเป็นกรณีๆไป เพราะในคำวินิจฉัยฉบับเต็มศาลรัฐธรรมนูญมีการระบุเรื่องการลงชื่อแก้ไขโดยชอบตามรัฐธรรมนูญเอาไว้ จะพิจารณาถึงพฤติการณ์อย่างไรถึงลงชื่อแก้ไขกฎหมายโดยชอบ เช่น ถ้าใครลงชื่อแก้ไขมาตรา ๑๑๒ อย่างเดียว ไม่มีพฤติกรรมเป็นนายประกันให้ผู้ต้องหาคดีมาตรา ๑๑๒ แบบนี้รอด แต่หากใครมีพฤติกรรมเป็นนายประกันผู้ต้องหาคดีมาตรา ๑๑๒ มีความเสี่ยงสูงโดนเอาผิดเรื่องจริยธรรม อีกทั้งขณะนี้มีขบวนการใช้คดีดังกล่าวมาต่อรองทางการเมือง อ้างว่าหากตกลงย้ายพรรคตามเงื่อนเวลาที่ตกลงกันไว้จะเป็นหลักประกันมีโอกาสสูง ไม่ถูกฟันจริยธรรมร้ายแรง อย่างไรก็ตาม แกนนำพรรคเชื่อมั่น แม้มีขบวนการต่อรองจริง แต่จะไม่มี สส.ก้าวไกล ทั้ง ๔๔ คน ย้ายพรรคแน่นอนปชป.กาง ๓ ข้อสอบขยี้รัฐบาลนายพิทักษ์เดช เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเตรียมอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๕๒ ในวันที่ ๓-๔ เมษายนว่า แม้จะให้อภิปรายแค่ ๒ วัน ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ประชาชนคาใจนโยบายบริหารงานรัฐบาลจำนวนมาก แต่ฝ่ายค้านจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดประเด็นพรรคประชาธิปัตย์จะอภิปรายหลักๆคือ ๑.นโยบายในคำแถลงนโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา อย่างโครงการดิจิทัลวอลเล็ตผ่านไป ๖ เดือนแล้ว ไม่มีความคืบหน้าแค่ซื้อเวลาหาแพะรับบาป รวมทั้ง นโยบายอื่นๆยังล้มเหลวทางปฏิบัติ ๒.ความเสมอภาคที่ทุกคนต้องอยู่ภายใต้หลักนิติรัฐนิติธรรม แต่มีการใช้อำนาจทุกรูปแบบเอื้อให้นักโทษคนหนึ่งมีสิทธิพิเศษเหนือนักโทษคนอื่นๆขัดกับสิ่งที่รัฐบาลประกาศฟื้นฟูหลักนิติธรรมให้เป็นที่ยอมรับ ๓.ภาวะผู้นำ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง เท่าที่ สังเกตตำแหน่งสำคัญๆที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรี เชื่อว่านายเศรษฐาไม่ได้คัดเลือกเอง น่าจะเป็นโควตาของบรรดานายใหญ่ นายหญิง และนายน้อยในพรรค มีข้อครหาว่า การตัดสินใจเรื่องสำคัญ ต้องรอให้ผู้มีอำนาจตัวจริงสั่งการลงมา ตกลงประเทศไทยมีนายกฯกี่คนเฉ่งสร้างความเหลื่อมล้ำในสังคมนายพิทักษ์เดชกล่าวว่า หวังว่ารัฐบาลจะมีคำตอบให้สภาฯและประชาชนได้ความกระจ่างเป็นที่พอใจ นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องการสอบถามมากมาย เช่น ฝุ่นพิษ PM ๒.๕ ที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน เรื่องสองมาตรฐานในกระบวนการยุติธรรม จำเป็นต้องได้รับคำตอบจากรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องการปล่อยให้นักโทษที่ศาลฎีกามีคำพิพากษา มีสิทธิพิเศษเหนือกว่ามนุษย์ จนถูกเรียกนักโทษเทวดา ถือว่ารัฐบาลนี้สร้างปัญหาความเหลื่อมล้ำให้สังคม หรือปัญหาเศรษฐกิจที่ประกาศว่า เป็นรัฐบาลคิดใหญ่ทำเป็น แต่บรรดากุนซือเศรษฐกิจรัฐบาลพยายามสร้างมายาคติให้เห็นว่า เศรษฐกิจไทยมีปัญหา จำเป็นต้องแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ขอเรียกร้องให้ คณะรัฐมนตรีช่วยมาตอบคำถามฝ่ายค้านอภิปรายด้วย ถ้าไม่มาหรือมาแต่ตอบไม่ตรงคำถาม ได้คำตอบไม่ชัดเจน รัฐบาลต้องรับผลสะท้อนจากประชาชนด้วยความรู้สึกที่ประชาชนเริ่มไม่ไว้วางใจรัฐบาลด้วย ไม่เอาเพื่อไทย จะเอาใครมาสู้ปชป.ตั้งทีมโทรโข่งเพิ่ม ๕ คนนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค แต่งตั้งรองโฆษกพรรคเพิ่ม ๕ คน อาทิ นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สส.พัทลุง นายพิทักษ์เดช เดชเดโช สส. นครศรีธรรมราช เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาทอย่างเต็มที่ ส่วนกรณีนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ตอบโต้ที่พรรคประชาธิปัตย์ติติงเรื่องกระบวนการยุติธรรมนั้น การมากล่าวหาคนที่พูดท้วงติง เรื่องกระบวนการยุติธรรมที่บิดเบี้ยวเป็นคนไม่มีคุณธรรมจริยธรรมนั้น พูดเพื่อเอาใจนาย ประเทศไทยไม่เคยมี กรณีโกงเวลา ติดคุก นักการเมืองที่ดีต้องดูภาคปฏิบัติ มีอำนาจแล้วโกงหรือไม่ สิ่งเหล่านี้จะออกมาเมื่อมีอำนาจไม่ใช้ พท.จะเอาใครสู้ก้าวไกลวันเดียวกัน นายวันชัย สอนศิริ สว.โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “ไม่เอาเพื่อไทย จะเอาใครมาสู้” ว่า เห็นพูดกันก้าวไกลถูกยุบแน่ แล้วบอกยิ่งยุบยิ่งโต เลือกตั้งครั้งหน้าชนะขาดลอย ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง จะเอาใครมาสู้กับก้าวไกล หันไปมองภูมิใจไทยของเสี่ยหนู พลังประชารัฐของลุงป้อม รวมไทยสร้างชาติ ของน้าพีระพันธุ์ หรือประชาธิปัตย์ของเสี่ยต่อ ไม่มีวี่แววที่จะสู้กับเขาได้ แค่สู้กับตัวเองยังลำบากเลย เหลือแต่เพื่อไทยกับคุณทักษิณเท่านั้น ไม่เลือกเขา เราคงจะแพ้ ตกลงกลัวก้าวไกล ไม่เอาเพื่อไทย แล้วบ้านเมืองจะเดินอย่างไร หรือจะรอการปฏิวัติรัฐ ประหารอีก จะเอาอย่างนั้นหรือ เมื่อสมการการเมืองเป็นอย่างนี้ ตัวเล่นอื่นก็ไม่มี ยังมัวสะบัดสะบิ้ง กระแทกแดกดันคุณทักษิณอยู่ทำไม ลองเอาพวกที่ด่าคุณทักษิณมาสู้กับก้าวไกล เอาเสื้อเหลือง พันธมิตรหรือ กปปส.ขุดกันมาสู้ดูว่าจะชนะก้าวไกลไหม เก่งเหลือเกินในจอโซเชียล ชีวิตทั้งชีวิต ทั้งโกรธทั้งเกลียด ชิงชังอาฆาตร้ายเหลือเกิน ไม่คิดเปลี่ยนแปลงเพื่อบ้านเมืองกันบ้าง ถ้าไม่เอาเพื่อไทย ไม่เอาคุณทักษิณ จะเอาใครมาสู้ จะได้รู้กันไปเลย เปิดหน้ากันมาถึงขนาดนี้แล้ว ขอย้ำเลิกได้ควรเลิก จบได้ควรจบ มาตั้งต้นกันใหม่ไม่ดีกว่าหรือ บ้านเมืองจะได้เดินหน้าต่อไป หรือจะรอให้ก้าวไกลชนะ ถึงเวลานั้นตัวใครตัวมันแล้วกัน“หมอเหวง” ยื่นค้านฝากขัง “ตะวัน”เมื่อเวลา ๐๙.๐๐ น. ที่ศาลอาญา นพ.เหวง โตจิราการ อดีตแกนนํา นปช. พร้อมกลุ่มมวลชนเดินทางมายื่นคัดค้านการฝากขัง น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และนายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือแฟรงค์ ๒ ผู้ต้องหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๖ กรณีบีบแตรรถใส่ขบวนเสด็จฯ นพ.เหวงกล่าวว่า มายื่นคัดค้านการฝากขัง เนื่องจากเป็นห่วงตะวันและแฟรงค์ รวมถึงกระบวนการยุติธรรมไทย ตลอดชีวิตเรียนมารู้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดของมนุษย์คือ ความยุติธรรม มนุษย์ทนทุกอย่างได้ แต่ทนความอยุติธรรมไม่ได้ ที่ใดในโลกไม่มีความยุติธรรม ที่นั่นไม่มีความสงบสุขเด็ดขาด จึงขอความเมตตาจากศาลกรุณายกคำร้องตำรวจที่จะยื่นฝากขังตะวันและแฟรงค์ในผัดต่อไป คดีนี้ตำรวจสามารถหาพยานหลักฐานโดยไม่จำเป็นต้องเอาทั้งสองคนไปขังในเรือนจำ การที่ตำรวจอ้างต้องสืบสวนแสวงหาพยานหลักฐาน ฟังไม่ขึ้น เป็นการสร้างความทุกข์ขมขื่นโดยไม่จำเป็น เป็นไปได้ขอให้ตำรวจยกเลิกทำคำร้องฝากขังไปเลย ต่อมาศาลอาญามีคำสั่งยกคำร้องของ นพ.เหวงกับพวก เนื่องจากเห็นว่า ผู้ร้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี ให้ยกคำร้องชพก.แชมป์เงินบริจาคเดือน มกราคมวันเดียวกันเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่เงินบริจาคพรรคการเมือง จำนวนเงินตั้งแต่ ๕,๐๐๐ บาทขึ้นไป ประจำเดือน ม.ค. ๒๕๖๗ มี ๑๐ พรรค เป็นจำนวน ๑๑,๗๐๒,๖๙๙ บาท พรรคอันดับ ๑ คือ พรรคชาติพัฒนากล้า ๔,๓๒๕,๕๐๐ บาท จากนายถาวร ศรีอุทัยวงศ์ ๒.พรรคก้าวไกล ๓,๗๔๓,๙๙๙ บาท จากนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค บริจาค ๒ ล้านบาท ๓.พรรคภูมิใจไทย ๒,๓๙๐,๐๐๐ บาท ๔.พรรคกล้าธรรม ๓๙๙, ๕๐๐ บาท ๕.พรรคไทยภักดี ๒๘๐,๐๐๐ บาท ๖.พรรคแรงงานสร้างชาติ ๑๙๘,๐๐๐ บาท ๗.พรรคประชาชาติ ๑๕๐,๐๐๐ บาท ๘.พรรคเสรีรวมไทย ๑๑๐,๐๐๐ บาท ๙.พรรคไทยสร้างไทย ๘๔,๗๐๐ บาท ๑๐.พรรครักษ์ธรรม ๒๑,๐๐๐ บาทอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่