Monday, 20 May 2024

“เศรษฐา” คุยฟอร์มูล่าอี แข่งไทย ก่อน ๑๕ ก.พ. ๖๘ คัดเฟ้น ๒ สนามเชียงใหม่

18 Mar 2024
61

“เศรษฐา” ทิ้งทวนทริปเชียงใหม่ถกบิ๊กฟอร์มูล่า E ลุ้นจัดแข่งขันในไทย รอ ๖๐ วันได้คำตอบ แจงลงพื้นที่พร้อม “ทักษิณ” คนครหานายกฯทับซ้อนลั่นไม่บั่นทอนกำลังใจ ย้ำมีอำนาจตัดสินใจเต็มที่ตามรัฐธรรมนูญ เคลียร์ดราม่า “พิธา” ลงพื้นที่แข่งแย่งซีนแก้ไฟป่า ย้ำยังไม่ประกาศ จ.เชียงใหม่ เป็นเขตภัยพิบัติ หวั่นผลลบกระทบนักท่องเที่ยวเผ่น ประกันไม่คุ้มครอง ยันรัฐบาลจัดงบฯกลางให้มากกว่างบฯฉุกเฉินอีก “ครูมานิตย์” ฉะ “ทิม” ไม่ปกติ เป็นนักมายากลแสดงได้ทุกเรื่องไม่สนมารยาทการเมือง ทีมโฆษกรัฐบาลโต้คลิปเงินทอนงบฯดับไฟป่า ท้า “บก.ลายจุด” ส่งหลักฐานตรวจสอบอย่ากล่าวหาลอยๆ “พิธา” ติงสู้ฝุ่นพิษเกาไม่ถูกที่คัน บี้ทวงไทม์ไลน์แก้ปัญหา ชกข้ามรุ่นสอนมวย “นายใหญ่” กู้เศรษฐกิจอย่าใช้เข็มทิศผิด ไม่ใช่บริหารแบบน้ำหยดอย่างที่เคยชินจากกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ติดตามการแก้ปัญหาไฟป่าและปัญหาฝุ่น PM ๒.๕ และได้พบปะกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จนมีการตั้งข้อสังเกตว่ามีภาพการมีนายกฯทับซ้อน โดยนายกฯเน้นย้ำว่าไม่ได้ใส่ใจประเด็นนี้ และพร้อมรับฟังคำแนะนำจากอดีตนายกฯทุกคน เศรษฐา ทวีสินนายกฯเผย ๖๐ วันลุ้นสัญญาฟอร์มูล่า Eเมื่อเวลา ๑๑.๐๐ น. วันที่ ๑๗ มีนาคมที่โรงแรมอนันตรา เชียงใหม่รีสอร์ท นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง หารือร่วมกับตัวแทนผู้บริหารฟอร์มูล่า E จากนั้นเวลา ๑๒.๐๕ น. นายเศรษฐา เปิดเผยว่า มีข่าวดี หลังได้พูดคุยและมีกำหนดขั้นตอนต่อไปชัดเจน ดูสถานที่ สถานที่ว่าจุดไหนเหมาะสม ที่เป็นไปได้สูงคือสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ ๗๐๐ ปีหรืออุทยานหลวงราชพฤกษ์ฟอร์มูล่าจะไปดูทางเทคนิคว่าสถานที่ใดจะเหมาะสมที่สุด ส่วนเม็ดเงินที่จะตามมายังไม่ได้ดู หากจะจัดงานประมาณต้นปี ๒๕๖๘ แต่คงไม่หลังวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์๖๘ เพราะเป็นช่วงฤดูหนาว และยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว และยังเป็นมิตรกับธรรมชาติเข้ากับธีมรัฐบาลสนับสนุนให้มีการลงทุนให้ประเทศไทยเป็นฮับการผลิตรถอีวี คาดว่าอีกไม่เกิน ๖๐ วัน น่าจะสรุปได้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เป็นขั้นตอนการต่อรองสัญญากันขยายวงขายท่องเที่ยววัฒนธรรมนายเศรษฐากล่าวว่า ในอดีตคนที่มาเที่ยว จ.เชียงใหม่ มาดูวัฒนธรรมศิลปะทั่วไป แต่ยังไม่สามารถดึงนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่งมาได้ จึงเป็นการเปิดช่องทางใหม่ หวังว่าเมื่อเขามาดูการแข่งขันฟอร์มูล่า E จะมาดูวัฒนธรรมของเราต่อไปได้ ส่วนการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิง จ.เชียงใหม่ ได้ขยายเรียบร้อยแล้ว แต่จะขยายไปทั่วประเทศหรือไม่ต้องดูโซนนิง ความเหมาะสม ความต้องการแต่ละพื้นที่ด้วย ส่วนกรณีกระทรวงการต่างประเทศฟินแลนด์ ระงับรับคำร้องขอตรวจลงตราวีซ่าเซงเก้นของคนไทยที่จะไปเก็บเบอร์รีป่า เพิ่งรับรายงานเมื่อคืนวันที่ ๑๖ มีนาคมได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศตรวจสอบแล้ว อยู่ในช่วงสำคัญต้องเจรจาฟรีวีซ่า ไม่อยากให้ ระคายเคืองถ้ามีโอกาสควง “ทักษิณ” ลงพื้นที่แน่เมื่อถามถึงการลงพื้นที่ตรวจราชการและการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (คณะรัฐมนตรีสัญจร) จ.พะเยา นายกฯตอบว่า ยังไม่มีอะไรพิเศษ ประชุม คณะรัฐมนตรีธรรมดา เป็นความตั้งใจของรัฐบาลจะลงพื้นที่ทุกภาค จะลงพื้นที่ต่อเนื่อง เพราะจนถึงกลางเดือน พฤษภาคมไม่มีกำหนดการไปต่างประเทศเลย วันที่ ๒๓ มี.ค. จะไป จ.พิจิตร วันที่ ๒๔ มีนาคมลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา เมื่อถามว่าจะได้เห็นภาพนายกฯลงพื้นที่คู่กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือไม่ เพราะเวลานายทักษิณลงพื้นที่ประชาชนต้อนรับและปฏิเสธไม่ได้ว่านายทักษิณเป็นคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย (พท.) นายกฯตอบว่า “อ๋อ แน่นอนท่านเป็นผู้ก่อตั้งพรรค พท.มา และเป็นจิตวิญญาณของพรรค เป็นนายกฯที่มีความเป็นป๊อปปูลาสูง พูดไปหนที่ ๑๐ แล้ว ตรงนี้เชื่อว่าถ้าเราไม่ดึงนายทักษิณมาช่วยตรงนี้ ประเทศไทยจะไม่ได้ประโยชน์เต็มที่ แต่ยังไม่ได้นัด แต่ถามว่ามีโอกาสเป็นไปได้ไหม มีโอกาสอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นนายกฯคนไหนก็ตามที อดีตนายกฯคนไหนที่อยากจะลงพื้นที่ด้วยผมยินดี”ไม่หวั่นภาพนายกฯทับซ้อนเมื่อถามว่านายกฯเคยพูดว่าเห็นอดีตนายกฯ ทักษิณลงพื้นที่แล้วประชาชนมีรอยยิ้ม ทำให้สังคมเข้มแข็ง นายกฯกล่าวว่า อย่างที่บอก ทุกๆรอยยิ้มเป็นกำลังใจในการทำงานและเป็นอะไรที่อยากเห็นบนใบหน้าของประชาชนในทุกที่ที่ไปไม่ว่าใครทำให้เกิดรอยยิ้มก็ตามที เมื่อถามว่าไม่สนคำพูดที่มองว่ามีนายกฯทับซ้อนใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่เคยคิดเลยครับไม่เคยมีประเด็นตรงนี้ เราทราบดีอยู่ว่าอดีตนายกฯหลายท่านมีความนิยมชมชอบสูงและเชื่ออย่างหนึ่งจะเป็นอดีตนายกฯจากพรรคไหนก็ตามที ทุกท่านมีความหวังดีกับประเทศชาติ จะวิธีการคิดหรือนโยบายต่างๆ มีความแตกต่างกันไป “วันนี้ผมเป็นนายกฯอยู่ตรงนี้ ต้องบริหารความคาดหวังของประชาชนทุกคน อดีตนายกฯเป็นหนึ่งในประชาชนคนหนึ่งเหมือนกัน เชื่อว่ามีความหวังดี ส่วนความเป็นไปได้ในข้อแนะนำหรือเปล่า เราต้องมาดูในการบริหารจัดการทางราชการ ดูงบฯ และความเหมาะสมที่จะถูกจับออกมา ไม่ได้คิดอะไร ยินดีรับฟังเสมอ” นายกฯกล่าวไม่บั่นทอนจิตใจ ไม่รำคาญที่จะตอบเมื่อถามว่านายกฯคิดจะขจัดคำนี้หรือไม่ที่ถูกมองว่ามีนายกฯ ๒ คน นายเศรษฐากล่าวว่า “โอ๊ย ผมไม่มีความคิดจะขจัดหรอก จะมี ๒ คน ๓ คน ๔ คน ๕ คน ไม่ได้ใส่ใจตรงนี้ มันไม่ได้เป็นคอร์รัปชัน หรือไร้ประสิทธิภาพในการทำงานที่มันต้องขจัด แต่ข้อวิจารณ์นี้ประเทศเราเป็นประเทศที่มีสิทธิเสรีภาพในการพูดได้ อยู่ภายใต้กฎหมาย ฉะนั้นถ้าอยากจะพูดแสดงว่าเป็นข้อที่พี่น้องประชาชนสนใจ หน้าที่ตนก็ต้องตอบ ต้องบริหารราชการแผ่นดินต่อไปเท่านั้นเอง ไม่ได้คิดอะไรเลยสักนิดเดียวไม่ได้เป็นการบั่นทอนกำลังใจเลย ไม่ได้รำคาญที่จะตอบด้วย พรุ่งนี้ถามอีกผมก็ตอบอีก ไม่ได้ว่าอะไรเลย” เมื่อถามว่าดูเหมือนนายกฯจะตอบเก่งมากขึ้น นายเศรษฐาหัวเราะ พร้อมย้ำว่า ไม่ได้ตอบเก่งมากขึ้น มันออกจากใจ มันคือความจริง ไม่รู้ จะตอบยังไง ของพรรค์นี้ท่านถามอย่างไรก็ตอบเหมือนเดิมทุกอย่าง การวิจารณ์เป็นธรรมดาทั้งเชิงบวกเชิงลบ สิ่งที่ลบถ้าแก้ไขได้ก็แก้ไขลั่นมีอำนาจตัดสินใจเต็มที่ตาม รธน.เมื่อถามว่าแต่การวิจารณ์มองไปถึงอำนาจการตัดสินใจด้วย ยังยืนยันหรือไม่ว่าอำนาจยังอยู่ที่ตัวนายกฯ นายเศรษฐากล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจว่า “ยืนยันครับผม นายเศรษฐา ทวีสิน คือนายกฯและมีอำนาจตัดสินใจเต็มที่ภายใต้รัฐธรรมนูญของราชอาณาจักรไทย” เมื่อถามว่าช่วงสงกรานต์นายกฯจะมาเล่นน้ำสงกรานต์ ที่ จ.เชียงใหม่ กับนายทักษิณ หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่ได้มา จ.เชียงใหม่ ช่วงนั้นไปลงพื้นที่ จะมี จ.ราชบุรี เพชรบุรี และหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หากจะเล่นน้ำคงเล่นอยู่แถวนั้น คงไม่มา จ.เชียงใหม่ แน่นอน บอกไว้ก่อนเลยว่าไปหัวหินยังไม่ประกาศเชียงใหม่พื้นที่ภัยพิบัติเมื่อถามถึงปัญหาฝุ่น PM ๒.๕ ที่เคยระบุปลายเดือน มีนาคมและต้นเดือน เมษายนค่าฝุ่นละอองจะเพิ่มมากขึ้น นายกฯตอบว่า ปลายเดือน มีนาคมจะเป็นช่วงพีกเราไม่ย่อท้อ เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลอนุมัติงบกลางให้ประชาชนมาช่วยกันดูแลทรัพยากรของชาติร่วมกัน เมื่อถามว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ฝากนายกฯถาม ผวจ.เชียงใหม่ว่าทำไมไม่ประกาศภาวะฉุกเฉิน เพราะงบฯหรือไม่และอยากให้เพิ่มกำลังคนช่วยดับไฟป่า นายกฯกล่าวว่า งบฯเรามีให้อยู่แล้ว ทุกวันนี้ทำอยู่แล้ว เมื่อถามย้ำว่าไม่จำเป็นต้องประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ยัง รัฐบาลให้งบกลางมากกว่าที่ออกงบฉุกเฉินอีก เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลออกให้ และประสานกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรฯ มาทำฝนเทียม ช่วยทำตลอด ยุทโธปกรณ์ เฮลิคอปเตอร์จากหลายหน่วยงานมาอยู่ที่นี่ เพื่อสูบน้ำไปดับไฟป่า ฝนหลวงบินขึ้นทำภารกิจทุกวัน เชื่อว่าจะควบคุมฝุ่น PM ๒.๕ ได้ แต่ขึ้นอยู่กับความคาดหวังด้วยเหมือนกัน ไม่ได้บอกว่าอากาศ จ.เชียงใหม่ดี แต่เลวร้ายน้อยกว่าปีที่แล้วเยอะบางพื้นที่และบางพื้นที่มีจุดฮอตสปอตน้อยกว่าปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน ๒ ใน ๓ แต่ยังสูงอยู่ดี ต้องทำงานกันต่อไป กำลังคนดับไฟป่าวางไว้ ๑ หมื่นคน ต้องบริหารจัดการบุคลากรให้ดีผลดีมากกว่าผลเสียหวั่นกระทบ นทท.เมื่อเวลา ๑๔.๑๗ น. นายเศรษฐาได้ทวีตข้อความผ่าน Xว่า จากกรณีมีคำถามมาถึงว่า ทำไมจึงไม่ประกาศให้ จ.เชียงใหม่ เป็นพื้นที่ฉุกเฉินในขณะที่ค่าฝุ่นสูง ได้รับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว เกรงว่าหากประกาศจะส่งผลทางลบมากกว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้นคือจะกระทบกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เพิ่งฟื้นตัวหลังจากผลกระทบโควิด-๑๙ เพราะนักท่องเที่ยวที่ซื้อประกันมาจากบ้านเขา หากเข้ามาท่องเที่ยวในเขตภัยพิบัติหรือพื้นที่ฉุกเฉิน ประกันจะไม่คุ้มครองทันที แน่นอน จ.เชียงใหม่ จะเสียนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจมาเที่ยวทั้งระยะสั้นและระยะยาว เราเป็นห่วงกันตรงนี้ ส่วนงบกลางที่รัฐบาลจัดสรรไปที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมเบิกจ่ายเมื่อวันที่ ๑๖ มี.ค. ขอย้ำว่าเป็นการจัดสรรงบตรงถึงมืออาสาสมัครที่อาสาเข้ามาดูแลเฝ้าระวังไฟป่า เป็นครั้งแรกที่จัดสรรงบฯลักษณะนี้ เพราะต้องการจ้างคนในพื้นที่มาดูแลรักษาพื้นที่ ตามโจทย์ของพื้นที่ และงบฯที่ให้ไปมีมากกว่างบฯฉุกเฉินด้วย วิธีบริหารจัดการเรื่องฝุ่นมีหลายวิธีรัฐบาลพร้อมรับฟังทุกข้อเสนอแนะ แต่รัฐบาลต้องตัดสินใจเลือกทางที่ดีและมีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับพี่น้องประชาชนที่ต้องทำมาหากินด้วยครับ” “พระลำพูน” ให้พรอยู่ครบวาระ ๔ ปีต่อมาเวลา ๑๔.๒๐ น. นายกฯเดินทางมายังบ้านดอนหลวง ต.แม่แรง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน พร้อมนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการคมนาคม เพื่อพบปะประชาชน เยี่ยมชมบูธสินค้าซอฟต์พาวเวอร์ สินค้าเกษตร เช่น เสื้อลายงัวน้อย ซอฟต์พาวเวอร์ จ.ลำพูน รับมอบภาพวาดเหมือนนายกฯจากสีครามธรรมชาติ โดยนายกฯได้สักการะองค์พระประธานบนอุโบสถ วัดดอนหลวง พร้อมกราบนมัสการเจ้าอาวาสวัดดอนหลวง เจ้าอาวาสได้สะท้อนปัญหาไฟฟ้าริมทางและการปรับปรุงถนน เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว นายกฯได้มอบหมาย สส.ลำพูน เสนอเรื่องเข้า คณะรัฐมนตรีก่อนที่เจ้าอาวาสได้มอบแท่นพิมพ์ พระรอด ลำพูน พร้อมกล่าวกระเซ้านายกฯว่า “ของจริงไม่มีแล้ว หากมีคงรวยไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ขอให้นายกฯอยู่บริหารประเทศครบ ๔ ปี” จากนั้นพระสงฆ์นำสายสิญจน์ผูกข้อมือ พร้อมทำพิธีปัดเป่าทุกข์โศกโรคภัยให้ก่อนมอบพระคริสตัล รูปหล่อครูบาเจ้าศรีวิชัยให้นายกฯ และนายก อบต.ลำพูน มอบพระเชียงแสนสิงห์ ๓ หน้าตัก ๑๕ นิ้วทำจากไม้ศรีมหาโพธิ์ ขณะที่กลุ่มเกษตรกรสภาอาชีพเกษตรกร (สอก.) ถือป้ายข้อความว่า “พ.ร.บ. ลำไย คือ หัวใจของเกษตรกรการแก้ปัญหาลำไยต้องจบในรัฐบาลนี้” พร้อมยื่นหนังสือให้นายกฯ ก่อนกล่าวว่า “ขอให้อยู่ไปนานๆเพื่อเป็นกำลังใจพี่น้องเกษตรกร”ฝากการบ้านพาณิชย์ขยายตลาดลำไยนายกฯกล่าวกับประชาชนว่า วันนี้มาเป็นรัฐบาลได้ ๖ เดือนกว่า ดีใจที่ได้มาเยือน จ.ลำพูน ฟัง ผวจ.ลำพูน รายงานมีเรื่องดีๆหลายเรื่อง เช่น ลำไย พืชเศรษฐกิจสำคัญสุดของ จ.ลำพูน หากผลิตผลออกมาดีมีตลาดชัดเจน รายได้พี่น้องประชาชนจะสูงขึ้น รัฐบาลนี้ โดย สส.ลำพูนได้ผลักดันยุทธศาสตร์ลำไยเข้าสู่สภาฯแล้วอยู่ในช่วงดำเนินการ ทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นได้ชิมมะม่วงรสชาติดีจะฝากกระทรวงพาณิชย์ให้เปิดตลาดต่างประเทศด้วย เชื่อว่าการท่องเที่ยวของ จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา เชียงราย และภาคเหนืออีกหลายจังหวัดรวมตัวกันจะกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก ส่วนการขยายสนามบินล้านนา ตั้งอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ เชื่อว่าการเดินทางจาก จ.เชียงใหม่ มา จ.ลำพูนจะใช้เวลาไม่นาน ดีใจที่ได้ใส่เสื้อผ้าฝ้าย จ.ลำพูน เดินทางไปต่างประเทศพยายามผลักดันสินค้าไทยจากทุกภูมิภาคจากทุกจังหวัดที่ไปใส่เสื้อผ้าขาวม้าชมงาน “ฮักไทยฯ”ต่อมาเวลา ๑๖.๐๐ น. นายกฯไปที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล festival เชียงใหม่ สวมเสื้อลายผ้าขาวม้า เยี่ยมชมงาน “ฮักไทย เสน่ห์วิถีไทยสไตล์ใหม่ Thainess Station สินค้าไทย ร่วมใจเพื่อชุมชน” ของกลุ่มเซ็นทรัล และบริษัทในเครือนำร่องจำหน่ายผ้าขาวม้าจากชุมชน ต่อยอดและยกระดับสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย ด้วยการรับซื้อสินค้าไทยจากชุมชนนำมาจัดแสดงและจำหน่าย อาทิ ผลิตภัณฑ์จากผ้าขาวม้า เครื่องจักสานจากกระจูด และผ้าคราม เบื้องต้นมีการรับซื้อผ้าขาวม้าจาก ๖ ชุมชนทั่วประเทศ โดยนายกฯเดินเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์จากผ้าขาวม้าด้วยความสนใจ พร้อมกล่าวชื่นชมกลุ่มเซ็นทรัลที่จัดผลิตภัณฑ์จากผ้าขาวม้าวางจำหน่ายอยู่ในโซนด้านหน้าห้าง ท่ามกลางประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยในห้างสรรพสินค้า ต่างเข้ามาขอถ่ายภาพร่วมกับนายกฯอย่างคึกคักขอใจเย็นรอเงินดิจิทัลได้แน่จากนั้นนายกฯไปที่คลองแม่ข่า ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ ติดตามการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและยกระดับสินค้าซอฟต์พาวเวอร์ เป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินของนักท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ ทันทีที่นายกฯเดินทางมาถึงมีมวลชนเสื้อแดงเชียงใหม่ มารอมอบดอกไม้ต้อนรับ พร้อมตะโกนว่านายกฯ เศรษฐา เพื่อไทยรักนายกฯ นายกฯสู้ๆ จากนั้นนายกฯ เยี่ยมชม ๒ ข้างทาง แวะทักทายนักท่องเที่ยว และระหว่างนายกฯ เดินทักทายประชาชน มีชาวบ้านถามนายกฯว่าเหนื่อยหรือไม่ นายกฯตอบว่า “ไม่เหนื่อยครับ” และมีประชาชนที่อยู่ชั้น ๒ ของบ้านตะโกนถามนายกฯว่า เงิน ๑ หมื่นบาท ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะได้หรือไม่ นายกฯยืนยันว่า “ได้ครับ ได้ครับ ใจเย็นๆ คอยก่อน” รวมถึงมีพ่อค้าแม่ค้าสูงวัยมารอผูกผ้าขาวม้าลายสีฟ้าคาดชมพูให้นายกฯ และนายกฯได้อุดหนุนซื้อกางเกงลายช้าง ๕ ตัว ทั้งนี้ จุดดังกล่าว เมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคมนายทักษิณ และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท.ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ได้เดินทางมาเช่นกันซ้อมปั่นจักรยานก่อนเปิดงานบึงสีไฟฯก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา ๑๒.๐๕ น. ที่โรงแรมอนันตรา รีสอร์ท จ.เชียงใหม่ นายเศรษฐาได้ทดลองรถจักรยานที่จะนำไปร่วมปั่นในพิธีเปิดโครงการพัฒนาบึงสีไฟเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบฯ วันที่ ๒๓ มี.ค. ที่สนามจักรยานสราญจิตมงคลสุข สนามปั่นจักรยานรอบบึงสีไฟ จ.พิจิตร พร้อมเปิดเผยว่า พิธีดังกล่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดโครงการฯ ส่วนตนจะร่วมปั่นด้วยเป็นระยะทาง ๑๐.๔ กิโลเมตร รถจักรยานที่ใช้สีดำทรงสตรีทไบค์ ปรับได้ ๑๒ เกียร์ สมัยก่อนรถจักรยานที่ตนใช้ปั่นเมื่อ ๑๐-๒๐ ปีก่อนมีเพียง ๘ เกียร์เท่านั้น กระทั่งเวลา ๑๗.๔๕ น. นายกฯเดินทางมายังอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อ.แม่ริม เพื่อซ้อมปั่นจักรยาน บอกถ้าไม่มีขึ้นเขาสบายๆต่อมานายกฯในชุดเสื้อโปโลสีเหลือง กางเกงวอร์มสีกรมท่า พร้อมสวมอุปกรณ์สำหรับปั่นจักรยานเสือภูเขา เปิดเผยภายหลังซ้อมปั่นจักรยานว่า สบาย คงไม่ต้องซ้อมแล้ว หากไม่มีขี่ขึ้นเขาสบายๆ และเริ่มคุ้นกับจักรยานคันนี้แล้ว คิดว่าถ้า ๑๐ กิโลเมตรก็โอเค ถ้าไม่มีขึ้นเขาเยอะ วันนี้ซ้อมขี่ไปเกือบ ๕ กิโลเมตร ส่วนเส้นทางปั่นจริงไม่แน่ใจว่าจะเป็นเส้นทางปกติหรือไม่ เมื่อกลับ กทม.แล้วคงไม่ได้ไปซ้อมปั่นจักรยานที่ไหน เพราะไม่มีเวลาแล้ว คงจะไปเตะฟุตบอลเอาแรงแทน เมื่อ ๒๐ ปีที่แล้วขี่จักรยานบ่อยมากขี่ทุกเย็นเลย แต่เทคโนโลยีจักรยานมันเปลี่ยนไปเยอะ มีแค่ ๗ จานเปลี่ยนไปเป็น ๙ หรือ ๑๒ จาน ก็ไม่รู้ ทำให้เวลาปั่นขึ้นเขาเบามาก“ธรรมนัส” ยันโควตา พปชร. ไม่เปลี่ยนที่สหกรณ์การเกษตรเมืองพะเยา จำกัด จ.พะเยา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีไปร่วมรับประทานอาหารกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่กรีนวัลเลย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มองว่าจะเป็นการหวนกลับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ว่า เรื่องพรรคการเมืองยังอีกนาน ก็เป็นการร่วม มีรัฐมนตรีไปหลายท่าน ตนอยู่ในพื้นที่ตรวจราชการที่ จ.เชียงใหม่ นายกฯชวนไปก็เลยไป เมื่อถามถึงกรณีกระแสข่าวปรับ คณะรัฐมนตรีที่พรรคเพื่อไทยอยากได้กระทรวงเกษตรฯคืน ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า การปรับ คณะรัฐมนตรีเป็นเรื่องของนายกฯ และโควตากระทรวงเกษตรฯและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นโควตาของพรรคพลังประชารัฐ เมื่อถามว่าการปรับ คณะรัฐมนตรีในรอบนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะกลับมาหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า “ไม่ครับ ในส่วนของพลังประชารัฐไม่มีเปลี่ยนแปลง”“ครูมานิตย์” ฉะ “ทิม” นักมายากลนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรค พท. กล่าวถึงการเดินทางมาเชียงใหม่ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.แบบบัญชีรายชื่อและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าวัดพลังกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯว่า นายพิธาเป็นคนไม่ปกติอยู่แล้ว เป็นนักมายากลที่ทำได้และแสดงได้ทุกเรื่อง ผลที่ได้เป็นแบบไหนเขาไม่ได้ประเมินแต่อะไรที่เป็นโอกาสเขาไม่ซีเรียสไม่ได้ประเมินถึงมารยาท ความเหมาะความควร สังเกตได้จากพฤติกรรมที่ผ่านมาหลายเรื่องทำอะไรก็ได้ ที่บอกว่ามา จ.เชียงใหม่เพื่อประชาชน ไม่ได้คิดเรื่องคะแนนเสียง ประเทศไทยมี ๗๖ จังหวัด ถ้าดูเรื่องมารยาทไปวันหลังก็ได้ แต่การเมืองมันต้องคำนึงถึงมารยาทประเทศนี้ทุกคนมีสิทธิไปไหนก็ได้ แต่มารยาททางการเมืองเป็นเรื่องสำคัญ ทำให้คนมองเลยไปถึงเรื่องวุฒิภาวะยังเสียดาย ๑ คะแนนที่ยกมือให้นายพิธาเป็นนายกฯ ในการโหวตนายกฯครั้งแรก ต้องใช้เวลาศึกษามารยาททางการเมืองอีกนาน เป้าหมายการเป็นนายกฯต้องมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ ทั้งนี้เห็นนายทักษิณ ชินวัตร กลับไปเยี่ยมบ้านที่ จ.เชียงใหม่ร่างกายเริ่มฟื้นตัว จากนี้จะสอบถาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค ว่าท่านจะพร้อมให้เข้าพบหรือไม่เฉ่งจัดอีเวนต์ต้องมีวุฒิภาวะนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. กล่าวถึงกรณีนายพิธาลงพื้นที่ดับไฟป่าเชียงใหม่ วันเดียวกับที่นายกฯและนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อยู่เชียงใหม่ว่า คงไม่ใช่ปัญหาหากจะมีใครอาสามาช่วยรัฐบาลทำงาน เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน แต่การลงพื้นที่เพื่อเทียบฟอร์มวัดพลัง หวังประชันขันแข่ง เน้นประโยชน์ทางการเมืองก่อนประโยชน์ประชาชนเหมาะสมหรือไม่ สังคมตัดสินได้ รัฐบาลยืนยันมาตลอดว่าไม่เคยละเลยปัญหาไฟป่าและปัญหา PM ๒.๕ จ.เชียงใหม่ ทำงานคู่ขนานกับสภาฯที่ได้ตั้งคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด หากจริงใจเสนอแนะแนวทางที่เป็นประโยชน์ได้ ไม่มีข้อจำกัด การจัดอีเวนต์ดับไฟป่าแบบไฟไหม้ฟางวูบวาบมาแล้วหายไปประชาชนไม่ได้ประโยชน์ ถ้าหวังจะมาล่าแสงเหนือที่ จ.เชียงใหม่ เจ้าของอีเวนต์คงต้องประเมินว่าได้คุ้มเสียหรือไม่ การจัดอีเวนต์ควรต้องมีวุฒิภาวะมากกว่านี้หรือไม่จุดพลุยุบพรรคซื้อ สส.ใครได้ประโยชน์นายอนุสรณ์กล่าวอีกว่า ส่วนกรณี น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ประเมินว่าพรรค ก.ก.จะถูกยุบแน่นอน ๙๐% ทำไมถึงมั่นใจทั้งที่ยังพอมีเวลาสู้คดี น่าสังเกตว่ากลายเป็นความพยายามของคนจากพรรค ก.ก.และคณะก้าวหน้าเองที่ช่วยกันออกมาวิพากษ์วิจารณ์ฟันธงว่าจะถูกยุบพรรค ถูกตัดสิทธิ ไม่แน่ใจมีเป้าประสงค์อย่างไร สอดรับกับการเคลื่อนไหวเดินสายพบมวลชน จัดลงพื้นที่ถี่ช่วงนี้หรือไม่ กระแสข่าวทุ่มซื้อตัว สส.พรรค ก.ก.ถ้าถูกยุบ ใครจุดกระแส แล้วใครได้รับประโยชน์สูงสุด เท่าที่คุยกับ สส.พรรคร่วมรัฐบาลไม่น่าจะมีพรรคใดไปทุ่มซื้อตัว สส.ก้าวไกล ขัดต่อเจตนารมณ์ของประชาชนที่เลือกมา พรรคร่วมรัฐบาลมีเสียง สส.สนับสนุนมากถึง ๓๑๕ เสียงไม่มีความจำเป็นต้องไปทุ่มซื้อตัว สส.เพิ่มโฆษกฯ รบ.ขอหลักฐานเงินทอนไฟป่านายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณีมีคลิป Live การดับไฟป่าของพรรคก.ก.กับมูลนิธิกระจกเงา ช่วงหนึ่งนายสมบัติ บุญงามอนงค์ พูดคุยกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่า “ที่ผวจ.ไม่กล้าประกาศภัยพิบัติ เพราะไม่มีงบฯเหลือแล้ว เพราะเป็นงบทดรองจ่ายให้บริษัทที่รออยู่แล้ว งบจังหวัดเป็นเงินทอน ดังนั้นพอเกิดภัยพิบัติจริงเลยไม่มีงบเหลือแล้ว” ว่า รัฐบาลได้สั่งตรวจสอบกรณีดังกล่าว ๒ ประเด็นว่าเป็นงบทดรองจ่ายเรื่องอะไร ทำไมต้องจ่าย จ่ายให้บริษัทอะไร เป็นเงินเท่าไร บริษัทรออะไรอยู่และที่ว่างบจังหวัดเป็นเงินทอนค่าอะไร ทอนให้ใครอย่างไร ยอดเงินทอนทั้งหมดเท่าไร ขอความกรุณานายสมบัติได้โปรดให้ข้อมูลรายละเอียดตามประเด็นข้อสงสัยข้างต้น พร้อมส่งมอบหลักฐานตามคำกล่าวหา หากมีหลักฐานเชื่อถือได้ว่าเป็นเรื่องจริงรัฐบาลจะเร่งดำเนินการตามกฎหมาย ขอขอบคุณประชาชนทุกฝ่ายที่ได้แจ้งเบาะแสที่น่าสงสัยมายังรัฐบาล ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญกับความถูกต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อให้ประชาชนสบายใจ เชื่อมั่นในการทำงานของรัฐบาลโวยอย่ากล่าวหากันลอยๆน.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนัก นายกฯ กล่าวว่า การแชร์บทสนทนาผ่านโซเชียลมีเดียระบุว่า งบลุยไฟป่า เป็นงบทอนที่จองไว้แล้วตั้งแต่ไม่มีภัยพิบัติ ไม่ทราบถึงเจตนาผู้พูดมีหลักฐานยืนยันหรือไม่ เพราะก่อให้เกิดความเสียหายกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ขอให้ส่งหลักฐานมาให้รัฐบาลทันที อย่าพูดลอยๆแบบนี้ รัฐบาลเข้าใจสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน แต่ต้องควบคู่กับความรับผิดชอบในคำพูดตัวเองด้วย รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจหากมีหลักฐานยืนยันตัวผู้กระทำผิดขอให้ส่งมาได้เลย หรือจะให้เดินทางไปพบที่ใดก็ได้ และจะนำรายงานต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อตรวจสอบการกระทำผิดดังกล่าวทันที พิธา ลิ้มเจริญรัตน์“พิธา” ติงแก้ปัญหาเกาไม่ถูกที่คันขณะที่เมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. ที่ จ.เชียงใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ก.ก.ให้สัมภาษณ์ถึงการที่นายกฯ ชี้แจงการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM ๒.๕ ว่า เข้าใจข้อจำกัดทางกฎหมายและงบกลาง เข้าใจว่าทำไม ผวจ.ถึงไม่ประกาศเป็นพื้นที่ฉุกเฉิน ต้องฝากนายกฯลองดูว่าทำไม ผวจ.ถึงไม่ประกาศทั้งที่รุนแรงระดับโลก เป็น KPI ของ ผวจ.หรือไม่ ที่บอกว่าประกาศเขตฉุกเฉินแล้ว ผวจ.ไม่กล้าที่จะใช้หรือเปล่า ขอจบตรงนี้ว่าข้าราชการที่นี่ รวมถึงสิ่งที่คนเล่าให้ฟังว่า ผวจ.ที่อยู่แถวนี้ทำงานถึงสามทุ่มสี่ทุ่ม ช่วยกันทำให้ไฟป่าดับ แต่มันเกาไม่ถูกที่คัน อย่างน้อยถ้ายังแก้ไม่ได้ ต้องมาไล่ว่าตอนนี้ทำอะไร เดือนหน้าทำอะไร ปีหน้าทำอะไร รับรองได้จะผ่อนหนักเป็นเบาชกข้ามรุ่นสอนมวย ศก. “นายใหญ่”นายพิธายังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุว่า วิกฤติประเทศไทยตอนนี้หนักกว่าวิกฤติต้มยำกุ้ง เมื่อปี ๒๕๔๐ จะเป็นตัวเร่งให้รัฐบาลเร่งผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเร็วขึ้นหรือไม่ว่า คำว่าเศรษฐกิจไม่ดีมีหลายระดับ ตั้งแต่เศรษฐกิจซึม จนถึงเศรษฐกิจแบบวิกฤติ เช่น เหตุการณ์ต้มยำกุ้ง วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์หรือวิกฤติโควิด มีนิยามในระดับสากลอยู่ เพราะเกี่ยวข้องกันทั่วโลกอยู่แล้ว แล้วจะมีนิยามออกมาว่าวิกฤติไหน GDP ต้องถอยเท่าไหร่ งานวิจัยต้องหายเท่าไรหรือค่าเงินต้องหายเท่าไหร่ ข้อมูลเหล่านี้ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเคยเล่าให้ฟังแล้ว ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดีจริง โตช้าจริง ซึมและการฟื้นฟูหลังผ่านสถานการณ์โควิดยังช้าและแย่มากเป็นอันดับท้ายๆของโลก เป็นปัญหาโครงสร้างทั้งหมด ไม่ใช่ว่าวิกฤติแล้วเศรษฐกิจหายไป ๒๐% หรือตลาดหุ้นหายไปเกินครึ่งเหมือนวิกฤติต้มยำกุ้งหรือค่าเงินบาทปรับเป็น ๕๐ บาท จาก ๒๕ บาท ตอนนี้ สถานการณ์ไม่เหมือนกันแล้ว พอสถานการณ์ไม่เหมือนกัน เราดันไปบอกว่าเหมือนกัน เราจ่ายยาผิดทันที คุณจะจ่ายยาผิด เพราะวินิจฉัยอาการผิด ตอนนี้เศรษฐกิจมันซึม แล้วซึมยาวมาเป็นปีและซึมมาเป็น ๑๐ ปี แต่ปัญหาโครงสร้างส่งออกยังเหมือนเดิม ภาคการผลิตยังเหมือนเดิมอย่าใช้เข็มทิศผิด ใช้น้ำหยดที่เคยชินนายพิธากล่าวต่อว่า ปีนี้งบฯล่าช้า แต่ยังรู้สึกว่าเมื่องบฯผ่านแล้วภาครัฐตั้งใจจะอัดโครงการที่เป็นประโยชน์ออกไปจริงๆ ไม่ใช่แค่สัมมนาหรือซื้อผ้าม่าน อัดฉีดลงทุนในโครงสร้างเข้าไป จะทำให้ GDP โตขึ้น แต่สำคัญที่สุดที่อยากชวนรัฐบาลหรือนายทักษิณด้วย เวลาวัดเศรษฐกิจถ้าคุณวัดผิดจะเป็นเข็มทิศที่ผิด ถ้าคุณไปวัดแค่ GDP ว่าโตเท่าไหร่ ไม่ได้วัดความเหลื่อมล้ำ อยากขอให้ลองหาตัววัดเศรษฐกิจใหม่ๆ เช่น การเพิ่มมูลค่าของเศรษฐกิจตอนนี้เป็นอย่างไร หรือการวัดความร่ำรวยของประชาชน (GDP per capita) ไม่ได้ดูแค่ระดับประเทศ แต่ดูระดับจังหวัด จะทำให้บริหารจัดการได้ง่ายขึ้น ไม่ใช่การบริหารเศรษฐกิจแบบน้ำหยดอย่างที่เคยชิน แต่บริหารเศรษฐกิจแบบฐานรากขึ้นมา จะทำให้เศรษฐกิจเติบโตและเท่าเทียม ตอนนี้ต้องลงรายละเอียดเรื่องที่เปราะบาง โดยเฉพาะภาค SME แต่สำคัญที่สุดคือต้องมี Road Map จะทำอะไร เมื่อไหร่ แต่ขณะนี้ถ้าไม่มีอะไรนอกจากดิจิทัลวอลเล็ตมันเถียงกันเรื่องแบบนี้ตลอดเวลา ภาพใหญ่กลายเป็นโต้กันไปโต้กันมา ไม่สามารถจะแนะนำอะไรไปได้มากกว่าที่ทำอยู่ แต่ถ้ามีแผนชัดเจนน่าจะทำได้ทวงไทม์ไลน์แก้ฝุ่น ติงงบฯ ทส.กว่าจะใช้นายพิธากล่าวอีกว่า อยากสอบถามนายกฯ ไทม์ไลน์แก้ไขปัญหาฝุ่น โดยเฉพาะภาคเหนือสัปดาห์นี้คิดว่าต้องแก้อะไร เดือนหน้าจะเป็นเดือนที่ค่าฝุ่นสูงที่สุดจะแก้อย่างไร ปีหน้าจะแก้อย่างไร ถ้าไม่มีไทม์ไลน์มาให้ ไม่รู้จะฝากอย่างไร ไม่มีการบูรณาการกัน ทุกคนขยับไม่ถูก ขอฝากตุ๊กตาให้นายกฯตอนนี้สายเกินป้องกันแล้ว คงต้องไปดูว่าสิ่งสำคัญที่อยู่ในภาวะ ฉุกเฉินแบบนี้ เช่น หน้ากาก N๙๕ เครื่องฟอกอากาศราคาถูกที่ชาวบ้านเข้าถึงได้ โดยไม่ได้นำเข้าจากต่างประเทศ เมื่อถามว่านายกฯและโฆษกรัฐบาลชี้แจงว่าใช้งบกลางแก้ไขปัญหาแล้ว เป็นมติ คณะรัฐมนตรีออกมา นายพิธากล่าวว่า พระราชบัญญัติการเกิดภัยพิบัติก็ไม่ต้องมี เป็นดุลพินิจว่าจะใช้ได้หรือไม่ได้ แล้วความแตกต่างระหว่างสถานการณ์ปกติกับสถานการณ์ฉุกเฉินแตกต่างกัน สถานการณ์ก็ไม่คลี่คลายลง งบกลางมี ๒ แบบ อย่างของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการทรัพยากรธรรมชาติฯ เข้าใจว่ามีการผ่านงบฯร้อยกว่าล้านบาท เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ให้ท้องถิ่นเข้าร่วมด้วย แต่มันสายเกินไปแล้วกว่าจะเบิกจ่าย กว่าจะเอาไปใช้ ไม่ทราบว่าได้อุปกรณ์ที่ถูกต้องหรือไม่ กับอีกก้อนหนึ่งที่เป็นงบกลางของภัยพิบัติโดยเฉพาะ ให้ ผวจ.นำมาใช้ได้ เชื่อว่าเข้าถึงได้ แต่พี่น้องที่อยู่สถานเด็กเล็กเชียงดาวเข้าไม่ถึงโต้ลงพื้นที่ทำหน้าที่ สส.ดูของจริงเมื่อถามว่าการลงพื้นที่เมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคมโฆษกรัฐบาลตอบโต้ว่าเป็นการรบกวนคนหน้างาน หรือมีการใช้คำว่ามือไม่พายเอาเท้าราน้ำ นายพิธาระบุว่า ๑๐ ปากว่าไม่เท่าตาเห็น ในหน้าที่ สส.มีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ฉะนั้นที่มาดับไฟ มีส่วนช่วยทำให้ทำงานได้ดีขึ้น “ผมเป็นอดีตประธาน กมธ.ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาฯคนแรกของพรรคอนาคตใหม่ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กรมอุทยาน กรมป่าไม้ เข้ามาหาผมและอธิบายถึงสถานการณ์ ให้ฟัง เวลาพิจารณางบฯครั้งหนึ่ง อธิบายเรื่องไฟป่าเข้าใจ แต่พอเวลาฟังกับการที่ลงพื้นที่ มือร้อนๆกับสะเก็ดไฟมาโดนแขนเสื้อ ต้องเอาอุปกรณ์ดัดแปลงมาจากยาฆ่าแมลง ผมพ่นไปแล้วคิดว่ามาฆ่าแมลง แต่จริงๆไม่ใช่ แต่มันต้องสเปรย์น้อยๆ ต้องประหยัดน้ำมากขึ้น เป็นสิ่งที่ฟังอธิบดีเป็น ๑๐ ครั้งไม่เข้าใจ เป็นอะไรที่ต้องเห็นหน้างานด้วยตัวเอง รบกวนเวลาน้อยที่สุด ใช้เวลาสั้นที่สุด เวลาเหยี่ยวไฟมาของบฯจะใจเขาใจเรามากขึ้น สิ่งที่ทำอาจเกะกะเล็กน้อย แต่เชื่อว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่จะได้รับกลับไปคุ้มค่าแน่นอน” ราเมศ รัตนะเชวง“ราเมศ” อัดประเทศไทยไม่ใช่ บ.ทักษิณนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป.กล่าวถึงคำสัมภาษณ์นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่กล่าวถึงการตั้งข้อสงสัยว่าป่วยจริงหรือไม่ เป็นเรื่องดราม่า ไม่ชอบหน้าก็ต่างคนต่างอยู่ว่า ที่บอกว่าไม่ชอบหน้าต่างคนต่างอยู่ คงไม่ใช่หรอก ถ้าต่างคนต่างเห็นด้วยกับความไม่ถูกต้อง เห็นด้วยกับการไม่เคารพหลักกฎหมาย แล้วบ้านเมืองจะอยู่ได้อย่างไร ต้องตรวจสอบท้วงติงตามครรลองในระบอบประชาธิปไตย ที่นี่ประเทศไทยไม่ใช่บริษัทของนายทักษิณ อย่ามุ่งเห็นแต่อำนาจ ถ้าการเลือกตั้งเพื่อหวังแต่เพียงอำนาจมีเสียงข้างมาก แล้วจะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ ไม่ใช่ประชาธิปไตย นายทักษิณคงไม่ต้องกังวลอะไร คนที่ต้องตอบคำถามถูกตรวจสอบคือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นายกฯกับ รัฐมนตรีว่าการยุติธรรมที่มีหน้าที่รับผิดชอบตามกฎหมายอยู่แล้ว สุดท้ายรัฐบาลหนีความรับผิดชอบ ไม่ได้ ถ้าคิดว่ามีอำนาจในประเทศนี้ จะทำอะไรก็ได้ ให้ทำทุกอย่างไปให้สุด ไม่ต้องคิดว่าหลักการความถูกต้องเป็นอย่างไรอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่