Tuesday, 21 May 2024

ดีใจ "คนไทย" ยังอ่านหนังสือ สถิติใหม่ "วันละ" ๒ ชั่วโมง

11 Apr 2024
23

เมื่อวานนี้ผมเขียนเล่าว่า ผมไปเที่ยวงาน “สัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ ๕๒” และ “สัปดาห์หนังสือนานาชาติครั้งที่ ๒๒” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์มาเรียบร้อย…รู้สึกปลื้มและตื่นเต้นมากที่พบว่า มีแฟนๆหนังสือไปอุดหนุนแน่นขนัดเผอิญวันที่ผมไปเดินเป็นวันรองสุดท้ายก่อนปิดงาน จึงยังไม่ทราบว่า ยอดเงินสะพัดจะเป็นอย่างไรบ้าง? โดยเฉพาะยอดจำนวนผู้เข้าไปชมงานจะมากน้อยเพียงไร?พอดีงานรถยนต์ “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ ๔๕” ที่เมืองทองธานี เขาจบไปก่อนและแถลงผลออกมาก่อน ปรากฏว่า ทะลุเป้าในทุกด้านโดยเฉพาะจำนวนผู้เข้าชมงานรถยนต์ปีนี้สูงเป็นประวัติการณ์ถึงกว่า ๑.๖ ล้านคน–ผมซึ่งมีใจลำเอียงมาที่งานหนังสือมากกว่า จึงภาวนาว่าขอให้งานหนังสือมีคนเที่ยวสัก ๑.๗ ล้านคนเถอะ จะได้ “ชนะ” งานรถยนต์ผลปรากฏว่า มีการเผยแพร่ตัวเลขต่างๆของงานหนังสือออกมาแล้วครับ…ทันทีที่ปิดงานได้พักเดียว คุณ สุวิช รุ่งวัฒนไพบูลย์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) ก็ออกมาแถลงกับผู้สื่อข่าว สรุปข้อใหญ่ใจความได้ว่างานสัปดาห์หนังสือปีนี้ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น “เม็ดเงินสะพัด” จากการจำหน่ายหนังสือของสำนักพิมพ์ ๓๒๒ แห่ง ๙๑๔ บูธ รวมแล้วสูงเกินกว่าเป้า ๔๐๐ ล้านบาทที่ตั้งเอาไว้โดยเฉพาะจำนวนคนมาเข้าชมงานก็สูงถึงกว่า ๑.๓ ล้านคน เพิ่มจากปีที่แล้วประมาณ ๑๐ เปอร์เซ็นต์จากนั้นนายกสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯก็เชิญคณะกรรมการฝ่ายต่างๆแถลงข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม โดยเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวกับผลการวิจัยว่าด้วย พฤติกรรมการอ่านหนังสือและการซื้อหนังสือของคนไทยในปัจจุบัน ที่ดำเนินการโดยคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งใช้ตัวอย่างจากประชาชนทุกเพศทุกวัยกว่า ๒,๕๕๐ คนทั่วประเทศ…พบว่าคนไทยมีพฤติกรรมการอ่านหนังสือทุกชนิด ทั้งหนังสือเล่มและอีบุ๊กรวมทุกกลุ่มอายุเฉลี่ยถึง ๑๑๓ นาทีต่อวัน หรือเกือบ ๒ ชั่วโมงต่อวัน และสัดส่วนถึง ๔๕ เปอร์เซ็นต์ ยังเป็นการอ่านหนังสือทุกๆวันเสียด้วยซ้ำหนังสือที่อ่านก็มีทั้งตำราเรียน คู่มือเตรียมสอบ หนังสือพัฒนาตนเอง หนังสือเกี่ยวกับสุขภาพ หนังสือนวนิยาย และสารคดี ฯลฯจริงๆแล้วยังมีพฤติกรรมการอ่านหนังสือของคนไทยที่น่าสนใจอีกมาก แต่ผมขอยกมาแค่ประเด็นนี้ประเด็นเดียวนี่แหละประเด็นที่ย้ำว่า คนไทยยังอ่านหนังสือ และอ่านอย่างใจจดใจจ่อด้วยเฉลี่ยถึง ๑๑๓ นาที หรือเกือบ ๒ ชั่วโมงต่อวัน ดังที่ผลการศึกษาล่าสุดของจุฬาฯค้นพบนั่นเองเราเคยได้ยินวลีที่ว่า “คนไทยอ่านหนังสือ แค่วันละ ๘ บรรทัด” มาเป็นเวลายาวนานเกือบ ๒๐ ปีแล้วกระมัง ซึ่งน่าจะมาจากการสำรวจขององค์กรใดองค์หนึ่งในอดีตเช่นกันกลายเป็นคำพูดที่ติดปากและการอ้างอิงอย่างซ้ำๆซากๆมาโดยตลอดทำให้เป็นห่วงกันมากว่า ถ้าอ่านวันละเพียงแค่ ๘ บรรทัดละก็… ประเทศไทยมีหวังถอยหลังเข้าคลองแน่ๆ เพราะแค่วันละ ๘ บรรทัด จะไปมีประโยชน์อะไรแก่สมองและสติปัญญาของผู้คนที่สำคัญผลสำรวจดังกล่าวก็น่าจะเกิดขึ้นในยุคก่อนที่ “มือถือ” จะ “บูม” เสียด้วยซ้ำ…ทำให้ยิ่งห่วงหนักขึ้นไปอีก ถ้าอุปนิสัยในการอ่านหนังสือของคนไทยยังไม่เปลี่ยนแปลงเพราะในยุคมือถือ คนไทยเรากลายเป็นคนใจร้อนมากขึ้น ใจเร็วมากขึ้น สมาธิสั้นมากขึ้น ไม่อยากอ่านอะไรยาวๆ เอาแต่ไถหน้าจอมือถือดูเฉพาะภาพ หรืออ่านข้อความสั้นๆเท่านั้น-เผลอๆจะทำให้อ่านหนังสือเหลือวันละ “๓ บรรทัด” เสียด้วยซ้ำไปเมื่อผลสำรวจออกมาว่า คนไทยทุกกลุ่มทุกระดับอ่านหนังสือเฉลี่ยถึงวันละ ๑๑๓ นาที หรือเกือบๆ ๒ ชั่วโมงเช่นนี้ยังไงๆก็ต้องเกิน ๘ บรรทัดแน่ๆ อาจจะเป็นหลายๆร้อย หรือหลายๆพันบรรทัดสำหรับคนที่อ่านได้เร็วๆสรุปว่าดีใจครับที่งานหนังสือของเราปีนี้มีข่าวดีหลายอย่าง…รวมทั้งสถิติคนไปเที่ยวงาน ๑.๓ ล้านคน แม้จะไม่ชนะคนไปเที่ยวงานรถยนต์ ๑.๖ ล้านคน แต่ก็ถือว่าเกินล้านและมากกว่าปีที่แล้วถึง ๑๐ เปอร์เซ็นต์ผมมีทฤษฎีที่ผมทึกทัก และสร้างขึ้นมาเองว่า…คนอ่านหนังสือคือคนมีคุณภาพ…และจากงานนี้พิสูจน์ได้ว่า เรามีคนคุณภาพ เพราะไปซื้อและเที่ยวงานหนังสือถึง ๑.๓ ล้านคน…มีมากมายซะขนาดนี้ ประเทศไทยของเราไม่เจริญก็ให้มันรู้กันไปซีน่า.“ซูม”คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม