วันพฤหัสบดี, 2 พฤษภาคม 2567

ความหวัง "เงินหมื่น" ชุ่มชื่นสงกรานต์ก่อนปรับ ครม. : ชาวบ้านได้ลุ้น รัฐมนตรีเก้าอี้ร้อน

ชุ่มฉ่ำเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ไทย รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ วัฒนธรรมประเพณีที่ควรค่ารักษาไว้มอบให้ต่อลูกหลานพี่น้องประชาชนอย่าประมาทเรื่องความปลอดภัย อุบัติเหตุบนท้องถนนเมาไม่ขี่ ดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย มีใครอีกหลายคนรอคุณอยู่ ปีนี้อากาศร้อนรุนแรงระวังฮีตสโตรก บรรดานักดื่มยิ่งต้องระวังระอุภายในเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตแถลงแจกใหญ่จัดหนักกันไปแล้วเมื่อ ๑๐ เม.ย. โครงการดิจิทัลวอลเล็ต พรรคเพื่อไทยเติมเงินหมื่นให้ประชาชน“นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง หวังใจให้เป็นข่าวดีของขวัญประชาชนก่อนเทศกาลแต่จะดีกว่านี้แน่ถ้าแจกทันที ประชาชนได้ใช้เงินช่วงนี้แฮปปี้สุดๆแม้จะเข้าใจได้ในสาเหตุความล่าช้า “ดิจิทัลวอลเล็ต” ไม่มาตามนัด ต้องรอลากยาวไปถึงไตรมาสสุดท้ายสิ้นปี ๒๕๖๗เพราะติดด่านอุปสรรคปัดแข้งปัดขาทั้งภาคราชการ สภาฟันปลอม องค์กรอิสระแต่อีกนัยก็คือเงินไม่มี เดิมทีรัฐบาลจะกู้ด้วยการออกเป็น พระราชบัญญัติกู้เงิน แต่ก็ติดนั่นติดนี่อีก บ้านเมืองนี้คนหวังดีเยอะเหลือเกินกระนั้นมันคือตำหนิที่ปฏิเสธลำบาก หาเสียงตีกินไปก่อน หาเงินค่อยมาคิดทีหลัง แต่ถึงยังไง “นายกฯนิด” ให้คำมั่นขนาดนี้ ไม่มีพลิ้วแน่ ช้าแต่ชัวร์ถ้าตัดเกรดให้แต้ม “ดิจิทัลวอลเล็ต” ตอนนี้ ประเมินให้ผ่านเกรด C รอดูผลงานเชิงประจักษ์อีกที ทำดีขยับเป็น C+ หรือ Bให้ A ไม่ได้เพราะไม่เนียนตรงปก ล่าช้าไปหน่อย ขายฝันจนคนเบื่อ กลัวเจอโรคเลื่อนซ้ำซากแต่สอบผ่านเพราะพูดแล้วทำ แม้วิธีง่ายๆแต่ก็ทำยากกันเหลือเกิน มีไม่กี่พรรคที่หาเสียงไว้แล้วสามารถทำได้จริงสำหรับพรรคเพื่อไทยกับ “ดิจิทัลวอลเล็ต” พูดไว้อย่างไรก็พยายามทำอย่างนั้น แจกหมื่นก็คือหมื่น แม้จะลดจำนวนเป้าหมายไปบ้างจาก ๕๖ ล้านคนเหลือ ๕๐ ล้านคน นั่นก็เข้าใจได้ถึงเงื่อนไขข้อกฎหมายถือเป็นตัวอย่างที่ดีของความเป็นพรรคการเมือง และสามารถพูดได้ว่าเป็นพรรคการเมืองของประชาชนไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ เฉพาะกาล อำมาตยาธิปไตย ที่เป็นเหมือนพืชล้มลุก จะอยู่หรือตายก็ไม่ได้สร้างสรรค์จรรโลงประชาธิปไตยสักเท่าไหร่แต่หากมองมุมกลับ วันนี้พรรคเพื่อไทยพยายามเข็นนโยบายของตัวเอง แม้จะมีการลดเพดานเป้าหมายประชากร ในโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต”โดยแจกเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ตามที่คนบางพวกพยายามชี้นำวัตถุประสงค์อย่างไรก็ตาม ในความรู้สึกประชาชนที่รอคอยเงินหมื่น ก็คงมองว่าดีกว่าการไม่ทำอะไรเลยที่สำคัญ สามารถช่วยทำให้รัฐบาลหลุดพ้นจากข้อครหาร้ายแรง โกหก หลอกลวงเรื่องนี้ใครที่เป็นนักการเมืองรับใช้ใกล้ชิดชาวบ้านรู้ซึ้งดี ศรัทธาประชาชนเป็นสิ่งที่มีค่าอย่างยิ่งในทางการเมืองหากวันใดสูญเสียสิ่งนี้ไป นักการเมือง พรรคการเมืองจะมีสภาพว้าวุ่นแค่ไหน คนในพรรคเพื่อไทยย่อมรู้ดีมองกันยาวๆล้อกับกระแสพรรคเพื่อไทยที่กำลังตกต่ำ “นิด้าโพล” ชี้ว่า “ค่ายส้ม” พรรคก้าวไกล นำไปไหนต่อไหน ไกลกว่าเป็นเท่าตัวแล้วยิ่งเหนื่อยแทนลำพังแค่โครงการดิจิทัลวอลเล็ต แม้สำเร็จจริงก็ยังไม่พอเรียกแต้มให้พรรคเพื่อไทยไปลงสนามเลือกตั้งสู้ได้อย่างสูสีจำเป็นต้องพัฒนาต่อยอด แตกไลน์นโยบายขายให้หนักแต่ต้องไปทีละขั้นวันนี้ผ่านด่านแรกก็สบายใจ ถ้าแป้กตั้งแต่นโยบายเรือธงอันแรกก็ตัวใครตัวมัน กำลังใจดิ่งเหวแน่ชาวบ้านร้านค้าเองก็ยังลุ้นอยู่ กลัวเจอโรคเลื่อนจนหลอน แต่ถ้าเงินถึงมือก็วางใจรัฐบาลเพื่อไทยก็ต้องไปเยียวยาฟื้นฟูความเชื่อมั่นเอาเอง เล่นเองก็เจ็บเองเช่นเดียวกับการฟื้นความเชื่อมั่นศรัทธาการทำงานของรัฐบาลเศรษฐา ๑ ถึงตอนนี้เสียงเรียกร้องปรับ คณะรัฐมนตรีเศรษฐา ๒ ดังอื้ออึงหลังถูกปรามาสผ่านมา ๖-๗ เดือน ผลงานยังไม่เป็นโล้เป็นพาย หลังสงกรานต์ก็นับว่าเหมาะตามสไตล์ “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร ผู้นำจิตวิญญาณเพื่อไทย ที่ในอดีตมักปรับทุก ๖ เดือนนี่ก็เข้าเดือน ๗ มีเม็ดเงินงบประมาณ น่าจะถึงเวลาเติมตัวจริงแสดงฝีมือหมดเวลาโชว์ห่วย เพราะกระแสมันวูบวาบ รอช้าไม่ได้จริงๆข่าวล่ามาไว นายพิชัย ชุณหวชิร ที่ปรึกษานายก รัฐมนตรี และประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มีชื่อโผล่จะมาเป็น รัฐมนตรีว่าการคลัง ที่ตอนนี้ “นายกฯนิด” นั่งควบอยู่ตอบโจทย์ตัวจริงเสียงจริง ต้องการมืออาชีพในช่วงเปลี่ยนผ่านแต่นายกฯยังไม่เลิกควบ มีกระแสอาจเปลี่ยนไปควบ รัฐมนตรีว่าการกลาโหม แทน “บิ๊กทิน” สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกลาโหม ที่ช่วงหลังดูทะแม่งๆ การประชุมหน่วยงานความมั่นคงรับมือสถานการณ์เมียนมา รัฐมนตรีว่าการกลาโหมไม่ได้เข้าร่วม“สุทิน” อาจต้องกลับไปทำหน้าที่ยืนหนึ่งงานในสภาฯตามถนัดเพราะกำลังหลักหลายคน ทั้ง “เสี่ยหนิม” จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการคลัง นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคม ถูกตั้งมาเป็น รัฐมนตรีแล้วทุกวันนี้ยังต้องวนเวียนทำเนียบฯ-สภาตัวเป็นเกลียวหัวเป็นนอตเพราะรุ่นใหม่ไฟไม่แรงพอ ถือเป็นช่วงรอยต่องานสภาที่ขาดไปของพรรคเพื่อไทยส่วนนายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการมหาดไทย คงหมดเวลานั่งเก้าอี้ รัฐมนตรีโควตาภาค ต่างตอบแทน และผลงานไม่เข้าเป้าไม่สามารถยื้อให้อยู่ต่อ สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศลกระทรวงที่มีแนวโน้มสลับเก้าอี้ดนตรี น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการการท่องเที่ยวและกีฬา สลับกับ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการวัฒนธรรม หมุนเวียนผลงานซอฟต์พาวเวอร์ที่ยังไม่ลงตัวน่าสังเกตว่า “รัฐมนตรีปุ๋ง” สุดาวรรณ มักได้รับคำชื่นชมจากนายกฯเมื่อได้โชว์งานออกอีเวนต์แต่ปัญหาคือ มาเป็นจ๊อบๆไม่สม่ำเสมอ และยังมือใหม่ติดขัดหลายอย่างส่วนพรรคร่วมรัฐบาลงานนี้ก็คงไม่พลาดต้องร่วมด้วยขอปรับ รัฐมนตรีชัวร์พรรคพลังประชารัฐวันนี้นิ่งอยู่แค่ว่าจะให้ใครมาถ้าไม่ใช่ “ไผ่ ลิกค์” สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ที่ฝันทำท่าจะค้างเติ่งเพราะยังมีชื่อของ อรรถกร ศิริลัทยากร สส.ฉะเชิงเทรา และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ มาแรงแซงโค้งด้วยแรงส่งจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ๒ รัฐมนตรีว่าการ และ ๒ รัฐมนตรีช่วย โควตาไม่เปลี่ยน แต่คนส่อเปลี่ยนสั่นคลอนสุดๆ ตอนนี้เห็นจะเป็น “เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ ที่โดนเลื่อยขาเก้าอี้หนักคนที่หวังจะแทนไม่ใช่ใคร เจ้าเก่า “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคแว่วว่ามีรายการตวาดเสียงดังลั่นพรรค เล่นกันแรงไม่น้อยเป็นธรรมชาติการปรับ คณะรัฐมนตรีที่มีแรงกระเพื่อมทุกครั้งงานต้องทำบ้านเมืองต้องเดิน แต่ช่วงนี้รัฐมนตรีหลายคนคงไม่อยากไปไหนช่วงสงกรานต์ นั่งรอลุ้นข่าวปรับ คณะรัฐมนตรีมีไม่มี หลุดไม่หลุด ทั้งขาเข้าขาออกถ้าเห็นไปไหว้พระขอพรบ่อยๆ ก็ไม่ต้องแปลกใจว่าช่วงนี้มีงานใหญ่อะไรแต่เป็นเพราะช่วงนี้ รัฐมนตรีเก้าอี้ร้อน ต้องหาที่พึ่งทางใจ รอลุ้นโผปรับ ครม.“ทีมการเมือง”คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม