Tuesday, 21 May 2024

เมียวดีพักรบ ชาวพม่าแห่เล่นน้ำสงกรานต์ ๒ แผ่นดิน ริมน้ำเมย ร่วมคนไทย

14 Apr 2024
25

ชาวพม่าและคนแม่สอดหลายพันคน ร่วมกันเล่นน้ำสงกรานต์ ๒ แผ่นดิน กึ่งกลางแม่น้ำเมยสุดคึกคัก หลังสถานการณ์ชายแดนผ่อนคลาย สร้างสัมพันธไมตรีสงกรานต์บ้านพี่เมืองน้องสองประเทศ สร้างรอยยิ้มเต็มลำน้ำเมยในรอบ ๓ ปี เมื่อเวลา ๐๙.๐๐ น.(๑๔ เม.ย. ๖๗) บรรยากาศสงกรานต์แนวชายแดนไทย-เมียนมา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา คลื่นมหาชนทั้งคนไทยและคนเมียนมาจำนวนหลายพันคนจากฝั่งชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และจากฝั่งชายแดนจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ต่างร่วมกันจัดกิจกรรมสงกรานต์สองแผ่นดินอย่างยิ่งใหญ่ในรอบ ๓ ปี ที่ท่าธรรมชาติบ้านแม่กุท่าซุง หมู่ที่ ๙ ตำบลมหาวัน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยบริเวณแนวตลิ่งริมแม่น้ำเมยฝั่งไทยมีการตั้งร้านจำนวนอาหารพื้นเมือง ส่วนริมตลิ่งแม่น้ำเมยฝั่งประเทศเมียนมา สีสันไม่แพ้กัน มีตั้งซุ้มอาหารพื้นเมืองเมียนมา พร้อมตั้งเวทีเครื่องเสียงริมแม่น้ำเมย เปิดเพลงเต้นรำกันอย่างสนุกสนานแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ ๓ ปี หลังประเทศเมียนมาเกิดความไม่สงบภายในประเทศ และสถานการณ์ความตึงเครียดได้ผ่อนคลายลงในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ ส่วนที่แนวกึ่งกลางแม่น้ำเมย ซึ่งเป็นแม่น้ำสายใหญ่ที่กั้นกลางระหว่างพรมแดนไทย-เมียนมานั้น คนไทยและคนเมียนมาต่างพาลูกพาหลานและคนรักหลายพันคนมาร่วมกันร้องรำทำเพลง และร่วมกันลงเล่นน้ำสงกรานต์ที่บริเวณจุดกึ่งกลางแม่น้ำเมยกันอย่างสนุกสนาน หลายคนไม่ลืมที่จะหยิบโทรศัพท์มือขึ้นมาบันทึกภาพแห่งความสุข แล้วนำภาพส่งต่อความสุขระหว่างสองประเทศผ่านสื่อโซเชียลมีเดียของตนเอง ท่ามกลางการสวมใส่เสื้อผ้าลายดอกสีสดใส สร้างสีสันวันสงกรานต์สองแผ่นดินชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ได้อย่างสุดคำบรรยาย สำหรับการจัดงานสงกรานต์สองแผ่นดินระหว่างไทยและเมียนมา ที่จุดกึ่งกลางแม่น้ำเมยที่แนวชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เป็นกิจกรรมแห่งความสุขที่คนชายแดนทั้งสองประเทศร่วมกันจัดขึ้นเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ไมตรีอันดีงามระหว่างประเทศในระดับท้องถิ่นชายแดน โดยใช้วันสงกรานต์ที่ทั้งคนไทยและคนเมียนมาต่างก็เล่นสงกรานต์พร้อมกัน และใช้แม่น้ำเมยที่กั้นกลางระหว่างพรมแดนเป็นไฮไลต์ภายใต้สโลแกน “แม่น้ำเมยสงกรานต์สองแผ่นดิน มิตรภาพแห่งสายน้ำบ้านพี่เมืองน้อง” สำหรับกิจกรรมสงกรานต์สองแผ่นดินกลางแม่น้ำเมย ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จะจัดเป็นเวลา ๔ วัน ๔ คืน คาดว่าจะช่วยสร้างเม็ดเงินและส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างท้องถิ่นสองประเทศได้อย่างงดงาม