Monday, 20 May 2024

นายกฯ มั่นใจเงินดิจิทัลได้แน่ไตรมาส ๔ เชื่อ ไม่มีอะไรเตะถ่วงให้เลื่อนอีก

15 Apr 2024
29

“นายกฯ เศรษฐา” มั่นใจดิจิทัลวอลเล็ต ๑๐,๐๐๐ บาท ได้แน่ไตรมาส ๔ เชื่อ ไม่มีอะไรเตะถ่วงให้ต้องเลื่อนอีก ชี้ ออกดอกออกผลไตรมาส ๑-๒ ปี ๖๘ ยัน ทุกขั้นตอนสุจริต ตรวจสอบได้ เตรียมผุดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม  วันที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๖๗ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ที่มีความล่าช้า ทำให้หลายนโยบายของรัฐบาลถูกขยับออกไป เช่น โครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital Wallet ที่ก่อนหน้านี้ตั้งเป้าหมายไว้ใช้ภายในต้นปีนี้ ว่า จริงๆ แล้วตนไม่อยากจะโทษเรื่องงบประมาณล่าช้า หากย้อนไปในการจัดตั้งรัฐบาลที่ใช้เวลาประมาณ ๓ เดือนพอดี ถือว่านานที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่แกนนำพรรคเพื่อไทยได้ ๑๔๑ เสียง มาเป็นที่ ๒ และพรรคก้าวไกลได้ ๑๕๑ เสียง เราก็ทำอย่างเต็มที่ ให้เขาฟอร์มรัฐบาลให้ได้ มีการโหวตให้ไม่แตกแถวเป๊ะ และก็โหวตให้พรรคก้าวไกลเต็มที่ทั้ง ๒ ครั้ง ขณะนั้นพรรคก้าวไกลก็บอกมาตลอดเวลาว่าสามารถที่จะฟอร์มรัฐบาลได้ และมีเสียงสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เพียงพอ เราก็ให้เกียรติที่จะสนับสนุน และในต่างประเทศ หากเป็นพรรคอันดับ ๑ อันดับ ๒ ก็จะต้องแข่งขันกัน แต่พอถึงเวลาเราส่งเขาเต็มที่แล้ว ไม่สามารถฟอร์มรัฐบาลได้ ก็เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องรับไม้ต่อ ซึ่งตนก็ทราบว่างบประมาณจะใช้ได้จริงในช่วงเดือนพฤษภาคม และไม่สามารถนำกรณีดังกล่าวมาเป็นข้ออ้างได้ เพียงแต่บอกเฉยๆ ซึ่งเรื่องของการใช้นโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เราทำได้ทั้งวีซ่าฟรี พักหนี้เกษตรกร และลดค่าใช้จ่าย สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เราต้องการเม็ดเงินใหม่ เพราะเราประกาศว่าทุกคนจะต้องได้หมด ใช้งบประมาณ ๕๖๐,๐๐๐ ล้านบาท โดยต้องใช้หมดภายใน ๖ เดือน อายุ ๑๖ ปีขึ้นไป และใช้ภายในอำเภอ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค แต่เอาเข้าจริงเราได้ ๑๔๑ เสียง ไม่ใช่แลนด์สไลด์อย่างที่หวังไว้ และมีหลายภาคส่วนที่เราต้องรับฟัง ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นักวิชาการ รวมไปถึงการตั้งหลักเกณฑ์เงื่อนไขต่างๆ เช่น คนรวยใช้หลักเกณฑ์อะไรในการวัด รวมถึงที่มีการตัดกลุ่มเป้าหมายที่ถูกตัดไป ๑๒% ของวงเงินทั้งหมด และมีการตั้งคำถามว่า จะกู้เงินมาใช้ในโครงการดังกล่าวหรือไม่ จนกระทั่งเราบริหารจัดการตรงนี้“ไตรมาส ๔ นี้ ได้อย่างแน่นอน ยืนยันทุกอย่าง ทุกขั้นตอนตรวจสอบได้ สุจริต บริสุทธ์ใจ ขอให้คอยในไตรมาสที่ ๔”  ผู้สื่อข่าวถามย้ำ มั่นใจหรือไม่ว่าจะไม่มีอะไรมาเตะถ่วงทำให้โครงการเงินดิจิทัลต้องเลื่อนออกไปมากกว่าไตรมาสที่ ๔ ของปีนี้ นายกรัฐมนตรีตอบกลับทันทีว่า “มั่นใจ” เมื่อถามต่อ หากงบประมาณลงมาแล้วมีการประเมินหรือไม่ว่าการขับเคลื่อนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต รวมไปถึงเศรษฐกิจต่างๆ ผลจะออกมาในช่วงไตรมาสใด นายเศรษฐา ระบุ ตนคิดว่าในช่วงไตรมาส ๑-๒ ของปีหน้าจะเห็นผล และนโยบายการท่องเที่ยวจะยังคงเป็นเรือธงในการกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาส ๔ ปีนี้ อย่างการจัดงานทั้งพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.ภูเก็ต ก็เกิดขึ้นมากมาย ส่วนในระหว่างทางที่นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่สามารถขับเคลื่อนได้ รัฐบาลจะมีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ออกมาก่อนหน้าหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ตอบว่า ระหว่างทางจะมีนโยบายอื่นๆ ออกไป ซึ่งเป็นไปตามที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เช่น การสร้างถนน หรืออย่าลืมว่าเกษตรกรยังมีอีกหลายสิบล้านคนที่ต้องดูเรื่องไม่ท่วมไม่แล้ง อย่างไรก็ตาม กรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลให้เงินมากเกินไปจนสุดท้ายไม่ได้อะไรนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวตอบ ชัดเจนว่าเราบอกว่าทำครั้งเดียว แต่การเติมเงินเข้าไปในกระเป๋าทุกๆ คนที่จะเกิดขึ้นในอดีต ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติโควิด-๑๙ เติมเงินเพียงแค่ ๑,๐๐๐-๒,๐๐๐ บาท แล้วไปใช้ที่ไหนก็ได้ แต่ครั้งนี้มีการจำกัดประเภทสินค้า ระยะทางที่สามารถใช้ได้ วันนี้เราต้องการที่จะให้อำเภอเล็กๆ ในจังหวัดต่างๆ ได้ลืมตาอ้าปากด้วย มีโอกาสในการจับจ่ายใช้สอยเงินด้วย เรื่องนี้ตนอธิบายไปหลายหนแล้ว และก็มั่นใจว่าเรามาถูกทาง.