Monday, 20 May 2024

โปรทริว่า มุ่งสู่เป้าหมาย ๑,๕๐๐ ล้าน! ยกระดับแบรนด์ เสริมแกร่งกลยุทธ์ ๓D

18 Apr 2024
20

บริษัท นิวทริชั่น ไซเอนซ์ แลบบอราทอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของแบรนด์โปรทริว่า (PROTRIVA) หนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดซอฟต์เจล ประกาศเปลี่ยนโลโก้ใหม่ ปรับกลยุทธ์ มุ่งสู่การเป็นผู้นำตลาดเสริมอาหารที่ผ่านงานวิจัยรับรองจากสถาบันชั้นนำ พร้อมลุยส่งออกขยายตลาดต่างประเทศบริษัท นิวทริชั่น ไซเอนซ์ แลบบอราทอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินธุรกิจด้าน Well-being มานานถึง ๑๐ ปี และได้สร้างแบรนด์ โปรทริว่า ให้เริ่มเป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้ดูแลสุขภาพมาได้ประมาณ ๔ ปี โดยเริ่มตั้งแต่ช่วง COVID-๑๙ ในช่วงต้นของโปรทริว่าได้เห็นว่าคนทั่วโลกหันมาสนใจดูแลสุขภาพมากขึ้น และในขณะที่ประเทศเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ผลิตภัณฑ์กลุ่มแรกของโปรทริว่าจึงเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในเรื่องของการดูแลสุขภาพ โดยมีผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นของโปรทริว่าคือ Protriva Black Seeds น้ำมันงาดำสกัดเย็น เป็นผลิตภัณฑ์ที่มียอดดี ในกลุ่มน้ำมันงาดำสกัดเย็นในทุกๆ ช่องทางจำหน่าย Protriva Black Seeds มีการทำงานวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีการทำวิจัยในห้องปฏิบัติการเพื่อทดสอบผลิตภัณฑ์ Protriva Black Seeds นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ ยังได้ลงนามทำวิจัย Protriva Black Seeds ร่วมกับ Institut Kurz GmbH ในประเทศเยอรมนี เพื่อต่อยอดจากงานวิจัยเดิมที่บริษัทได้ทำไว้ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์โปรทริว่าได้รับการคัดเลือกจากทางกรุงเทพมหานคร ให้เป็นผลิตภัณฑ์ Bangkok Brand ระดับ Platinum ๒ ผลิตภัณฑ์คือ Protriva Black Seeds และ Protriva ๕ Oil นอกจากนี้ Protriva บริษัทนิวทริชั่น ไซเอนซ์ แลบบอราทอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้คัดเลือกจากกองส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เข้าร่วมประกวดในระดับนานาชาติ The ๗th China (Shanghai) International Invention & Innovation Expo ๒๐๒๔ ที่นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีนโปรทริว่าได้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอดระยะเวลา ๔ ปี นับตั้งแต่ปี ๒๕๖๔ และเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากปี ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา ในปี ๒๕๖๗ ตั้งเป้ากวาดยอดขาย ๑.๕ พันล้านบาท โปรทริว่ามองเห็นโอกาสในการเติบโตของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในประเทศไทย และในภูมิภาคอาเซียน จึงทำการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ โดยทำการปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่ เพื่อเป็นการขยายกลุ่มเป้าหมายให้ ครอบคลุมกลุ่มอายุผู้บริโภคที่กว้างขึ้น และครอบคลุมกลุ่มสุขภาพที่มากขึ้นด้วย ด้วยกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นงานวิจัย โดยทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ของประเทศไทย และสถาบันวิจัยในต่างประเทศ หาเทคโนโลยีในการผลิตใหม่เพื่อสร้างคุณภาพให้ผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งขยายตลาดออนไลน์ ตลาดออฟไลน์ และตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น ในการปรับเปลี่ยนรูปแบบโลโก้ใหม่ครั้งนี้เป็นการยกระดับแบรนด์เน้นการดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่มีความทันสมัย ซึ่งเน้นความชัดเจน และเข้าถึงง่ายเป็นหลัก แต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ โดยมีแนวคิดการปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่ คือ๑. สี ยังคงใช้สีเดิมคือ สีทอง สื่อถึงความพรีเมี่ยม สีดำ สื่อถึงความน่าเชื่อถือ มั่นคง และสีขาว สื่อถึงความ ปลอดภัย บริสุทธิ์๒. ตัดวงรีสีทองที่ล้อมรอบโปรทริว่า สื่อถึงการพร้อมที่จะขยายตัวของธุรกิจออกไปหากลุ่มผู้บริโภคทุกกลุ่ม และตัดเงื่อนไขต่างๆ ที่เป็นกรอบเดิมๆ ออก เพื่อการเติบโต๓. เปลี่ยนฟอนต์ใหม่ เลือกใช้ฟอนต์เป็นโลโก้เลยโดยตรงเพื่อให้แบรนด์เข้าถึงผู้คน และเกิดการจดจำโดยง่าย เลือกฟอนต์ที่มีขา สื่อถึงความหนักแน่น มั่นคง แข็งแรง และน่าเชื่อถือซึ่งในการเปลี่ยนโลโก้แบรนด์ใหม่ครั้งนี้ มุ่งเน้นกลยุทธ์แบบ ๓D คือ๑. D – Distinctive สร้างความโดดเด่น แตกต่าง บริษัทลงทุนกับทำวิจัยโดยมีงบประมาณสำหรับการทำวิจัย ในปี ๒๕๖๗ ๑๕ ล้านบาท เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และมีมาตรฐานสูง โดยทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยของรัฐ และร่วมมือไปยังสถาบันวิจัยในต่างประเทศ เพื่อยกระดับมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงขึ้น๒. D – Demographic ขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่ม โดยจะพัฒนาสินค้าที่หลากหลายให้ตอบโจทย์ทุกความ ต้องการ สร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นไปที่การดูแลสุขภาพของคนทุกช่วงวัย เจาะกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันไป๓. D – Distribution Channel ขยายช่องทางจำหน่าย ตลาดออนไลน์ ตลาดออฟไลน์ และตลาดต่างประเทศ ด้านตลาดออนไลน์ จากประสบการณ์ตลอด ๑๐ ปี ในตลาดออนไลน์ บริษัทฯ ได้มีการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ทุกช่องทางเช่น Facebook, TikTok, Shopee, Lazada, Line, Google โดยมีทีมงานที่เชี่ยวชาญ และเข้าใจการทำการตลาดออนไลน์อย่างสูงตลาดออฟไลน์ ทำการตลาดใน TV Home Shopping และช่องทางการจัดจำหน่ายเป็นร้านขายยาทั่วประเทศ กว่า ๔,๐๐๐ สาขา ทั้งรูปแบบร้านขายยาที่มีสาขาจำนวนมาก รวมถึงร้านขายยาที่เป็นสแตนด์อโลน นอกจากนี้ ยังเพิ่มจุดจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ ๗-๑๑ กว่า ๕,๐๐๐ สาขา รวมไปถึงโมเดิร์นเทรดทั้งหมด เพื่อให้ลูกค้าสะดวกในการซื้อมากที่สุดตลาดต่างประเทศ ด้วยการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ มีแผนเตรียมขยายตลาดไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะในตลาด ASEAN และประเทศจีน โดยเริ่มดำเนินการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในต่างประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเจาะตลาดร่วมกับพาร์ตเนอร์ที่มีความชำนาญในแต่ละประเทศโดยการปรับเปลี่ยนโลโก้แบรนด์ในครั้งนี้จะสอดรับกับแผนธุรกิจในปี ๒๕๖๗ ที่ทางโปรทริว่าจะเดินหน้าขยายฐานลูกค้าทั้งใน และต่างประเทศ พร้อมปักหมุดรุกตลาดที่มีศักยภาพเติบโตสูง เพื่อส่งออกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารระดับงานวิจัย ที่เหมาะกับผู้คนทุกช่วงวัย เพื่อขับเคลื่อนตลาดสุขภาพระดับนานาชาติ ด้วยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และงานวิจัย เพื่อบรรลุเป้าหมายการดูแลสุขภาพผู้คนอย่างยั่งยืน