Tuesday, 21 May 2024

จีเอเบิล โชว์รายได้ All Time High ดันภาคธุรกิจรับ AI FIRST ด้วยกลยุทธ์ “Sustain = Smart + Secure”

27 Feb 2024
72

บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้าน “Tech Enabler” ที่ช่วยยกระดับธุรกิจสู่ยุคดิจิทัลในทุกมิติ เผยกลยุทธ์ปี ๒๕๖๗ มุ่งพัฒนาศักยภาพดิจิทัลโซลูชันควบคู่กับการสร้างความพร้อมในการรับมือทุกความท้าทายให้ภาคธุรกิจ ก้าวสู่เป้าหมายอนาคตด้วย AI Ready Organization พร้อมขยายธุรกิจใหม่ Business Application กับพันธมิตรระดับโลกด้าน HCM ดัน ๕ พอร์ตในเครือ จัดเต็มดิจิทัลโซลูชันที่ตอบโจทย์องค์กรธุรกิจอย่างตรงจุด ผ่านสมการกลยุทธ์สำคัญ “Sustain = Smart + Secure” ในการขับเคลื่อนธุรกิจลูกค้าให้สามารถอยู่รอดและก้าวสู่ความสำเร็จแบบยั่งยืนในยุค AI Firstดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ในฐานะที่จีเอเบิลเป็นบริษัทผู้นำด้านดิจิทัลเทคโนโลยีรายใหญ่ของประเทศในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีฐานความพร้อมทั้งด้านเทคโนโลยีและเงินทุน รวมถึงมีเป้าหมายหลักในการใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลโซลูชันที่ทันสมัยตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจองค์กรในอนาคต (Smart) สามารถปกป้องทุกข้อมูลสำคัญขององค์กรให้ปลอดภัย (Secure) เพื่อเพิ่มขีดสามารถในการทำกำไรและต่อยอดการเติบโตของลูกค้าได้อย่างยั่งยืน (Sustain) ในยุค AI FIRST ดังสมการกลยุทธ์แห่งการเติบโตอย่างยั่งยืน “Sustain = Smart + Secure” เมื่อปี ๒๕๖๖ ถือว่าจีเอเบิลประสบความสำเร็จในการยกระดับเป็นบริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) และการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้จีเอเบิลมีฐานความพร้อมด้านเงินทุนที่สามารถต่อยอดการลงทุนในด้านต่างๆ ทั้ง Capacity และ capability ได้ตามแผนการขยายการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไปในอนาคต และจีเอเบิลยังเป็นเจ้าของ Software Platform ที่มีการเติบโตสูงในหลายด้าน ถือเป็น Growth Engine สำคัญที่ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งมี ๕ บริษัทในเครือเป็นพอร์ตหลักที่มั่นคงในการสร้างรายได้ และมีการใช้ Value-Added Distribution เป็นตัวต่อยอดการเติบโต ขณะที่ยังสามารถรักษาระดับรายได้จากรายได้ประจำ (Recurring income) ได้กว่าครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมด และ มียอด Backlog สูงที่สุดในประวัติการณ์มากกว่า ๔,๕๐๐ ล้านบาทจีเอเบิลในฐานะเป็นผู้ช่วยสร้าง Competitive Edge ให้ธุรกิจแข่งขันด้วยเทคโนโลยีมาตลอดเวลา ๓๕ ปี ทำให้เห็นโอกาสการเติบโตจากนี้เทรนด์ AI ที่มีบทบาทกับองค์กรธุรกิจมากขึ้น ทุกธุรกิจองค์กรจะต้องพัฒนาระบบให้เป็น AI Ready Organization ทั้งระบบ ตั้งแต่การวางโครงสร้างพื้นฐานไอทีบนคลาวน์ การทำระบบ Data Analytics ผ่านซอฟต์แวร์ Big Data Platform รวมไปถึงการวางระบบ Cybersecurity ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อให้ทุกระบบในองค์กรทั้ง Front Office และ Back Office มีความพร้อมในการทำงานร่วมกับ AI ในอนาคต เทรนด์ AI ที่จะเข้ามาสร้างโอกาสเติบโตให้กับจีเอเบิล และอีกหนึ่งโอกาสการเติบโตที่สำคัญ คือ การสร้าง Smart Organization ผ่าน Business Application โดยเฉพาะ Human Capital Management Software (HCM) เพราะทรัพยากรสำคัญ ที่สำคัญ คือ “คน” จากข้อมูลของพาร์ตเนอร์ เผยถึงการเติบโตเฉลี่ยของตลาด HCM ในอีก ๓ ปีข้างหน้าอยู่ที่ ๑๘% เนื่องจากองค์กรต้องการสร้างความสามารถทางการแข่งขันผ่านการสร้างและพัฒนา Talent ซึ่งซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มจะช่วยยกระดับองค์กรในการเอา Big Data และ AI มาใช้ทำ Talent Analytics, Skill Management และ สร้าง Productivity และ Efficiency ของพนักงานแต่ละส่วนงานกลยุทธ์ในปี ๒๕๖๗ ของจีเอเบิล เกิดจากแนวคิดที่ต้องการสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนให้ลูกค้าด้วย Smart + Secure จึงเป็นฐานความคิดในการวางกลยุทธ์ ๓ ส่วนหลัก ดังนี้ ๑. การนำ Core Business ของจีเอเบิลในส่วน Enterprise Solutions and Services ที่มี ๕ พอร์ตหลัก ได้แก่ Data analytics, Cloud, Cybersecurity, Application Development และ Managed Tech Services รวมกับ IP platform ของจีเอเบิล เข้าไปช่วยเตรียมความพร้อมเรื่อง AI Ready Data และ AI Ready Security เพราะยิ่งเทรนด์ AI และ Cybersecurity มีความต้องการสูง ก็จะสร้างการเติบโตให้กับจีเอเบิลมากขึ้น๒. การขยาย Capability ด้วยโอกาสใน Business Application ที่มีศักยภาพด้าน HCM และ ERP ผ่านการเป็นพาร์ตเนอร์กับบริษัทระดับโลกในด้านต่างๆ และเฟ้นหา Smart Business Applications อื่นๆ ที่น่าสนใจเข้ามาช่วยธุรกิจของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง๓. มุ่งเน้นลงทุนในบริษัทที่ตอบโจทย์ทางธุรกิจของจีเอเบิล เพื่อเพิ่มโอกาสที่มีมากกว่าและผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจ สร้างความได้เปรียบในการนำเงินทุนจาก IPO ราวๆ ๖๐๐ ล้านบาท สู่การต่อยอดการเติบโตในอนาคต ภายใต้กรอบ Investment Framework ที่มุ่งเน้น ๓ เรื่องหลัก ๑. Right Product Right Technology ๒. Win-Win Business Synergy ๓. Right Price Right Value นางสาวรวีรัตน์ สัจจวโรดม ประธานบริหารสายงานการเงินและกลยุทธ์ บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี ๒๕๖๖ จีเอเบิลมีรายได้จากการดำเนินการเติบโตอยู่ที่ ๕,๓๓๘ ล้านบาท สูงกว่าปี ๒๕๖๕ ถึง ๑๓% แม้มีปัจจัยภายนอกเข้ามากระทบทั้งความผันผวนของปัจจัยระดับมหภาคและอุตสาหกรรมมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น แต่จีเอเบิลยังคงเติบโตแบบสวนกระแส และสามารถเร่งการเติบโตของรายได้เป็น Double Digit ได้ในทุกส่วนธุรกิจทั้ง Enterprise Solution, Value Added Distribution และ Software Platform จากลูกค้าของจีเอเบิลนอกจากนี้ หลังจากเข้าตลาด จีเอเบิลสามารถสร้างกำไรขั้นต้น จำนวน ๑,๐๙๙ ล้านบาท ในปี ๒๕๖๖ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๐ เมื่อเทียบกับปีก่อน คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับร้อยละ ๒๑ ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีก่อน ด้านกำไรสุทธิปี ๒๕๖๖ อยู่ที่ ๒๕๓ ล้านบาท และจีเอเบิล มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในระดับ ๔,๕๔๔ ล้านบาท และเพิ่มขึ้น ๑๖% จากไตรมาส ๓ ปี ๒๕๖๖ รองรับการรับรู้รายได้ในอนาคต และมี Backlog ที่พร้อมรองรับรายได้ในปี ๒๕๖๗ แล้วกว่า ๒,๗๕๓ ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งของเป้าหมายรายได้ในปี ๒๕๖๗ นอกจากนี้ บริษัทยังมองเห็นโอกาสเติบโตในอนาคตได้อีกมาก จากตัวเร่งความต้องการในการสร้าง AI Ready Organization ที่ลูกค้าต้องทำ AI-Ready Foundation ให้พร้อมทั้ง Data Analytics และ Cybersecurity อีกทั้งยังมีโอกาสเติบโตจากการเป็นพาร์ตเนอร์ใน Business Applications รวมถึงโอกาสการต่อยอดธุรกิจแบบ Inorganic Investment ผ่านการ M&Aจากสมการกลยุทธ์ “Sustain = Smart + Secure” ในปี ๒๕๖๗ จีเอเบิลยังคงดำเนินธุรกิจโดยยึด ๓ เรื่องหลักที่สอดคล้องกับสมการนี้ คือ Smart Finance การสร้างผลตอบแทนทางการเงินเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของ Organic Investment และ Inorganic Investment Secure Finance การรักษาวินัยทางการเงินทั้งในส่วนของ Secure Operation และ Secure Investment โดยมุ่งเน้นการลงทุนอย่างยั่งยืนภายใต้กรอบ Investment Framework เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่าง Secure และ Sustain ได้ในระยะยาว และ Sustain Finance การสร้างความเติบโตทางการเงินอย่างยั่งยืน รวมถึงการป้องกันความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ จะทำให้จีเอเบิลสะสม Backlog เพิ่มขึ้นเพื่อเดินหน้า All Time High ต่อในปีนี้ ประมาณ ๔,๕๐๐-๕,๕๐๐ ล้านบาท ซึ่งคาดว่าปีนี้จีเอเบิลจะรักษาระดับ Gross Profit Margin ไว้ได้ที่ ๒๐-๒๒% ในขณะที่มี Recurring Income เพียงพอที่จะบริหารความเสี่ยงให้นักลงทุนมากกว่า ๕๐% ด้วยการรักษาวินัยทางการเงิน ประกอบกับตอนนี้มีเงินทุนเหลือมากถึง ๖๐๐ ล้านบาท จาก IPO ทำให้มีความพร้อมในปีนี้ที่จะต่อยอดการเติบโต ทั้ง Capacity และ Capability เพื่อตอบรับเทรนด์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี ๒๕๖๗