กมธ.อุตสาหกรรม จี้ หน่วยงานเร่งสอบสาเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอยุธยา เป็นอุบัติเหตุหรือจงใจเผาเพื่อกำจัดกากสารเคมีอันตราย วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๗ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่เกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมีในพื้นที่ อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่า สถานที่เกิดเหตุดังกล่าวไม่ใช่โรงงาน แต่เป็นโกดังที่เก็บสารเคมีและอาจมีวัตถุอันตรายที่รับมาจากโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อกำจัด ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทาง กมธ.อุตสาหกรรม ได้รับการร้องเรียนจาก สส.ในพื้นที่รวมถึงประชาชน และเคยลงพื้นที่ร่วมกับทางกรมโรงงานอุตสาหกรรม และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่าในสถานที่ดังกล่าวน่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับการจัดการของเสียเคมีวัตถุที่อาจเข้าข่ายเป็นวัตถุอันตราย เช่น การกองเก็บและการกำจัดที่อาจไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งทางกรมโรงงานอุตสาหกรรม มีความเห็นว่า ผู้ที่ครอบครองจะต้องดำเนินการจัดการกับเคมีวัตถุที่ได้กองเก็บไว้ให้ถูกต้องตามวิธีและตามกฎหมาย“ดังนั้นกรณีที่เกิดเพลิงไหม้นี้ ผมในฐานะประธาน กมธ.อุตสาหกรรม ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวเร่งดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากอุบัติเหตุ หรือจงใจเผาเพื่อกำจัดกากสารเคมีอันตรายดังกล่าว”นายอัครเดช กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ กมธ.อุตสาหกรรม ได้ดำเนินการยกร่าง พระราชบัญญัติโรงงาน ที่มีเนื้อหาครอบคลุมถึงสถานที่จัดเก็บกากสารเคมีผิดวิธี โดยมีการมีเพิ่มโทษทางอาญา และเพิ่มเบี้ยปรับ เพราะที่ผ่านมากฎหมายยังมีช่องว่าง เช่น โทษอาจไม่ครอบคลุมถึงเจ้าของที่ดินที่ให้เช่า หรือโทษอาญาที่ไม่หนักแน่นพอจึงทำให้เกิดช่องว่างทางกฎหมาย โดยในสัปดาห์หน้าทาง กมธ.จะได้นำร่าง พระราชบัญญัติโรงงาน ฉบับที่ได้มีการศึกษาแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ที่ กมธ.อุตสาหกรรม ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อศึกษาแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งเป็นปัญหาที่เคยเกิดขึ้นที่จังหวัดราชบุรีมาแล้ว และทำร่างกฎหมายเสร็จพอดีในช่วงนี้ เข้ายื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อบรรจุเข้าระเบียบวาระนำไปสู่การพิจารณาเพื่อแก้ พระราชบัญญัติโรงงานต่อไป จะได้แก้ปัญหาการลักลอบการกำจัดกากของเสียอุตสาหกรรมผิดวิธีและสร้างผลกระทบต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชนและส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาวอีกด้วย.
